ทวี อภิสกุลชาติ

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568​ ที่โรงเรียนดงเย็นวิทยาคม ต.ดงเย็น อ.เมือง จ.มุกดาหาร ซึ่งได้มีการจัดให้มีการสอบไล่ของนักเรียนเป็นวันสุดท้ายก่อนจะปิดเทอม ผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนดงเย็นวิทยาคมกว่า 200 คน ได้ร่วมกันชุมนุมขับไล่ผู้อำนวยการหญิงของโรงเรียน โดยถือป้ายข้อความต่างๆ อาทิ ไม่เอา ผอ.คนนี้ กดขี่ข่มเหงเยี่ยงทาส , ออกไปไม่เอา , ออกไป โดยมีสาเหตุเนื่องมาจาก ผู้ปกครอง ครูผู้สอน และ นักเรียน ต่างไม่พอใจการบริหารงาน และพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียน โดยมีทั้งการด่าคณะครูต่อหน้านักเรียน การไม่ให้ศิษย์เก่าเข้าไปซ้อมกีฬาในโรงเรียน ให้ครูยืนตากแดดหน้าเสาธงแล้วว่ากล่าวต่อหน้านักเรียน ให้นักเรียนไปเก็บขยะ ในขณะที่นักเรียนจะต้องถ่ายรูปจบการศึกษา ใช้ให้นักเรียนกวาดใบไม้อยู่ตลอดเวลา โดยกลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนได้พากันตะโกนขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน ว่า “ไม่เอา ผอ. ไม่เอาผอ. ออกไป ออกไป” ขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มครูที่ได้รับผลกระทบ จากการกระทำของผู้อำนวยการโรงเรียนต่างพากันนั่งร้องไห้ร่วมกับนักเรียน เนื่องจากที่ผ่านมาได้ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนกดดันมาตลอด ทั้งถูกเรียกไปต่อว่าในห้องทำงาน และต่อหน้านักเรียน ผู้ปกครองของนักเรียนคนหนึ่งกล่าวว่า ผู้อำนวยการโรงเรียน ไม่ควรใช้วาจาที่ไม่สุภาพกับครูและนักเรียน ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำกับเด็กนักเรียนเยี่ยงนี้ และแม้จะเป็นผู้บริหารก็ ไม่ควรจะเรียกครูไปด่าต่อหน้านักเรียน อีกทั้ง

จากกรณีนางหัสดี วัย 56 ปี สารวัตรกำนัน ต.นาคูณ อ.นาหว้า ไลฟ์สดเผยชีวิตสุดทรมาน หลังลูกชายฝาแฝดวัย 23 ปีทั้งคู่ ติดยาเสพติดมานาน 10 ปี ผู้เป็นแม่ต้อสร้างเหล็กดัดใต้ถุนบ้านสร้างห้องขัง ไว้ป้องกันตัวเองจากลูกชาย 2 คนที่คลุ้มคลั่งขู่ทำร้ายและกรรโชกทรัพย์ จนต้องหลบหนีไปอยู่บ้านญาติ ขณะที่นายเมธี แฝดผู้พี่ ตำรวจจับกุมตัวมาดำเนินคดี ส่วนนายเมธาแฝดผู้น้อง เหตุเกิดวันที่ 12 มี.ค.68 หลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้า วันที่ 13 มี.ค.68 พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ศรีสงคราม เปิดเผยว่า นายเมธี แผดผู้พี่ ตำรวจได้จับกุมตัวมาก่อนแล้ว และได้ดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และข้อหากรรโชกทรัพย์ ช่วงบ่ายวันนี้ได้นำตัวไปฝากขังที่ จ.นครพนม ผัดแรกเรียบร้อยแล้ว ส่วนนายเมธา อายุ 23 ปีเท่ากัน แฝดผู้น้องที่หลบหนีไปนั้น จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม ออกไล่ล่าตามแหล่งที่คาดว่าจะกลบดาน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกต่อไป

นครพนม – เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. นางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านนาอินทร์ ตำบลนาเดื่อ ว่าบุตรชายวัย 22 ปี ซึ่งเป็นทหารกองเกินประจำการอยู่ที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม ได้หนีทัพกลับมาบ้าน และสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวและชุมชนเป็นอย่างมาก จากการสอบถามมารดาของทหารเกณฑ์รายนี้ ทราบว่าบุตรชายมีพฤติกรรมเสพยาบ้าอย่างหนัก และมักจะข่มขู่ขอเงินจากมารดาครั้งละ 1,000 บาท เพื่อนำไปซื้อยาเสพติด หากไม่ได้เงินก็จะอาละวาดทำลายข้าวของ และขู่ทำร้ายคนในครอบครัว นายอำเภอศรีสงครามจึงได้สั่งการให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และสัสดีอำเภอ เร่งประสานไปยังค่ายพระยอดเมืองขวาง ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของทหารเกณฑ์รายนี้ เพื่อนำตัวกลับไปควบคุมดูแล พร้อมทั้งจัดกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) นำตัวทหารเกณฑ์รายดังกล่าวส่งกลับค่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ นายอำเภอศรีสงครามได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตามและให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก

