อาชญากรรม

เจ้าของร้านค้าส่งสุดเซ็ง เซลล์​ขายของ กลายเป็นโจรขโมยปลากระป๋อง​ สั่งของขึ้นท้ายรถก่อนชิ่งหนีหาย สูญเงินไปถึง 6 หมื่นกว่าบาท วันที่ 19 พ.ค.68 ที่ จังหวัด​อุทัยธานี​ ผู้​สื่อข่าว​ได้รับเรื่องราวความเดือดร้อน​จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก​รายหนึ่ง ได้ออกมาประกาศ​ตามหาชายรายหนึ่งพร้อมภาพจากกล้องวงจรปิด หลังถูกชายในภาพมาสั่งซื้อสินค้าไปกว่าครึ่งแสนบาท แล้วขับรถออกไปพร้อมของโดยที่ยังไม่จ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว โดยเจ้าของโพสต์​ได้ระบุข้อความ​ว่า \” เปิดร้านมาก็โดนโกงเลย  มาซื้อของยอด 60,000+ แล้วไม่จ่ายเงิน ขับรถออกไปเลย ใส่ชุดขาวใส่แมสก์ ป้ายทะเบียนรถมองไม่เห็น ชื่อกาน ใครรู้จักหรือพบเห็นโปรดแจ้งทางร้านหน่อยนะคะ \” โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ร้านนฤมล เวชภัณฑ์​ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม เครื่องในครัวเรือน ทั้งปลีกและส่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลสุขฤทัย อำเภอ​ห้วยคต จังหวัด​อุทัยธานี พบกับ นางสาย ป้อมคำ ​ เจ้าของร้าน และสามี ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูจุดที่ชายคนดังกล่าว ขับรถกระบะ​เข้ามาที่ร้านเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในช่วงเวลาประมาณ 09.14 น. โดยได้เล่าให้ฟังว่า ชายคนนี้มีชื่อเล่นว่า กานต์ ซึ่งเป็นเซลส์​ซื้อขายสินค้าที่รู้จักกันมานานนับ […]

ยะลา – มีความคืบหน้าเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่ชายแดนใต้  หลังจากคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบยิงสองสามีภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านพัก หมู่ที่ 2 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 19.30 น.ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตคือ นายบือราเฮง สีละรู อายุ 47 ปี และ นางสาวสีตีมาลีแย อัปดุลเล๊าะ อายุ 46 ปี โดยขณะเกิดเหตุ นายบือราเฮงกำลังนั่งเล่นหน้าบ้าน ส่วนนางสาวสีตีมาลีแย  กำลังอาบน้ำอยู่ข้างบ้าน ก่อนถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนคาร์บิน ยิงเสียชีวิตทั้งคู่ พันเอกเกียรติศักดิ์ ณีวงษ์  โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  บอกว่า  หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบปลอกกระสุนและเศษกระสุนในที่เกิดเหตุ พร้อมเร่งสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นตั้งประเด็น ความขัดแย้งส่วนตัว เป็นแรงจูงใจหลัก แต่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่อง การสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่   ซึ่งหลังเกิดเหตุ มีกระแสข่าวบนโซเชียลมีเดีย  พาดพิงว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่ง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวดังกล่าวอย่างชัดเจนว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีเหตุผลใดที่จะใช้ความรุนแรง เพราะบ้านเมืองมีกฎหมายบังคับใช้ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าจะเร่งนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว ส่วนความคืบหน้าในคดีความมั่นคงต่างๆในพื้นที่นั้น ทางโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า

สุราษฎร์ธานี-เจ้าหน้าที่เร่งตามหา “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัวพร้อมทองคำใส่ติดตัว 20 บาทเงินสด 1 แสน  ตลอดเส้นทางไม่มีวงจรปิด ส่วนกล้องเทศบาลกำลังปรับปรุงเอาสายไฟฟ้าลงดินและถอนเสาไฟฟ้าออกจากพื้นที่ จึงถอดระบบกล้องออกทั้งหมด พบมือถือ 2 เครื่องแบ็ตหมดอยู่ที่แผง สามีคาดหายตัวระหว่าง ขับ จยย.ไปหาของกินระหว่างรอรถมาส่งทุเรียน จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งจากนายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น อายุ 44  ปี สามี นางสุจิตรา (เจ๊แก้ว) กุลจันทร์ อายุ 43 ปี  เจ้าของแผงทุเรียนรายใหญ่ในตลาดโพธิ์หวาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ว่า ได้หายตัวไปขณะขับรถจักรยานยนต์ออกจากแผงในตลาดโพธิ์หวาย เมื่อเวลาประมาณ 19.40 น.ของวันเสาร์ที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา  ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเช้าวันนี้ (19 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่แผงขายส่งทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย พบกับ นายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น สามีเจ๊แก้ว โดยนายพงศ์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุตนเดินทางไปซื้อทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรี แต่ก็ติดต่อกับภรรยาตลอด

