อาชญากรรม

ลอบตัดไม้ใหญ่ในอุทยานฯ นพรัตน์ธารา-พีพี รัฐสูญเสียกว่า 56,900 บาท – จนท.เร่งล่าตัวผู้กระทำผิด วันที่ 30 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบ้านเขากลม หมู่ 7 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ และพบร่องรอยการตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่โดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ คาดว่าการลักลอบตัดไม้นี้เกิดขึ้นมานานกว่า 1 สัปดาห์ต้นไม้ที่ถูกตัดออกไปมี 2 ท่อน รวมปริมาตรไม้ทั้งหมด 5.69 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐถึง 56,900 บาท ในที่เกิดเหตุไม่พบผู้ต้องสงสัยหรือพยานใดๆ ที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้กระทำผิด ทางอุทยานฯ ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจ สภ.อ่าวนาง ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ซึ่งรวมถึง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 […]

  เมื่อเวลา 19.10 น วันที่ 29 ม.ค 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบโครงกระดูกของมนุษย์ที่บริเวณ ใต้ทางต่างระดับวัดไพร่ฟ้า หมู่ 2 ต.บางเดื่อ อ. เมือง จปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เมื่อไปถึง ที่เกิดเหตุ พบนายฉลาด บุญโส อายุ 44 ปี คนหาปลาได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อช่วงเย็นขณะที่ตน กำลังออกไปหาปลาไหล ในรอบบริเวณดังกล่าว ก็ได้พบเห็นโครงกระดูกของมนุษย์ ที่บริเวณใต้ต้นไม้ โดยเห็นมีท่อนขาสะโพกและแขนบางส่วน จึงได้รีบออกจากจุดเกิดเหตุ แล้วกลับบ้าน ก่อนไปแจ้ง สท.บางเดื่อ คนหนึ่ง ให้มาดูก่อนจากนั้นทาง สท.คนดังกล่าว ก็ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาตรวจสอบ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กั้นพื้นที่และประสานไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่และแพทย์มาร่วมชันสูตรตรวจสอบ และในเวลาเดียวกันทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้กล่าวว่า จุดที่พบโครงกระดูกนั้น ไม่แน่ใจว่าจะเป็นร่างของคนขับรถ จยย. ที่หายตัวไปหรือไม่เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 นั้น หลังจากได้มาตรวจสอบ

เชียงราย-มีเพื่อนในคุกเป็นชาวพม่าออกคุกมา ติดต่อกันค้าขายยาเคตามีน ซื้อมานั่งรถทัวร์ไปไม่ได้ไกล ต้องลงด่านแม่จัน ตำรวจ-ทหารรวบคารถ ได้ติดคุกต่อ เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 29 มกราคม 2568 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์  จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน สั่งการให้ ร.ต.อ.อนุชา อินคำปัน หน.ด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง  ร่วมกับ ชป.คทร.กิ่วทัพยั้ง ฉก.ทพ.31  ตชด.327 และ ชป.สท.ที่ 6 กกล.ผาเมือง สกัดกั้นป้องกันยาเสพติดเข้าพื้นที่ชั้นในอย่างเข้มข้น บนถนนพหลโยธิน บ.ปงตอง หมู่ 5 ต.แม่จัน ทำการตรวจรถทัวร์แม่สาย-กรุงเทพฯ ชายสวมแว่นตา นั่งอยูเบาะ  A1 ท่าทางมีพิรุธ จึงได้ขอตรวจค้นพร้อมขอกระเป๋าเสื้อผ้าใต้ท้องรถ พบถุงชาจีนบรรจุยาเคตามีน 3 ถุงน้ำหนักถุงละ 1 กก.รวม 3 กก. ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า ต่อมาทราบชื่อผู้ต้องหา ชื่อนายไพศาล อายุ 43 ปี ที่อยู่ ต.วังด้ง อ.เมือง

