อาชญากรรม

สงขลา-สะเดา เจ้าหน้าที่กวดขันการลักลอบขายน้ำมันเถื่อน ในพื้นที่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา หลังถูกสื่อหลายสำนักนำเสนอข่าว ว่ามีการกันเกลื่อนโดยบางแห่งห่างจากโรงพักสะเดาเพียงประมาณ 300 เมตร หลังตรวจสอบพบเป็นของชาวบ้านที่อ้างว่าเป็นการหาเช้ากินค่ำ 13 ก.พ.68 พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สะเดา พ.ต.ต.อวยพร อุบลพันธุ์ สวป.สภ.สะเดา นายทศพร สุทัศน์ ณ อยุธยา หัวหน้าสรรพสามิตสาขาพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมด้วยปลัดอำเภอสะเดา และกำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วย นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดขายน้ำมันเถื่อน ซึ่งสื่อฯ หลายสำนักได้เสนอข่าวไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าในขณะเข้าตรวจสอบ จุดที่หนึ่งบริเวณ หน้าแป๊ะกง อ.สะเดา ถนนปาดังเบซาร์ มีลักษณะเป็นเพิงไม้พบแกลลอนบรรจุน้ำมันเบนซิน จำนวน 26 ลิตร และน้ำมันดีเซล 45 ลิตร ซึ่งแกลลอนน้ำมันบางส่วนซุกซ่อนไว้ในห้องน้ำซึ่งอยู่ห่างออกไปจากเพิงดังกล่าวประมาณ 20 เมตร ในขณะที่นางดำ (นามสมมุติ) ซึ่งรับว่าเป็นเจ้าของน้ำมันดังกล่าว โดยขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นนางดำก็ได้โวยวายว่าโดนจับอีกแล้ว ทั้งที่เป็นวิถีของชาวบ้าน […]

นครพนม : ป.ป.ส ผนึกกำลัง ทหาร-ตำรวจ-ปกครองเปิดยุทธการและแถลงข่าวผลการดำเนินงานยุทธการเด็ดปีกนักค้ารายย่อยจังหวัดนครพนม (ถอนต้นกล้าจากผู้เสพ สู่ผู้ค้า) วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 4 พล.ต.ต. ศักดิ์ชาย สาดมะเริง ผบก.ภ.จว.นครพนม ผู้กำกับ สภ.ท่าอุเทน ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงข่าวยุทธการเด็ดปีก นักค้ารายย่อย เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน สืบเนื่องจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2568 ท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe หรือ

เมื่อเวลา 01.06 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.เชาวลิต สุวรรณมณี รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณชายหาดพัทยา ตรงข้ามซอยเลียบชายหาด 10 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่ กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ไปตรวจสอบ ขณะที่ผู้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ภายในซอยเลียบชายหาด 10 ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย โดยเจ้าตัว ให้การว่า กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ มาเช่าเสื่อกับตนเองนั่งดื่มสังสรรค์วันเกิด แล้ว พูดจาด่าทอ จนเกิดมีปากเสียงกัน ตอนแรกแค่เพียงชกต่อยแต่ด้วยกลุ่มผู้บาดเจ็บเข้ามาล็อคคอ จึงพยายามสบัดออกแล้ววิ่งหนี ส่วนเรื่องอาวุธที่ใช้แทงนั้นตัวเองไม่รู้ ด้าน พลเมืองดี ให้ข้อมูลว่าสังเกตเห็นทั้งทั้งสองกลุ่ม ด่าทอเถียงกันไปมา ก่อนจะวางมวย วิวาทต่อยตีกัน แล้ว คู่กรณีหนึ่งฝ่ายได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในซอย เลียบชายหาด 10 ตนเอง และเจ้าหน้าที่พยายามไล่ติดตามไป กระทั่งพบตัว หลบอยู่ที่ซอกตึก แล้วพบซองยาไอซ์ตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นหาไม่พบ

