เมื่อเวลา 01.06 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.เชาวลิต สุวรรณมณี รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณชายหาดพัทยา ตรงข้ามซอยเลียบชายหาด 10 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่ กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ไปตรวจสอบ

ขณะที่ผู้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ภายในซอยเลียบชายหาด 10 ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย โดยเจ้าตัว ให้การว่า กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ มาเช่าเสื่อกับตนเองนั่งดื่มสังสรรค์วันเกิด แล้ว พูดจาด่าทอ จนเกิดมีปากเสียงกัน ตอนแรกแค่เพียงชกต่อยแต่ด้วยกลุ่มผู้บาดเจ็บเข้ามาล็อคคอ จึงพยายามสบัดออกแล้ววิ่งหนี ส่วนเรื่องอาวุธที่ใช้แทงนั้นตัวเองไม่รู้
ด้าน พลเมืองดี ให้ข้อมูลว่าสังเกตเห็นทั้งทั้งสองกลุ่ม ด่าทอเถียงกันไปมา ก่อนจะวางมวย วิวาทต่อยตีกัน แล้ว คู่กรณีหนึ่งฝ่ายได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในซอย เลียบชายหาด 10 ตนเอง และเจ้าหน้าที่พยายามไล่ติดตามไป กระทั่งพบตัว หลบอยู่ที่ซอกตึก แล้วพบซองยาไอซ์ตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นหาไม่พบ
สอบถามนายบ๊อบบี้ อายุ 31 ปี เพื่อนของคนเจ็บ เป็นเจ้าของวันเกิด และเคยเป็นนายจ้างของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ตัวเองมาจัดวันเกิดที่บ้านก่อนมาต่อที่ชายหาดแห่งนี้ โดยได้เช่าเสื่อจากผู้ก่อเหตุ เพราะเห็นว่ารู้จักกัน ยอมรับว่าขณะนั้นนั่งคุยกันเสียงดัง เชื่อว่าผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการหลอนยาเพ้อเจ้อด้วยฤทธิ์ของยาเสพติด จนคิดว่าในกลุ่มนินทาว่าร้ายด่าทอ ก็เข้ามาหาเรื่อง โวยวายใส่ ตัวเองก็พยายามไล่ เจัาตัวก็ไม่สนใจ ยอมรับว่าเพื่อนในกลุ่มใจร้อนทนไม่ไหว จนเกิดเหตุบานปลายชกต่อยกันชุลมุน ไม่คิดว่าคู่กรณีจะใช้อาวุธมีดขึ้นมาแทง จึงเข้าไปช่วยเพื่อน มาก่อเหตุคิดว่าสู้ไม่ไหวแน่ถึงวิ่งหลบหนี ตนเองจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นร.ต.อ.เชาวลิต สุวรรณมณี รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา ควบคุมตัวนายแบงค์ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุครั้งนี้ ตามที่ผู้เสียหายแจ้ง ไปตรวจปัสสาวะสารเสพติดร่างกาย พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย โดยเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเสพยาเสพติดประเภทที่ 1 ยาไอซ์ มาจริง แต่ยังปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ใช้อาวุธมีด ทำร้ายคู่กรณีแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อนำหลักฐานมาประกอบเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป