ภัยพิบัติ

วันที่ 26พฤษภาคม พ.ศ. 2568  โครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาพรม-เชิญ ประกาศแจ้งเตือนประชาชน เรื่อง การเฝ้าระวังระดับน้ําในลําน้ําเชิญเนื่องจากในช่วงวันที่ ๒๓ – ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและ ภาคใต้ตอนบน ทําให้มีฝนตกหนัก และวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๘ สามารถวัดปริมาณน้ําฝนที่หัวงานโครงการส่งน้ํา และบํารุงรักษาพรม-เชิญ ได้ ๙๑ มิลลิเมตร และปัจจุบันมีน้ําป่าไหลเข้าลําน้ําเชิญ ทาง ตําบลทุ่งพระ อําเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ตําบลวังสวาบ อําเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ทําให้ระดับน้ําเชิญสูงขึ้น ขอแจ้งเฝ้าระวังพื้นที่ ตําบลทุ่งพระ ตําบลทุ่งนาเลา ตําบลคอนสาร ตําบลดงบัง ตําบลดงกลาง อําเภอคอนสาร ตําบลวังสวาบ ตําบลนาฝาย ตําบลภูผาม่าน ตําบลโนนคอม อําเภอภูผาม่าน ตําบลหนองเขียด ตําบลโนนหัน ตําบลโนนสะอาด ตําบลชุมแพ อําเภอชุมมแพ […]

26 พ.ค. 68 ที่หมู่ 6 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ชาวบ้านทั้งในพื้นที่และใกล้เคียงยังคงใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดผวา เนื่องจากคันดินกั้นแม่น้ำยมตรงสะพานสิริปัญญารัต ที่ถูกกัดเซาะพังยาวกว่า 300 เมตร เมื่อปีที่แล้ว ทำให้น้ำทะลักท่วมหลายหมู่บ้าน แล้วยังไหลกัดเซาะถนนทางหลวง 1195 ช่วงวังใหญ่-วังทอง จนขาดพังเป็นระยะทางยาว 300 เมตร แต่ปัจจุบันคันดินจุดดังกล่าวก็ยังไม่มีการซ่อมแซม จึงทำให้เกิดความกังวล ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า คันดินกั้นแม่น้ำยมตรงสะพานสิริปัญญารัต หมู่ 6 ต.วังใหญ่ ถูกน้ำกัดเซาะพังซ้ำซากมา 2-3 ปีแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการซ่อมแซมทำอะไร ชาวบ้านก็ได้แต่นอนหวาดผวา และต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมเหมือนเช่นเคย ส่วนชาวนาไม่ว่าจะในพื้นที่ หรือตำบลใกล้เคียง ปีนี้ก็ต้องงดเว้นการทำนาไปก่อน เพราะไม่มีใครอยากเสี่ยงเจอน้ำท่วมข้าวอีก เหมือนปีที่ผ่านมา “ตอนนี้บางบ้านเริ่มย้ายของไว้ที่สูงกันแล้ว เตรียมรับมือกันอย่างเดียว ถ้าน้ำมามากเหมือนปี 67 คงไม่รอดแน่ๆ ถนนที่ซ่อมใช้กันชั่วคราว ขาดร้อยเปอร์เซ็นต์ ปีที่แล้วถนนเดิมๆเต็มเลนยังไม่เหลือ อันนี้แค่ดินที่ไม่ได้บดอัดกับหินวางทับไว้ ยังไงก็ไม่รอด” ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวย้ำด้วยความกังวล อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทางอำเภอศรีสำโรงได้รับงบประมาณมาแล้ว

     เมื่อคืนวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 19.30 น. ที่ผ่านมา ศูนย์ผาช้างเทศบาลตำบลแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปางรับแจ้งว่าในพื้นที่เกิดฝนตกหนักและมีลมพายุพัดต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนรถไม่สามารถผ่านได้ เหตุเกิดถนนบ้านห้วยรากไม้-บ้านปงชัย ตแม่เมาะ อ.แม่เมาะ      หลังรับแจ้งจึงจัดเทศกิจ รถอุปกรณ์ รถตรวจการณ์ดับเพลิงศูนย์ห้วยเป็ด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่งานป้องกันฯ แม่เมาะ เบื้องต้นพบเป็นต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนน เจ้าหน้าที่งานป้องกันฯ แม่เมาะ ดำเนินการตัดและเคลียร์เปิดเส้นทางและสามารถใช้งานได้ปกติ cr. ป้องกัน 24 งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลแม่เมาะ

นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางแจ้งเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากระหว่างวันที่ 23 – 27 พ.ค. 2568 อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควร หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง เส้นทาง น้ำท่วนซ้ำซาก การอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นในใหญ่ สิ่งก่อสร้างสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงาม เกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล ป้องกันผลิตผลทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงที่อาจได้รับความเสียหายให้ประชาชนในพื้นทค่ทั้ง13อำเภอ ติดตามพยาภรณ์อากาศและข่าวสารจากทางราชการ แจ้งเหตุสาธารณภัย 0 5426 5072-4 สายด่วน 1784 หรือ Line @1784 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ปภ.

