อุบัติเหตุ

พะเยา  สามีร้องไห้แทบขาดใจภรรยาเก็บดอกงิ้วพลัดตกสระจมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 20 กพ.68 เวลา 20.00 น.<span;>) ร.ต.อ.สนิท ไชยวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่กา จ.พะเยา รับแจ้งเหตุคนจมน้ำในสระท้ายหมูบ้านทุ่งโป่ง ม.5 ต.แม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา จึงเดินทางออกตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์ นิติเวชโรงพยาบาลพะเยา มูลนิธิกู้ภัยลือชา สยามรวมใจปู่อินทร์ กู้ภัยกลางและ กู้ชีพกู้ภัยตำบลแม่นาเรือ ที่เกิดเหตุพบเป็นสระน้ำ ในสวนขนาดกว้างและลึกกว่า 5 เมตรและมีต้นงิ้ว ยืนต้นออกดอกบริเวณข้างสระน้ำใต้ต้นงิ้วพบกระสอบปุ๋ย ที่มีดอกงิ้วอยู่ และพบรอย เท้าเป็นรอยลื่นไถล ใต้ต้นงิ้ว เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยเร่งทำการค้นหาภายในสระน้ำใช้เวลากว่าชั่วโมง จึงพบร่างของ นางพิมพรรณ อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ 9 ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา สภาพสวมเสื้อสีน้ำเงินกางเกงสามส่วน สวมรองเท้าบูทยาง สีน้ำเงินร่างกายชีดจางคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่นำร่างให้แพทย์นิติเวชชันสูตรพลิกศพและนำส่ง รพ.พะเยา เพื่อ เพื่อชันสูตรพลิกศพอีกครั้งก่อนมอบให้ญาติทำพิธีทางศาสนา

ยางรถบรรทุกปริศนา กลิ้งใส่คนในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบริเวณซอยกิ่งแก้ว 1 ก เจ้าหน้าที่ สันนิษฐานว่า ยางรถบรรทุกดังกล่าวน่าจะหล่นมาจากรถคันใดคันหนึ่ง เนื่องจากผิวการจราจรไม่ดี เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตรวจ สภ.บางแก้วได้รับแจ้งเหตุ มียางรถบรรทุกขนาดใหญ่หล่นจากรถพ่วง 18 ล้อ กระเด็นพุ่งเข้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ที่หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ซอยกิ่งแก้ว 1 ก ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายรายแรกถูกล้อกระแทกเข้าที่ต้นคอศีรษะกระแทกพื้นแตกเลือดอาบ ทราบชื่อ น.ส.อัจรา อินกลับ อายุ 29 ปี ชาว จ.จันทบุรี ส่วนอีกคนเป็นช่างซ่อมจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ที่ไหล่ซ้าย ฟกช้ำ ใกล้กันพบล้อยางรถบรรทุกขนาดใหญ่ล้มอยู่ที่พื้น จาการตรวจสอบกล้องวงจรปิด

จักรยานยนต์พุ่งชนหลักกิโล ชายวัย 37 ปีเสียชีวิต ขณะที่ลูกชายเผย ปกติพ่อดื่มแต่ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุแต่วันนี้ออกไปซื้อกับข้าวไม่คิดว่าจะเกิดเหตุ      เมื่อเวลา 19:00 น.วันที่ 20 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์พุ่งชนเสาปูนหลักกิโลเสียชีวิต เหตุเกิดถนนละหาร-ลำโพ ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรวจสอบ     ที่เกิดเหตุพบร่างของนายลิขิต ศรีโทมี อายุ 37 ปี คนงานร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น ฟีโน่ สีม่วง-ดำ ทะเบียน 1กถ 6992 เพชรบูรณ์ ล้มคว่ำอยู่โดยมีกับข้าวซึ่งเป็นของสดและข้าวสารตกหล่นกระจัดกระจายเกลื่อนถนน ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้ได้โดยรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับขี่มาจากทิศทางถนน 345 มุ่งหน้าออกไปทางด้านถนนชัยพฤกษ์ตัดใหม่หลังจากผ่านโค้งมารถมีลักษณะขี่ส่ายไป-มา ก่อนที่ตัวรถจะพุ่งชนเสาปูนหลักกิโลอย่างเต็มแรง     ทางด้านเด็กชายตะวัน อายุ 14 ปี คุณชายให้ข้อมูลว่าพ่อได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปตลาดเพื่อไปซื้อกับข้าวซึ่งคาดว่ากำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักแต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียเสียก่อน ส่วนตัวแล้วพ่อจะเป็นคนดื่มสุราแต่ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุขึ้นเลย     ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับเก็บคลิปกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน

