สาธารณสุข

วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 โรงพยาบาลรามัน จังหวัดยะลา จัดกิจกรรม “โครงการมหกรรมคุณภาพ โรงพยาบาลรามัน ประจำปี 2568” อย่างยิ่งใหญ่ ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลรามัน โดยมี แพทย์หญิงนิยา สือนิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามัน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก  โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระบบบริการสุขภาพ และเพื่อเผยแพร่ผลงานเด่นด้าน การพัฒนาคุณภาพบริการทางการแพทย์ รวมถึงรวบรวมองค์ความรู้จากประสบการณ์จริงของบุคลากรในโรงพยาบาล   แพทย์หญิงนิยา สือนิ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามัน  กล่าวว่า โรงพยาบาลรามันได้จัดมหกรรมคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 11 เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรได้มีเวทีแสดงศักยภาพ กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพบริการสุขภาพ “สำหรับปี 2568 นี้ มีผลงานจากบุคลากรที่ส่งเข้าร่วมกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 639 ผลงาน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนมากที่สุดตั้งแต่เคยจัดมา โดยมีผลงานผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบประกวดจำนวน 204 ผลงาน แบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ  คือ  ประเภท Photovoice จำนวน 95 ผลงาน   ประเภท นวัตกรรม  จำนวน  30  ผลงาน  ประเภท Poster  CQI  clinic  จำนวน  19 ผลงาน    ประเภท Poster  CQI  Non clinic  จำนวน  16  ผลงาน   ประเภท Oral […]

อบจ.กาฬสินธุ์ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายสุขภาพชุมชน พร้อมเดินหน้าพัฒนาศักยภาพ อสม.ทั้งจังหวัดให้มีความรู้ และมีความสามารถในการจัดการดูแลสุขภาพของประชาชน ขณะที่ “ส.ส.หมู วิรัช พิมพะนิตย์” เข้าพบปะให้กำลังใจ พร้อมชื่นชมบุคลากรสาธารณสุข และพี่น้องอสม.ที่ทุ่มเทเสียสละปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ (หลังเก่า) นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายสุขภาพชุมชน จ.กาฬสินธุ์ ประจำปี 2568 ซึ่ง อบจ.กาฬสินธุ์ร่วมกับ สสจ.กาฬสินธุ์จัดขึ้น มี ดร.สม นาสอ้าน รองนายแพทย์สสจ.กาฬสินธุ์ คณะผู้บริหาร อบจ.กาฬสินธุ์ สมาชิกสภาฯ ผอ.รพ.สต. บุคคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ และอสม.เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง และมีนายวิรัช พิมพะนิตย์ หรือ “ส.ส.หมู” กาฬสินธุ์ เขต 1 เดินทางเข้าพบปะให้กำลังใจบุคลากรสาธารณสุข และอสม.ที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้นายวิรัช พิมพะนิตย์ หรือ

           “โรคหัวตก” – Dropped Head Syndrome – DHS อาการป่วย “คอพับ” เกิดแก่หนุ่มญี่ปุ่น วัยแค่ 25 ปี เหตุเพราะใช้เวลาก้มดูใช้โทรศัพท์มือถืออย่างต่อเนื่องยาวนาน ถือเป็น “โรคหายาก” แพทย์ต้องใช้การผ่าตัดจัดกระดูกลำคอใหม่ จนกลับคืนสภาพปกติ เตือนอันตรายอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนหมกมุ่นก้มดูโทรศัพท์เป็นเวลานาน            กรณีหนุ่มญี่ปุ่นป่วยโรคหัวตก ถูกบันทึกลงรายงานวารสารการแพทย์ JOS Case Reports ระบุ ผู้ป่วยรายนี้เกิดอาการ “คอพับ” เพราะใช้เวลาเล่นดูโทรศัพท์มือถือแต่ละวันยาวนาน จนอาการป่วยกำเริบพัฒนาทำลายส่วนกล้ามเนื้อลำคอด้านหลัง เกิดพังผืด ทำให้กล้ามเนื้อคออ่อนแรงจนยกศีรษะไม่ขึ้น            อาการป่วยเริ่มจากปวดคออย่างรุนแรง กลืนอาหารยาก ทำให้น้ำหนักตัวลดลง สุดท้ายอาการป่วยหัวห้อยก็เกิดขึ้นตลอด เพราะกล้ามเนื้อพยุงลำคอ ไม่มีแรงยกศีรษะตั้งตรง    