จากกรณี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวโพสต์คลิป ลูกค้าประจำมากินก๋วยเตี๋ยว ชามละ 50 บาท แต่ขโมยช้อนไป 1 โหล ก่อเหตุหลายครั้งจนจับได้ ผู้ก่อเหตุได้แค่เอ่ยคำขอโทษแล้วยิ้มเดินจากไป ที่ จ.สงขลา มีกรณีผู้ใช้ Facebook ชื่อ “โชค หนึ่งในสกุลพรหมจันทร์” เจ้าของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวพริกกะเหรี่ยง” ได้โพสต์ข้อความว่า \”มากินก๋วยเตี๋ยวทีนึง 50 บาท แต่ลักช้อนหลบทีละเป็นโหล แบบนี้กะไม่ไหว ตามหาตัวมานาน วันนี้จับได้สักที\” #วังๆกันมั้งคับโจรลักช้อนระบาด ล่าสุด วันนี้ (13 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวพริกกะเหรี่ยง บ้านเลขที่ 174/2 ถนนราษฎร์อุทิศ1 ต. บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา พบกับ พี่โชค อายุ 35 พี่ก้อย อายุ 32 ปี และได้พูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พี่โชคเจ้าของร้าน ก็เล่าไปยิ้มไป บอกว่า เป็นลูกค้าประจำและสังเกตดูว่าลูกค้ารายนี้ ชอบเอาแต่ช้อนกับส้อมไปโดยเฉพาะช้อนกับส้อมใหม่ใหม่มีเท่าไหร่ก็อาไปเท่าที่มีแต่ก่อนที่จะจับได้พี่โชดได้เอาไว้ในตระกล้าใส่ช้อน

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวชลบุรี นายณฐาภพ ยมจินดา ปลัดอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ. เมืองพัทยาเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางละมุง กำลังกว่า 500 นายปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้น ตามเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการ ล้างบางปรสิต ครั้งที่ 4 โดยในพื้นที่สภ.เมืองพัทยา ได้แบ่งกำลังเป็นสองชุดในการลงพื้นที่ตรวจสอบเป้าหมายสำคัญ โดยใช้รหัสลับ จุดแรกใช้รหัสลับ ตึกหมา เป็นตึกอาคารพาณิชย์ เลขที่ 159/222-23 ภายในซอยพัทยากลาง 16 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นอาคารพาณิชย์สูงสี่ชั้น 26 ห้อง เจ้าหน้าที่ ได้ขออนุญาตจากเจ้าของตึก เข้าทำการตรวจสอบ โดยใช้วิธีเคาะทีละห้อง

วันที่ 13 กุมภาพันธุ์ 2568 จังหวัดนครพนม มีการเปิดปฏิบัติการยุทธการเด็ดปีกนักค้ารายย่อย (ถอนต้นกล้าที่พัฒนาจากผู้เสพสู่ผู้ค้ายาเสพติด) และแถลงผลการปฏิบัติการ โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมการแถลงผลการปฏิบัติ จากปฏิบัติการยุทธการเด็ดปีกนักค้ารายย่อย จังหวัดนครพนม มีผลดำเนินการในห้วงวันที่ 8 – 12 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 37 เป้าหมาย เป็นผู้เสพ 1 ราย นำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา จับกุม 25 รายไม่พบตัว 11 ราย ของกลางยาบ้า 556 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์สิน 15 รายการ มูลค่า 412,000 บาท อาวุธปืน 3 กระบอก

เชียงราย-รุ่นใหญ่พกปืนไปกินหมูกระทะ ร้านแฟนสาวทำงาน เหลือบไปมองเห็นลูกค้าแซวแฟนสาว เกิดอาการหึงหวงควักปืนพกยิงขึ้น ลูกค้าแตกกระเจิง ช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 ก.พ.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ได้รับแจ้งมีเหตุชายไม่ทราบชื่อหึงหวงเด็กเสิร์ฟภายในร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย  ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงภายในร้านทำให้ลูกค้าแตกตื่นหนีกระเจิง  ซึ่ง นส.รัตนาภรณ์  (คนบาดเจ็บ) อายุประมาณ 29 ปี เล่าว่า  ได้นั่งทานหมูกระทะกับเพื่อน 4 คน ชาย 2 หญิง 2 และหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งทานด้วยกัน โดย นส.รัตนาภรณ์ กำลังนั่งทานหมูกระทะคุยกัน จู่ๆได้ยิงเสียงดังชั้นล่าง ระหว่างหญิง-ชาย สักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด หลังจากเสียงปืนสงบ พบว่าบริเวณแขนซ้าย เหมือนมีอะไรถูกทำให้ร้อนที่แขน จึงหาที่มาของเสียงพบว่า พื้นใต้ที่นั่งเป็นรูกระสุนปืน จึงรีบพากันหาที่หลบ  ได้พบเห็นชายสวมเสื้อขาวได้วิ่งขับรถออกไป ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ได้รุดไปที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้ง ที่เกิดเหตุได้สอบถามหญิงพนักงานเสิร์ฟภายในร้าน ทราบว่า ชายคนดังกล่าว เป็นแฟนกับ น.ส.ฟอง อายุ