เชียงราย-เร่งอบรมผู้เสี่ยงอุทกภัย อ่านค่าวิเคราะห์เตรียมรับมือก่อนร่วงหน้าได้ 7-8 ชม. ด้านฝ่ายปกครองเตรียมป้องรับมือป้องกัน เตรียมแผน วันที่ 21 พ.ค.2568 เวลา 09.00 น. ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา)ยามยากสภากาชาดไทย และประธานอนุกรรมการพัฒนาความร่วมมือเพื่อติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ ได้เดินทางมาเป็นประธาน ฝึกการอบรมเชิงปฎิบัติการข้อมูลปริมาณน้ำฝน และระดับน้ำจากสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ ให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในเขตพื้นที่อำเภอแม่สาย จ.เชียงราย  โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผวจ.เชียงราย พร้อม นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย ให้การต้อนรับ ซึ่งในการอบรมครั้งนี้ มีประชาชนที่อยู่หมู่บ้านในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น บ้านถ้ำผาจม-ตลาดสายลมจอย-บ้านเกาะทราย-บ้านไม้ลุงขน-บ้านผามควาย-บ้านเหมืองแดง ได้เข้าร่วมอบรม โดยการอบลมจะสอนให้ผู้เข้าร่วมอบรม ได้รู้จักการดูในแอปพลิเคชัน ผ่านมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ให้ผู้เข้าร่วมอบรมเข้าใจ เมื่อสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ ได้ส่งสัญญานแจ้งเตือนควรจะปฏิบัติตนอย่างไร และเรียนรู้ผ่านแอปว่ามีน้ำฝนปริมาณมากน้องเพียงใดด้านดร.สรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา)ยามยากสภากาชาดไทย เผยว่า การติดตั้งโทรมาตร ทั้งหมด 4 จุด ใน 3 จุดอยู่ในเขตพื้นที่ประเทศเมียนมา

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยา  เรื่อง ประกาศเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากทั่วประเทศไทย (มีผลกระทบ: 23 – 27 พฤษภาคม 2568) ฉบับที่ 1 (121/2568) ในช่วงวันที่ 23 – 27 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยจะเผชิญกับฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะบริเวณลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม โปรดระวังอันตรายอย่างยิ่งจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ควรงดเว้นการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้น สำหรับภาคอีสาน พยากรณ์อากาศ 21 พ.ค. 2568 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร

ไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนวอด 3 หลัง วันที่ 18 พ.ค.2568 เวลา 15.10 น. ร.ต.อ สุจินดา  แดนระเบียบ รองสารวัตรสอบสวน สภ.จังหาร  รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ทในบ้านเหล่างิ้ว  หมู่ที่ 1 ต.จังหาร อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วยรถดับเพลิง จากเทศบาลตำบลจังหาร และพื้นที่ใกล้เคียงไกล้เคียง รวม 6 คัน พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านเ แบบสองชั้นครึ่งปูนครึ่ง จำนวน 3 หลังอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ร่งระดมฉีดน้ำสกัดอย่างเต็มที่ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมไม่ให้ลุกลามได้ หลังเข้าตรวจสอบพบบ้านทั้ง 3 หลังถูกไฟเผาวอดพร้อมรถเก๋ง 1 คันและรถ จยย. อีก 2 คัน นายอำพน  จุลเศียร 38 เจ้าของบ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิงบอกว่า ข่วงเกิดเหตุตนเองได้นอนหลับอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน จากนั้นรู้สึกร้อนมาก

วันนี้ (17 พ.ค. 68) ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นำคณะลงพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ได้แก่ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมมาตรการเชิงรุกรับมือภัยน้ำในทุกมิติ โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล หลังจากนั้นลงพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย และ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงทั้งน้ำหลากและขาดแคลนน้ำในฤดูฝนนี้  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า แม้ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่หลายพื้นที่โดยเฉพาะนอกเขตชลประทาน ยังมีแนวโน้มเผชิญฝนทิ้งช่วงช่วงปลายมิถุนายนถึงต้นกรกฎาคม ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ จ.ขอนแก่น ที่คาดว่าในเดือนกันยายน จะมีพื้นที่เสี่ยงสูงสุดถึง 24 อำเภอ 142 ตำบล จึงสั่งการเร่งด่วนให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บูรณาการแผนป้องกันและจัดการล่วงหน้า ร่วมกับกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น