วันที่ (20 ก.พ.68) ที่ โรงเรียนวิเชียรชม อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิ AIP และหน่วยงานภาครัฐ จัดพิธีเปิด “สัปดาห์ความปลอดภัยทางถนน” และเปิดตัว Road Safety Corner ในโครงการ “Chevron Street Wise – เดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน ระยะที่ 7” ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านความปลอดภัยทางถนนให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษา ผ่านการเรียนรู้แบบโต้ตอบและสถานีฝึกปฏิบัติจริง สำหรับ โครงการ Chevron Street Wise เห็นถึงความสำคัญของการให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนนแก่เยาวชน เนื่องจากประเทศไทยยังคงเผชิญกับอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในระดับสูง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) อุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในกลุ่มอายุ 5-29 ปี กิจกรรมภายในงานจึงครอบคลุมการเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของหมวกนิรภัย การตระหนักรู้เกี่ยวกับคนเดินถนน ความหมายของป้ายจราจร เทคนิคการเอาตัวรอด และการกู้ภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน นางสาวชบา ไชยจารีย์

ระทึกยามเช้าเกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนในตำบลคุ้มเก่า อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์วอด 2 หลัง และได้ความเสียหายอีก 3 หลังเบื้องต้นคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ขณะที่นายอำเภอเขาวง ผกก.สภ.เขาวง นายกเทศมนตรีกุดสิม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบเร่งช่วยเหลือ พร้อมฝากเตือนประชาชนหมั่นสำรวจสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าเก่าชำรุด เมื่อเวลา 07.40 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.นริศ ไชยสุข ร้อยเวร สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านประชาชนที่บ้านคุ้มเก่า หมู่ที่ 17 ต.คุ้มเก่า อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงเร่งประสานงานไปยังหน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลกุดสิม เทศบาลตำบลนาคู เทศบาลตำบลสระพังทอง อบต.คุ้มเก่า เทศบาลตำบลกุดสิมคุ้มใหม่ และรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา พร้อมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายโกศล ธรรมวิเศษ นายอำเภอเขาวง พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.เขาวง นางสาววิภาวี บุญเรือง นายกเทศมนตรีตำบลกุดสิม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชน โดยที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหมบ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 210 และบ้านครึ่งปูน

นักเรียนหญิงเดินข้ามถนนบนทางม้าลาย ใกล้จะถึงฝั่ง ถูกครถจักรยานยนต์พุ่งชนจนกระเด็นตัวลอยกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณปากซอยเทศบาลบางปู 22 (สุขสันติ) ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนข้ามถนน บริเวณปากซอยเทศบาลบางปู 22 (สุขสันติ) ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุพบ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักเรียนวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ นอนอยู่กับพื้นถนน มีสติถามตอบได้ มีแผลแถลกและปวดเจ็บตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน กทบ 352 สมุทรปราการ จอดอยู่ โดยคนขับขี่ยื่นอยู่ในที่เกิดเหตุ จากการสอบถาม เพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า พวกตนพึ่งเลิกเรียนกำลังจะข้ามถนนตรงทางม้าลายกลับบ้าน ตอนพวกตนเดินไปรถทุกคันหยุดให้หมดแล้ว แต่พอใกล้จะถึงรถมอเตอร์ไซต์ก็พุ่งมาชน

พะเยา ไฟไหม้บ้านลุกลามวอด 2 หลัง   วันที่19 ก.พ.68 เวลา16.00 น.ร.ต.อ.อาคม แก้วหน่อ รองสว.(สอบสวน) สภ.เชียงคำ จ.พะเยา รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้หมู่บ้านหนองบัวเงิน ม.5 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยาจึงประสานรถดับเพลิง เทศบาลตำบลหย่วน อบต.เชียงบาน อบต.น้ำแวนนำรถดับเพลิงจำนวน 5 คันพร้อมมูลนิธิสยามพะเยา สำนักงานใหญ่เชียงคำลงตรวจสอบและระงับเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้น ซึ่งเป็นบ้านนายหาญ มังคลาด บ้านเลขที่ 125 หมู่ 5 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ เพลิงกำลังโหมไหม้อย่างแรงและลุกลามไปยังบ้านนางทองปอน มูลราลักษณ์ บ้านเลขที่ 71 หมู่ 5 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ เจ้าหน้าที่จึงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามโดยรถดับเพลิงได้ฉีดพ่นน้ำสกัดไฟที่กำลังโหมไหม้ใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ซึ่งไฟได้ลุกไหม้ทำให้สร้างความเสียหายกับบ้านทั้ง 2 หลัง หลังเพลิงสงบทั้งเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการสอบถามชางบ้าน ทราบว่า ตอนเกิดไฟไหม้เจ้าของบ้านได้ออกไปทำไร่ไม่ได้อยู่บ้าน จนมีชาวบ้านมาบอกว่าไฟได้ไหม้บ้านจึงรีบมาพบไฟได้ไหม้บ้านอย่างแรงและยังลุกลามไปบ้านที่อยู่ติดกันซึ่งมีชายพิการอาศัยอยู่แต่โชคดีในช่วงเกิดเหตุได้ออกมาอยู่นอกบ้านซึ่งตอนเกิดเหตุไฟไหม้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ช่วยกันขนย้ายออกมา ทั้งนี้สาเหตุของการเกิดไฟไหม้คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาทำการตรวจสอบโดยละเอียดกันอีกครั้ง

เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์สาย 7 กิโลเมตรที่ 110+900 พื้นที่ตำบลตะเคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (19 ก.พ.) ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวม 4 ราย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อรถยนต์ ฟอร์ด สีขาว ทะเบียน ขม-1980 ระยอง ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นชาวจีน 4 คน ได้ขับออกจากอุโมงค์และตัดหน้ารถบรรทุกปูน 22 ล้อ ทำให้รถบรรทุกเบรกไม่ทันและพุ่งชนอย่างจัง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยาและทีมแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยารีบเข้าช่วยเหลือ นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ โตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน 3 กฉ 5486 กทม. ซึ่งจอดอยู่ข้างทาง ได้รับความเสียหายจากแรงกระแทก นายกอบพล โชติสวัสดิ์ อายุ 43 ปี เจ้าของรถเล่าว่าขณะจอดรถกินข้าว รถฟอร์ดได้ออกจากอุโมงค์ ก่อนจะถูกรถบรรทุกชนและกระเด็นมาชนรถของตน ด้านนายสมบัติ เป็นมาก อายุ 56 ปี คนขับรถบรรทุก 22

เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพ-พัทยา พลิกคว่ำบนถนนบายพาส 36 ขาเข้าเมืองพัทยา มีผู้บาดเจ็บ 40 ราย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ รถทัวร์พลิกคว่ำกลางถนน ผู้โดยสารบาดเจ็บหลายรายนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุรถโดยสารประจำทางพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนบายพาส สาย 36 (กระทิง-ระยอง) ขาเข้าเมืองพัทยา ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 1+800 – 1+900 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมรถพยาบาลและกำลังอาสาสมัครเร่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นรถโดยสารประจำทางของ บริษัทรุ่งเรืองทัวร์ สายกรุงเทพ-พัทยา หมายเลขทะเบียน 12-0989 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำขวางถนนกินพื้นที่ 2 ช่องทาง ภายในรถพบผู้โดยสารชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงคนขับ ได้รับบาดเจ็บรวม 40 ราย ส่วนใหญ่มีอาการฟกช้ำและบาดแผลเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำตัวออกจากรถ ก่อนทำการปฐมพยาบาลและลำเลียงส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา และโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อรับการรักษา

ปราจีนบุรี – เกิดเหตุรถเก๋งพุ่งเข้าบ้านประชาชน เจ็บ 3 ราย พื้นที สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พ.ต.ท.สมชาย พฤกษ์ไพบูลย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรีว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนบ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านหนองสังข์ ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งอเนกประสงค์ สีขาว ยี่ห้อ ฮอนด้า ทะเบียน ขม4407 ระยอง เสียหลักเหินข้ามถนนพุ่งตรงเข้าชนตึกแถว เลขที่ 123 คนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเจ้าของห้องได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนั่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงรีบนำตัวทั้ง 3 ราย นำส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี เพื่อให้แพทย์พยาบาลทำการรักษา นางสุรีย์ภรณ์ ศรีท้าว ญาติเจ้าของห้องเช่า กล่าวว่า ได้ยินเสียงดังโครมอยู่หน้าบ้านพักที่อยู่ติดกัน จึงออกมาดู ไม่พบอะไร กระทั่งได้ยินเสียงเอะอะโวยวายว่า รถพุ่งชนเข้ามาในบ้านที่อยู่ติดกัน จึงพากันออกมาส่องดูและพบว่ารถพุ่งชนห้องพักของเพื่อนบ้าน ที่อยู่ติดกัน ซึ่งขณะนั้น เจ้าของบ้านเป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระจกบาดตามร่างกายหลายแห่ง และทราบว่า คนขับเป็นชายขับมาคนเดียว ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