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว สู้กับงูจงอางแผ่แม่เบี้ย ยาวเกือบ 4 เมตร วิ่งล้อมกันอยู่นานหลายนาที จนสามารถฉวยโอกาสคว้าคอจับมาได้ ถือเป็นภาพที่หวาดเสียว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบงูจงอางตัวใหญ่ในพื้นที่ทุ่งหญ้า ในพื้นที่ ม.3 บ้านวังสำลี ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว จึงแจ้งให้กับนายชำนาญ เตียวสวัสดิ์ กำนันตำบลวังใหม่ รับทราบ หลังจากนั้น ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน รวม 3 คน ได้อาสาเข้าไปช่วยกันจับงูตัวดังกล่าว พบว่า เป็นงูจงอาง ความยาวเกือบ 4 เมตร ชูคอแผ่แม่เบี้ยตลอดเวลา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วย นายสุระศักดิ์ ศรีบุรินทร์ และ ณรงค์ เนตรวิสิทธิ์ ได้เข้าไปช่วยกันล้อมจับอยู่นาน โดยคนหนึ่งพยายามที่จะดึงหางงูจงอางตัวนี้ไว้

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ กสทช.ตรวจพบไอพีเข้าข่ายสีเทากว่า 1,000 ไอพี ที่ต้องตัดสัญญาณ ส่วน \”ภูมิธรรม\”สั่งเข้มงวดและสั่งตัดสัญญาณสายใต้ดินทันที หากตรวจพบสายส่งสัญญาณและอินเตอร์เนตที่มีผู้มาแสดงตน นำไปใช้ในตึกที่กระทำความผิด เราจะจัดการทันที  ถือว่า เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ไม่มีเห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น  เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 12 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสถานีรถไฟบ้านคลองลึก บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนและดำเนินมาตรการสำคัญด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดสระแก้ว เป็นประตูเชื่อมโยงเศรษฐกิจและสังคมกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดอ่อนไหวต่อการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ทั้งด้านความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งได้มีการเสนอให้ดำเนินการดังนี้ 1.การสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว โดยจังหวัดสระแก้วได้เสนอขอรับการสนับสนุนโครงการสร้างรั้วตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในจังหวัดสระแก้ว ตามแนวที่ไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิ์ ระยะทาง 55 กิโลเมตร และติดตั้งกล้อง CCTV งบประมาณรวม 313 ล้านบาท เพื่อควบคุมการเข้า-ออก

โจ้มหาเฮง“ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว คุณนายผู้ว่า โกงหวย ลั่นเดินหน้าสู้เต็มที่ แฉคุณนายผู้ว่าฯโกงเงินหวย 10.2 ล้านบาท หลอก”โจ้มหาเฮง“ ลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนหน้าแจ้งความฉ้อโกง ตั้งแต่ 27 ธค.67 ที่ สภ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด แต่คดีไม่คืบ คุณนายผู้ว่าฯ หายเข้ากลีบเมฆ แถมผู้ว่าฯ อ้างแยกกันอยู่นานแล้วไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หวั่นมวยล้มไม่ได้เงินคืนเรียกร้องสื่อตีแผ่ความจริง คืบหน้ากรณี นายอัครเดช จันทแสง เจ้าของฉายา “โจ้ มหาเฮง” ลูกศิษย์ก้นกุฏิมือขวา  เกจิชื่อดังอีสาน  ได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เสลภูมิ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567  ขอให้พนักงานสอบสวนฯ ดำเนินคดี กับ คุณนายผู้ว่าราชการจังหวังจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน ในข้อหาฉ้อโกง โดยระบุว่าถูกโกงเงินค่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นหนี้เงินคงค้างกว่า 10 ล้านบาทเศษ โดยมีการนัดเคลียร์หนี้สินในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดร้อยเอ็ดรายงานว่า