นครพนม – 12 มีนาคม 2568 นางหัสดี (สงวนนามสกุล) หรือป้าลี อายุ 56 ปี อดีตสมาชิก อบต. ชาวบ้านบ้านม่วง ต.นาคูณ อ.นาหว้า จ.นครพนม ตัดสินใจเปิดโปงชีวิตสุดทรมานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หลังต้องเผชิญกับฝันร้ายที่เกิดจากลูกชายฝาแฝดวัย 23 ปี ที่ติดยาเสพติดอย่างหนัก จนต้องใช้เหล็กดัดสร้างห้องขังไว้ในบ้าน เพื่อป้องกันตัวเองจากลูกชายที่คลุ้มคลั่งขู่ทำร้ายและกรรโชกทรัพย์ เรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้เกิดขึ้นที่บ้านสวนยางท้ายหมู่บ้านหนองนกทา ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เมื่อทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.นาหว้า ตำรวจ สภ.ศรีสงคราม และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ได้พบกับนางหัสดีที่เล่าถึงความทุกข์ระทมที่ต้องเผชิญมานานนับ 10 ปี \”ฉันเลี้ยงลูกแฝดมา 2 คน กรีดยางหาเงินมาให้พวกเขาทั้งคู่ โดยเฉพาะคนชื่อเมย์ เขาจะขอเงินทุกวัน วันละ 3 เวลา ครั้งละ 50, 80 หรือ 100 บาท วันหนึ่ง ๆ

วันที่ 12 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ถนอม ทาทอง รองอธิการบดีฝ่ายแผนและงบประมาณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปุณณฑรีย์ เจียวิริยบุญญา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและวิเทศสัมพันธ์ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับสื่อมวลชนจังหวัดนครพนม ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมหอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สถานที่เตรียมจัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2566 ซึ่งมีสื่อมวลชนทุกแขนงร่วมเยี่ยมชม ณ หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (เขตพื้นที่มรุกขนคร) บ.เนินสะอาด ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม โอกาสนี้ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้นำเสนอแผนการพัฒนาต่าง ๆ ทั้งในด้านการจัดการเรียนการสอน รวมถึงหลักสูตรการศึกษาใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิด ตลอดจนแผนข้อมูลการพัฒนาด้านโครงสร้าง อาคาร และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ภายใน และการจัดเตรียมงานรองรับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยของหอประชุมแห่งนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2568 พร้อมกันนี้ยังได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมหอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมการเปิดใช้งาน “หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง” มหาวิทยาลัยนครพนม

วันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ที่ทำการกลุ่มพัฒนามุกดาหาร หน้าเดอะพลู ถนนพิทักษ์พนมเขต อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้นิมนต์ พระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เจิมป้ายพร้อมพรมน้ำมนต์ที่ทำการ \”กลุ่มพัฒนามุกดาหาร\” เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีนายสัมฤทธิ์ จ โภคสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม “พัฒนามุกดาหาร” นายพินิจ เจริญสุข 2 อดีตนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร นายภูมินทร์ สิเนหะวัฒนะ อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร และอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร โดยมีเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหารเข้าเยี่ยมชมบริเวณที่ทำการกลุ่ม และถ่ายภาพร่วมกันกับสมาชิกกลุ่มบริเวณด้านหน้าที่ทำการ เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกลุ่มพัฒนามุกดาหาร พร้อมที่จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง รวมพลกลุ่มคนรุ่นใหม่จับมือพัฒนามุกดาหาร ให้ก้าวหน้าสมเป็นเมืองชายแดนไทย – ลาว พัฒนาสร้างสรรค์ ก้าวทันอนาคต จุดขาย เร่งฟื้นฟูตลาดอินโดจีน ให้เป็นพื้นที่การค้าที่สำคัญครอบคลุมทั้งกลางวันและกลางคืน ส่งเสริม พัฒนา สร้างงานแหล่งท่องเที่ยว กีฬา กิจกรรมสัมพันธ์เมืองชายแดน เทศบาลเมืองมุกดาหาร