สระแก้ว – เกิดเหตุช้างป่าเหยียบคนตาย ในพื้นที่ชายป่าบ้านสระหลวง ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว หลังหายตัวไป 6 วัน เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้ว จุดวังน้ำเย็น ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนถูกช้างเหยียบคนตาย ที่เกิดเหตุอยู่ที่บ้านสระหลวง ม.28 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จึงเดินทางลงพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น ตรวจสอบเบื้องต้น เป็นชายอายุประมาณ 42 ปี ซึ่งญาติแจ้งว่า หายออกจากบ้านไปประมาณ 6 วัน โดยญาติออกตามหากันหลายวัน กระทั่งมาพบร่างเสียชีวิตอยู่ภายในป่ายาง บ้านสระหลวง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.30 น.วันนี้ จากการตรวจสอบคาดว่า น่าจะเสียชีวิตจากสาเหตุถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุดังกล่าว นายกิจจา เสาวรส นายอำเภอวังน้ำเย็น ได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบ้านสระหลวง ม.28 ต.ทุ่งมหาเจริญ โดยผู้ใหญ่บ้านสระหลวง ม.28 ได้นำนายอำเภอไปดูจุดเกิดเหตุและสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเดินทางไปพูดคุยกับญาติของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านพบว่า มีช้างป่าลงมาในพื้นที่หลายวัน

พะเยา หนุ่มคลั่งยามีดแทงเพื่อนบ้านหวิดดับ วันที่ 29 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าเหตุใช้อาวุธมีดแทงกันเมื่อคืน วันที่ 26มค.68 เวลาประมาณ 19.15 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธมน คิดอ่าน สว.(สอบสวน)สภ.เมืองพะเยารับแจ้งเหตุใช้อาวุธมีดแทงกัน ได้รับบาดเจ็บที่บ้านนายศรายุทธ ไหวพริบ อายุ 59 ปี ที่อยู่ 49 หมู่ 10 ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา โดยมี นายธนาวุฒิ ทิมแอร์ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 22/1 หมู่ 2 ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ผู้ก่อเหตุมีอาการคุ้มคลั่งเดินถือมีดแหลมล็อกคอไล่แทงนายศรายุทธ ไหวพริบ ขณะที่กำลังนั่งผิงไฟข้างบ้าน จนเกิดการแย่งมีด จนมีดแทงเข้าที่ที่บริเวณท้อง 1 แผลใหญ่ ทำให้นายศรายุทธฯ ได้รับบาดเจ็บ และร้องเรียกเพื่อนบ้านมาเหลือมาช่วยจับมือมีดได้นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าห้องขังพร้อมตรวจเช็คร่างกายเพื่อหาสารเสพติด หลังเกิดเหตุทางผู้สื่อข่าวได้ในลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุพบนายศรายุทธไหวพริบ กำลังออกจากโรงพยาบาลมานอนพักผ่อนที่บ้านพร้อมเปิดบาดแผลที่ถูกแทงบริเวณหน้าท้องให้ดูและพาไปยังที่เกิดเหตุข้างบ้านที่ถูกแทง พร้อมกับเล่าว่าเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2568

พะเยา สาวใหญ่มือดีฉกเงินผ้าป่าหน้าวัดดัง วัน29 มค 68 เวลา พ.ต.ท.วรยุทธ กันทสอน สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพะเยารับแจ้งจากนายชาญณรงค์ แจ้งความร้องทุกข์ว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคม 68 เวลา 10.00 น. นายศิลป์ชัย กองแก้ว พนักงานรักษาความปลอดภัย ทราบว่ามีผู้บริจาคเงิน จำนวน 1,000 บาท เพื่อทอดผ้าป่าสร้างมหาวิหาร ซึ่งตั้งต้นผ้าป่ารับบริจาคอยู่ที่หน้าวิหารของวัดศรีโคมคำ ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ต่อมาในเวลาประมาณ 13.40 น. นายศิลป์ชัย กองแก้ว แจ้งให้เจ้าหน้าที่นำเอาเงินใส่ในตู้รับบริจาค ปรากฏว่าเงินดังกล่าวได้หายไปและตรวจดูกล้องวงจรปิดแล้ว มีผู้หญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี เป็นคนฉกเอาไปหลังเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานหลบหนีไป หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา ได้สั่งการชุดสืบสวน ออกติดตามหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป

29 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ ได้รับรายงานว่าจะมีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย นั่งเรือจากพื้นที่อำเภอสังขละบุรี เพื่อมาขึ้นยังบ้านท่าแพ ของอำเภอทองผาภูมิ หลังทราบข่าว จึงได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอทองผาภูมิ สนที่กำลัง กับทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 ออกลาดตระเวน ตามแนวชายฝั่งของหมู่บ้านท่าแพ กระทั่งเวลา 05.00 น. วันที่ 29 ม.ค.68 ขนาดเจ้าหน้าที่กำลังเดินลาดตระเวนอยู่ ได้พบกลุ่มแรงงานต่างด้าว ซุกซ่อนตัวอยู่ที่ชายป่าริมน้ำ จำนวน 110 คน เป็นชาย 70 คน และหญิง 40 คน แต่ไม่พบเรือที่นำกลุ่มแรงงานต่างด้าวดังกล่าวมาส่ง นอกจากนี้ยังพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยอีก 5 คัน ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรถที่ไว้ใช้สำหรับนำแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวไปส่งให้กับนายจ้าง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 110 คน จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวทราบว่า ได้เดินทางหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติด้านชายแดนอำเภอสังขละบุรี เพื่อจะเดินทางเข้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของประเทศไทย โดยเสียค่าหัวให้กับนายหน้ารายละ 10,000 ถึง 20,000 บาท

สงขลา – ผบช.ภ.9 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง \”สารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา\” ถูกจับกุมกรณีเรียกรับเงินผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย อ้างเป็นค่าธรรมเนียมดำเนินคดี พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธและเจ้าหน้าที่สอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวแล้ว   กรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลางและตำรวจกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 วางแผนจับกุมสารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา จ.สงขลา หลังได้รับร้องเรียนว่ามีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย อ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมดำเนินคดี ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย ถูกจับกุมในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงถูกนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา โดยมีสารวัตรสอบสวนคนดังกล่าว เป็นเจ้าของคดี ต่อมาผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัว วงเงิน 75,000 บาทและมีค่าอำนวยความสะดวกอีก 5,000 บาท รวมเป็น 80,000 บาท ซึ่งเงินทั้งหมด ภรรยาของผู้ต้องหาได้นำมามอบให้พนักงานสอบสวน ต่อมา สารวัตรสอบสวนเจ้าของคดีได้ติดต่อผู้เสียหายชาวมาเลเซียอีกครั้ง เพื่อขอเงินเป็นค่าธรรมเนียมดำเนินคดีอีก 20,000 บาท ผู้เสียหายจึงเดินทางไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. จนนำมาสู่การวางแผนจับกุมที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พร้อมของกลางเป็นเงินจำนวน 15,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำธนบัตรทั้งหมดลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวสารวัตรสอบสวนไปดำเนินคดี แต่เจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธล่าสุดได้รับการประกันตัวแล้ว  

ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนเลือกตั้ง จับผู้ต้องหา 91 คน 80 ราย พร้อมของกลางอาวุธปืนและยาเสพติด วันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ห้องประชุมกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พ.ต.อ.ชัยเกียรติ  วิริยสถิตย์กุล รอง ผบกฯ รรท.ผบก.ภ.จว.กระบี่ ,พ.ต.อ.พิษณุ  อัชนะพรกุล รอง ผบก.ฯ รับผิดชอบงาน สืบสวน ,พ.ต.อ.ชวลิต  เพชรศรีเปีย รอง ผบกฯรับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ,พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์  พรหมเต็ม ผกก.สืบสวน ภ.จว.กระบี่ ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมในช่วง 7 วันก่อนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิกสภา อบจ. กระบี่ ปฏิบัติการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ โดยใช้มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเข้มข้น เช่น การปิดล้อมสถานที่เสี่ยง ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย และตั้งจุดตรวจ-จุดสกัดในพื้นที่ 8 อำเภอ ระหว่างวันที่ 22-28 มกราคม 2568 ผลการปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 91 คน