  สุดโหด ฆาตกรรมยัดถัง 200 ลิตรทิ้งอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ พบร่างชายไทย วัย 50 ปี ถูกยิงหน้าอก ไม่พบเอกสารชี้ตัวบุคคล ตำรวจเร่งแกะรอยล่าคนร้าย   นครสวรรค์-เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 พ.ค. 68 ร.ต.อ.เจริญ สำคัญ ร้อยเวร สภ.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีถังน้ำ 200 ลิตร ลอยขึ้นมาที่อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ หมู่ 7 ตำบลตะคร้อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมเดินทางเข้าพื้นที่กับมูลนิธิกู้ภัยร่วมใจเข้าตรวจสอบ  เมื่อไปถึงได้นำถังสีฟ้าที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งขึ้นจากอ่างเก็บน้ำเพื่อตรวจสอบ เมื่อเปิดถังออกมาถึงกับผงะ พบร่างชายไทย อายุประมาณ 50 ปี ใส่เสื้อสีเขียว กางเกงสีดำอยู่ในถุงปุ๋ย จากการเปิดเผยของนายมนู  พิมพา เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร สาขานครสวรรค์ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบร่างกาย พบมีบาดแผลลักษณะคล้ายถูกอาวุธปืนยิงที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย  มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณศีรษะ และมีรอยสักพระรามแผลงศรที่กลางหลัง  ไม่พบเอกสารชี้ตัวบุคคล

จากเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบร่างของดีเจเตเต้ที่บนเขาในพื้นที่บ้านนานางหรอก หมู่ 3 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น กระทั่งเมื่อเวลา 20.00 น. วันเดียวกันทางทนายรณรงค์ แก้วเพชร พร้อมด้วยพ่อและญาติของดีเจเตเต้ เดินทางเข้าขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และได้แจ้งความเพิ่มเติมในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางสาเหตุการตาย ด้านพ่อของดีเจเตเต้ เปิดใจว่า มาที่นี่เพื่อตามหาลูกชายที่ถูกอุ้มหายไป และต้องการหลักฐานยืนยันว่าลูกยังมีชีวิตหรือไม่ ซึ่งวันนี้ได้เห็นร่างลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และขอขอบคุณตำรวจที่ใช้เวลาเพียง 5-6 วันในการติดตามจนทราบความจริง ขั้นตอนต่อไป จะดำเนินการชันสูตรศพ และนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหนองกระทุ่ม ก่อนจะส่งลูกชายไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไป.

วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจชุดสืบสวนเมืองกาญจนบุรี และชุดสืบสวนจาก สภ.ลาดหญ้า ร่วมกับอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เดินทางเข้าตรวจสอบจุดพบศพ “ดีเจเตเต้” กลางป่าลึกในพื้นที่หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีการเข้าถึงพื้นที่ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อวิ่งฝ่าป่าเป็นเวลานานกว่า 20 นาที จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 5 นาที จึงพบศพดีเจเตเต้ในสภาพนอนตะแคง ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยเชือกเปลสีเขียว สภาพศพเริ่มบวมอืด มีหนอนชอนไช ส่งกลิ่นเหม็นทั่วบริเวณ เบื้องต้นพบบาดแผลคล้ายถูกยิงบริเวณกระหม่อม 2 นัด เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรอย่างละเอียดต่อไปจากการสอบถามชาวบ้านผู้พบศพคนแรก เปิดเผยว่าเมื่อ 3 วันก่อนตนเดินเข้าป่าเพื่อหาเห็ดและของป่า แต่เนื่องจากฝนตกหนักและท้องฟ้ามืดครึ้ม ทำให้ตนหลงทางและเดินมาถึงบริเวณจุดพบศพ ก่อนจะสังเกตเห็นขาของศพยื่นออกมาจากชายป่า ด้วยความตกใจจึงรีบกลับบ้านต่อมาเมื่อกลับถึงบ้าน ภาพขาศพยังคงติดตาอยู่ตลอดทั้งคืน จึงเล่าเรื่องให้ญาติฟัง และญาติก็จำได้ว่ามีข่าวการหายตัวไปของดีเจเตเต้ ด้วยความสงสัย จึงตัดสินใจกลับไปยังจุดเดิมอีกครั้ง และพบว่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตรงกับที่ดีเจเตเต้ใส่ในคืนก่อนหายตัวไป จึงมั่นใจว่าเป็นศพของดีเจเตเต้ และรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้าให้เข้ามาตรวจสอบทันทีทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนและติดตามตัวผู้ก่อเหตุเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ปราจีนบุรี – จับเจ้าบ่าวป้ายแดงขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด หลังเจอเจ้าหน้าที่สะกดรอย ไหวตัวทัน เร่งเครื่องรถหนี จนรถพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ แต่ไม่รอดถูกสกัดจับได้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 สามารถจับกุมชาย อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ที่เพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปเพียง 10 กว่าวัน ซึ่งตรวจพบว่า เป็นหนึ่งในขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ ที่บริเวณถนนบ้านหนองหอย ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมกับตรวจยึดของกลางยาบ้า 5,140,000 เม็ด ,อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 นัด , รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า รุ่น BT-50 สีดำ ทะเบียน กน 5509 สระบุรี

