เครือข่ายองค์กรชาวพุทธเชียงรายเดินหน้า คัดค้านรัฐบาลอนุญาตขายเหล้าเบียร์

เชียงราย-เครือข่ายองค์กรชาวพุทธเชียงรายเดินหน้านำร่องยื่นหนังสือคัดค้านรัฐบาลอนุญาตขายเหล้าเบียร์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 มี.ค.68 ที่ห้องประชุมวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย เครือข่ายองค์กรชาวพุทธจังหวัดเชียงรายและเครือข่ายประชาชนภาคประชาสังคมจังหวัดเชียงรายกว่า 30 องค์กร นำโดยนายนิรันดร์ ภิระบรรณ์ นายกพุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย นายปรีชา พัวนุกุลนนท์ ประธานสมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย พร้อมตัวแทนเครือข่ายองค์กร ได้ร่วมลงนามหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อคัดค้านการอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยมีตัวแทนจากพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยมาร่วมลงนามและรับหนังสือเพื่อส่งต่อยังพรรคการเมืองต่อไป

จากนั้น ได้เดินทางไปศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีนายประเสริฐ จิตพลีชีพรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายมารับหนังสือ พร้อมยืนยันว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้กับรัฐบาลต่อไป

นายปรีชา พัวนุกุลนนท์ ประธานสมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก นายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า รัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจเอกชนถึงข้อจำกัดทางกฎหมายในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการกระตุ้นเศรษฐกิจและไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาข้อมูลเรื่องนี้เพิ่มเติม ซึ่งมีประเด็น ทบทวนการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานั้น

พุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย สมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย พร้อม ด้วยผู้แทนองค์กรพุทธศาสนา องค์กรเครือข่าย และผู้แทนพุทธศาสนิกชนจังหวัดเชียงราย รู้สึกวิตกกังวลและเกิดความห่วงใยต่อพระพุทธศาสนาและบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง เพราะนโยบายดังกล่าวจะเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย สร้างความเสียหายต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติในระยะยาวอย่างใหญ่หลวง จึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกันลงชื่อคัดค้านการแก้กฎหมายเพื่ออนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

ด้านนายนิรันดร์ ภิระบรรณ์ นายกพุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า “ตนเองในนามนายกพุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย ได้หารือกับเครือข่ายพุทธสมาคมทั่วประเทศ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และตอนนี้มีประมาณ 30 สมาคม แต่คิดว่าน่าจะมีมากกว่านี้ ที่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และเตรียมยื่นคัดค้าน เช่นเดียวกับทางจังหวัดเชียงรายอีกด้วย

ทั้งนี้หนังสือเปิดผนึกดังกล่าวมีเนื้อหาคัดค้านการอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาดังนี้
1.โดยพฤตินัย พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย และเป็นบ่อเกิดแห่งประเพณีวัฒนธรรมวิถีไทยทั้งมวล หลายรัฐบาลได้ให้ความอุปถัมภ์และคุ้มครองด้วยมาตรการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง มาตรการหนึ่งก็คือ การออก พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กำหนดมิให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อันเป็นนัยยะที่ประกาศให้สาธารณชนโดยทั่วไปได้รับทราบว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย และควรได้รับการปกป้อง คุ้มครอง
การที่รัฐบาลจะมีแนวนโยบายแก้กฎหมายให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาได้ ถือเป็นการเปลี่ยน \”หลักการใหญ่ของบ้านเมือง\” อันจะส่งผลกระทบกระเทือนต่อพระพุทธศาสนาและสังคมไทยอย่างไม่อาจประเมินค่าได้

2.การอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เป็นหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา๖๗ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นอกจากนี้ ในวรรคสอง ได้กำหนดให้ รัฐต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดำเนินมาตรการหรือกลไกดังกล่าวด้วย รัฐบาลจึงควรต้องแสวงหามาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด หากแม้รัฐมิได้ดำเนินการใดๆ ในการป้องกันมิให้มีการทำลายพระพุทธศาสนา ก็ไม่พึงใช้นโยบายที่เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายอย่างที่กำลังให้มีการทบทวนและจะอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

3.ตามมาตรา43 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้กำหนดให้ เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนในการ \”อนุรักษ์ ฟื้นฟูหรือส่งเสริมภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณีอันดีงามทั้งของท้องถิ่นและของชาติ\”
การคัดค้านแนวคิดอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และให้คงการห้ามจำหน่ายไว้ในกฎหมาย ถือเป็นจารีต (ข้อปฏิบัติ) เพื่อรักษา วัฒนธรรมวันพระใหญ่ของไทยไว้ และสิ่งนี้คืออัตลักษณ์ที่ทรงคุณค่าของไทยในสายตาชาวต่างชาติแม้กลุ่มนักธุรกิจเอกชนยังมีสำนึกสูง เลื่อนจัดงาน full moon party ออกไปทุกครั้งเพราะเป็นวันพระใหญ่ และเป็นที่รับรู้กันของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างประเทศ การกำหนดนโยบายอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของรัฐบาล คือการด้อยค่าศาสนาพุทธและทำลายรากเห้าวิถีวัฒนธรรมไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งพุทธศาสนิกชนไทย ทั้งมวลไม่อาจยอมรับได้และไม่ควรได้รับการอภัยโทษทุกกรณี

4.แม้การห้ามมิให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ไม่อาจทำให้คนไทยและหรือชาวต่างชาติเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มได้ แต่การคงการห้ามจำหน่ายไว้ในกฎหมายก็เป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ว่ารัฐบาลมีความเคารพในพระพุทธศาสนาและคำนึงถึง สุขภาพอนามัยของประชาชน อย่างมีวุฒิภาวะและมีความรับผิดชอบต่อประชาชนในชาติ

5.การจะทบทวนและแก้กฎหมายอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาได้ ตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้างว่า \”ชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไม่ทราบวันสำคัญเหล่านี้มาก่อน\” ไม่ควรเป็นคำกล่าวอ้างของบุคคลที่เป็นผู้นำประเทศที่ต้องมีความ รับผิดชอบต่อบ้านเมือง จารีตประเพณีและสถาบันศาสนา เพราะการที่ผู้ใดจะเดินทางเข้าไป ท่องเที่ยวในประเทศใดนั้น ผู้นั้นต้องปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองของประเทศนั้น ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่เป็นสากลและชอบด้วยอารยวิถี

อนึ่ง การมีกฎหมายไม่อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานั้น ในมิติหนึ่งถือเป็นกุศโลบายในการทำให้ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักพระพุทธศาสนา ได้รู้จักประเทศไทยและอัตลักษณ์ของประเทศไทย ทั้งนักท่องเที่ยวจากต่างชาติส่วนใหญ่ที่เข้ามา ท่องเที่ยวในประเทศไทยต่างเข้ามาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติที่สวยงามและเข้ามาเพื่อ ศึกษาเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมไทยเป็นสำคัญ มิได้เจาะจงเข้ามาเพื่อการดื่มแอลกอฮอล์เป็นหลักการคงไว้ซึ่งข้อห้ามไม่อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จึงถือเป็นการอนุรักษ์ สืบสาน รักษาและต่อยอด ประเพณีวัฒนธรรมวิถีไทย วิถีพุทธให้ดำรงอยู่ เป็นเอกลักษณ์สำคัญประการหนึ่งของประเทศไทย สืบไป

การดำเนินการของผู้คัดค้านทั้งปวง ด้วยความห่วงใยในสุขภาพอนามัยของคนไทยโดยรวมและด้วยมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการส่งเสริม พิทักษ์ ปกป้องและธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ให้ยืนยงคงคู่กับสถาบันชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์สืบไปต่อไป ทั้งเพื่อพิทักษ์ ปกป้องพระพุทธศาสนามิให้เกิดอันตรายทั้งจากภัยภายในและภัยภายนอก ตามหน้าที่ของพุทธบริษัทและตามบทบัญญัติที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นสำคัญ\"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\"