ชัยภูมิ – เร่งควบคุมได้แล้ว เตือนญาติผู้ต้องขัง-ประชาชนทั่วไป ในช่วงมีอากาศแปรปรวนร้อนจัด การเก็บอาหารเครื่องบริโภคนำไปฝากผู้ต้องขัง หรือ ญาติพี่น้อง ที่เก็บไว้นานเกินเสี่ยงผู้นำไปผู้บริโภคเกิดโรคท้องร่วงหนักรุนแรงเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้ในทุกพื้นที่ด้วย ( 9 พ.ค.68 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ เกิดการระบาดของโรคท้องร่วงมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากในพื้นที่เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีนักโทษที่ถูกต้องขังในโซนผู้ต้องขังหญิงเป็นจำนวนมากเกิดอาการท้องร่วงจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดทางด้าน นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์  บำรุงถิ่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยภูมิ ( ผอ.รพ.ชัยภูมิ ) หรือหมอเหิม(ชื่อเล่น ของหมอหรือนายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ ว่า”เหิม”) ซึ่งเป็นนายแพทย์นักวิชาการและได้รับการยอมรับว่าเป็นนายแพทย์นักพัฒนาโรงพยาบาลเมืองชัยภูมิ จนมาปัจจุบันได้ติดระดับเป็นโรงพยาบาลศูนย์ที่มีคุณภาพในระดับภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปัจจุบันด้วย ที่ชาวจังหวัดชัยภูมิ จะรู้จักกันดีและเรียกกันติดปากมาตลอดว่า “หมอเหิม”ผอ.รพ.ชัยภูมิ กันมาตลอดจนปัจจุบัน ที่ล่าสุดวันนี้มีรายงานว่า ในพื้นที่เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ ที่มีผู้ต้องขังหลายพันคนเกิดมีการระบาดของโรคท้องร่วงที่มีผู้ป่วยในเรือนจำ ในโซนผู้ต้องขังหญิงจำนวนมากเกิดอาการป่วยด้วยโรคท้องร่วงหนักเป็นจำนวนมาก ทางด้านหมอเหิม หรือนายแพทย์  ณรงค์ศักดิ์ บำรุงถิ่น ผอ.รพ.ชัยภูมิ  ที่ได้รับการแจ้งขอความช่วยเหลือด้วยจาก ผอ.เรือนจำ จ.ชัยภูมิ ให้ทาง รพ.ชัยภูมิ ช่วยเข้ามาตรวจสอบ ถึงการเกิดมีผู้ต้องขังมีอาการท้องร่วงระบาดในครั้งนี้เป็นจำนวนมากผิดปกติ ก่อนที่ทางทีมแพทย์ รพ.ชัยภูมิ ได้รีบระดมประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบ ภายในเรือนจำชัยภูมิ วันนี้พร้อมทีมงานปฐมภูมิ ทีม

พ่อเมืองนครพนมนำทีมบุกครัว! โชว์ฝีมือย่างสเต็กเนื้อโคขุน ย้ำชัด \”ปลอดภัย แอนแทรกซ์เป็นศูนย์!\” สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน   วันนี้​ 9 พฤษภาคม​ 68  ที่จังหวัด​ นครพนม – ท่ามกลางกระแสความกังวลเรื่องโรคแอนแทรกซ์ที่กำลังแพร่สะพัดในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างจังหวัดมุกดาหาร ล่าสุด พ่อเมืองนครพนม นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ได้ออกมาเรียกความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยนำทีม​ร่วมกับหัวหน้าส่วน​ เข้าครัวร้านอาหารชื่อดังริมฝั่งโขง โชว์ฝีมือปรุงสเต็กเนื้อโคขุนพรีเมียมด้วยตัวเอง พร้อมยืนยันเสียงดังฟังชัดว่า \”เนื้อโคขุนนครพนม ปลอดภัยจากเชื้อแอนแทรกซ์แน่นอน!\” โดยได้ลงพื้นที่ ร้านอาหารเนื้อดี ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งมีนายสามารถ อ่อนสองชั้น ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม และผู้บริหารบริษัท นครพนมบีฟ ไทยแลนด์ จำกัด ผู้ผลิตเนื้อโคขุนรายใหญ่ของจังหวัด ร่วมกันนำเนื้อโคขุนคุณภาพเยี่ยมจากโรงเชือดที่ได้มาตรฐานมาปรุงเป็นเมนูหลากหลาย ทั้งสเต็กเนื้อ ผัดกะเพรารสจัดจ้าน ลาบน้ำตกรสแซ่บ และต้มแซบร้อนแรง เสิร์ฟให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และคณะผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดที่มาทานอาหารเย็นร่วมกัน ภาพที่น่าประทับใจคือ ท่านผู้ว่าฯ ปราชญา ได้ลงมือทอดสเต็กเนื้อด้วยตัวเองถึงหน้าเตา  เป็นการแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่า เนื้อโคขุนของนครพนมนั้นสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวล นายรัตนะ เจ้าของบริษัทนครพนมบีฟฯ กล่าวด้วยความมั่นใจว่า \”จากข่าวโรคแอนแทรกซ์

  เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารในวันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้รายงานว่สพบผู้ป่วยยืนยันเป็นโรคแอนแทรกซ์เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยที่ยืนยันผลการตรวจแล้วทั้งสิ้น 4 ราย โดยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมุกดาหาร 2 ราย ที่โรงพยาบาลดอนตาล 1 ราย และเสียชีวิตแล้ว 1 ราย และมีผู้ป่วยที่อยู่ในระยะการเฝ้าระวังโรคทางผิวหนังและโรคทางเดินอาหารจำนวน 98 ราย ส่วนในพื้นที่บ้านโคกสว่างหมู่ 6 ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ที่เป็นโรคแอนแทรกซ์เคยใช้เป็นจุดชำแหละซากวัว เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วใส่ฝักบัวนำไปรดทั่วบริเวณโดยรอบ และทำการขึงรั้วตาข่ายเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้าไปในพื้นที่อย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ต่อมา เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร ได้เดินทางไปยังบริเวณริมลำห้วยบางทราย บ้านโคกสว่าง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ชำแหละซากวัวเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาได้นำเอาเศษซากวัวที่เหลือจากการชำแหละแล้วแบ่งปันให้กับคนในหมู่บ้านไปทิ้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วใส่ฝักบัวนำไปรดทั่วบริเวณที่เคยใช้ทิ้งซากวัวดังกล่าว ส่วนซากวัวเจ้าหน้าที่ได้นำไปฝังกลบในที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว  

โรงพยาบาลยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สุดเจ๋ง ผ่าตัดมะเร็งลำไส้ด้วยวิธีส่องกล้องสำเร็จ เผยคัดกรองในรอบ 3 ปี จำนวน 763 ราย ผ่าตัดด้วยวิธีส่องกล้องประสบความสำเร็จแล้ว 10 ราย หลังเข้ารับการผ่าตัดไม่มีอาการผิดปกติ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ สร้างมิติใหม่ในการบำบัดรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มุ่งสู่โรงพยาบาลแม่ข่ายขนาดใหญ่ให้บริการประชาชนครอบคลุม 4 อำเภอ ที่ห้องประชุมม่านเมฆา ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น 3 โรงพยาบาลยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด เป็นประธานเปิดโครงการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยวิธีส่องกล้อง Colonoscopy เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปี 2568 โดยมี ผศ.(พิเศษ) นพ.สุรเชษฐ์ ภูลวรรณ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ รักษาการ ผอ.รพ.ยางตลาด, ดร.สุภัทรา สามัง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษฯ, ดร.เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายกเทศมนตรีตำบลยางตลาด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บุคลากร เจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ผอ.รพ.สต.

  วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีรายงานการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในโคและกระบือในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับจังหวัดนครพนม ขณะนี้ยังไม่พบการระบาดของโรคดังกล่าวในพื้นที่นครพนมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรค พร้อมดำเนินมาตรการเข้มข้นในการควบคุมและป้องกัน นายสามารถ อ่อนสองชั้น ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สุ่มเก็บตัวอย่างจากจุดจำหน่ายเนื้อโค-กระบือ และโรงชำแหละ รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันในจุดเสี่ยง พร้อมทั้งประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต และห้ามบริโภคเนื้อสัตว์จากโคหรือกระบือที่ล้มตายผิดปกติ ทั้งนี้แนะนำให้ประชาชนรับประทานเฉพาะเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกเท่านั้น ในส่วนของการส่งออกโค-กระบือไปยังประเทศเวียดนาม ยังคงดำเนินการได้ตามปกติ โดยปัจจุบันมียอดส่งออกเดือนละประมาณ 20,000 ตัว เนื่องจากมีระบบกักสัตว์และตรวจคัดกรองโรคที่เข้มงวดก่อนการส่งออก จึงยังไม่มีผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ หากเกษตรกรพบโคหรือกระบือป่วยหรือต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครพนม โทร. 063-225-6888 หรือ 042-511-089 เพื่อเข้าดำเนินการตรวจสอบและควบคุมโรคอย่างทันท่วงที  

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ว่า เป็นโรคแอนแทรกซ์เสียชีวิต 1 ราย พบผู้ป่วยเข้าข่ายเป็นโรคแอนแทรกซ์ 3 ราย ขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว และยังพบ ผู้สัมผัสอีกจำนวน 377 ราย ประกอบด้วยผู้ชำแหละเนื้อวัว 28 ราย ผู้รับประทานเนื้อดิบ 232 ราย ผู้สัมผัสโดยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับผู้ชำแหละ 117 ราย โดยทั้งหมดทุกคนได้รับการตรวจคัดกรอง และได้รับยาป้องกันเรียบร้อยแล้ว จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนจังหวัดมุกดาหารงดกินลาบเนื้อดิบ ก้อยดิบ และซอยจุ๊ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ ก็อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ ขณะที่ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ตรวจพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ นายชาคริตชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล ได้ออกประกาศอำเภอดอนตาล เรื่องมาตรการควบคุมโรค ฉบับที่ 2 มีข้อความว่าเพื่อให้การตวบคุมโรคและเผ้าระวังการแพร่ระบาดโรคแอนแทรกซ์ อ่าเกอตอนตาลจึงให้ดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด เพื่อปัองกันการเคลื่อนซ้ายโค กระบือ เข้าและออกในเขตพื้นที่อำเภอดอนตาล รวม 4 จุด ประกอบด้วย