ชัยภูมิ – ตามรวบยกแก๊งกว่า 4 ราย เบื้องต้นยึดยาบ้า 4 หมื่นเม็ด เร่งขยายผลยึดทรัพย์อีกนับหลายแสนบาทต่อเนื่อง ( 17 พ.ค.68 ) พล.ต.ต.สุจริต  ปาณเล็ก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังวัดชัยภูมิ ( ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิชิต มีแสง รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ พ.ต.อ.วัฒนชัย มณฑีรรัตน์ ผกก.สส.ภว.ชัยภูมิ สั่งสนธิกำลังระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เข้าปราบปรามทลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเร่งขยายผลมาต่อเนื่องตั้งแต่วานนี้( 16 พ.ค. 68 ) ล่าสุดทาง พ.ต.ท.คมสันต์ นราพงษ์ , ร.ต.อ.พัชรพล อาจกมล , ร.ต.ท.พัชรพัฒน์ วงษ์พันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดฯ  ได้เร่งติดตามสืบสวนพบเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่มีเครือข่ายของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ ได้ออกมารวมกลุ่มกันสั่งซื้อยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และมีการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และมีการปิดบังการกระทำความโดยใช้ร้านจำหน่ายน้ำแข็งในพื้น อ.เมืองชัยภูมิ เป็นแหล่งกระจายยาเสพติดในย่านใจกลางเมือง จ.ชัยภูมิ จึงได้ทำการสืบสวนและล่าสุดมีการจับกุมตัวกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหาที่มี นายธีรพล หรือ

สระแก้ว – ชาวบ้านสุดที่จะทน ร้องเรียนฝ่ายปกครอง ของหลวง ของราษฎร์ หายรายวัน ถูกขโมยไปแลกยา หลังพบผู้ประกอบการ เปิดร้านรับซื้อของเก่า จ่ายยาบ้าเแทนเงิน สนธิกำลังฝ่ายปกครอง จ.สระแก้ว ร่วมปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว ชุดปฏิบัติการตำบลสระขวัญและเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยข่าวกรองทางทหารกองกำลังบูรพา บุกรวบ 3 ผู้ต้องหายกแก๊ง เปิดรับซื้อของเก่าท่าช้าง ขายยาบ้า และรับซื้ิอเศษทองแดง สายไฟ ที่ถูกขโมยมา จ่ายเป็นยาบ้าแทนเงินสด เมื่อวันที่ 17 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว ภายใต้การอำนวยการของนายกองเอกปริญญา โพธิสัตย์  ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสระแก้ว นายกองเอกสุเทพ ชัยวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสระแก้ว นายกองตรีประเสริฐ สิงห์ทอง ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสระแก้ว สั่งการและมอบหมายให้ นายหมวดเอกบุรินทร์ ล่วงเขต ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสระแก้วที่ 1 นำกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน สังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสระแก้วที่ 1 เข้าร่วมปฏิบัติการบูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว , เจ้าหน้าทหารข่าวกรองทางทหารกองกำลังบูรพา ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ประชาชนร้องเรียน ผ่านศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสระแก้ว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารและ ปปส. ปฏิบัติการปูพรมหมู่บ้านแนวชายแดน ไล่ล่าผู้เสพ-ตัดวงจรยาเสพติด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำโดย พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก , พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ โกสินอภิวัฒน์ รอง ผกก.ป. ,พ.ต.ท.สิทธิพร สวยรูป สวป. ,พ.ต.ต.ดีรศักดิ์ ดรดี สวป.(ชส.) ร่วมบูรณาการกับ 4 เสาหลัก ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ, มว.คทร.ฉก.อรัญประเทศ ,นปส.ขกท.ศปก.ทบ. (ขกท.กกล.บูรพา และ นฝด.11), เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และฝ่ายกฎหมาย ,เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 126, กองร้อยทหารพรานที่ 1202 เข้าดำเนินการปฏิบัติการเชิงรุก “ปูพรมค้นหาผู้เสพ” ในหมู่บ้านแนวชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามโครงการตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