จากกรณีนางหัสดี วัย 56 ปี สารวัตรกำนัน ต.นาคูณ อ.นาหว้า ไลฟ์สดเผยชีวิตสุดทรมาน หลังลูกชายฝาแฝดวัย 23 ปีทั้งคู่ ติดยาเสพติดมานาน 10 ปี ผู้เป็นแม่ต้อสร้างเหล็กดัดใต้ถุนบ้านสร้างห้องขัง ไว้ป้องกันตัวเองจากลูกชาย 2 คนที่คลุ้มคลั่งขู่ทำร้ายและกรรโชกทรัพย์ จนต้องหลบหนีไปอยู่บ้านญาติ ขณะที่นายเมธี แฝดผู้พี่ ตำรวจจับกุมตัวมาดำเนินคดี ส่วนนายเมธาแฝดผู้น้อง เหตุเกิดวันที่ 12 มี.ค.68 หลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 13 มี.ค.68 พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ศรีสงคราม เปิดเผยว่า นายเมธี แผดผู้พี่ ตำรวจได้จับกุมตัวมาก่อนแล้ว และได้ดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และข้อหากรรโชกทรัพย์ ช่วงบ่ายวันนี้ได้นำตัวไปฝากขังที่ จ.นครพนม ผัดแรกเรียบร้อยแล้ว ส่วนนายเมธา อายุ 23 ปีเท่ากัน แฝดผู้น้องที่หลบหนีไปนั้น จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม ออกไล่ล่าตามแหล่งที่คาดว่าจะกลบดาน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกต่อไป
หลังจากเมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ศรีสงคราม และตำรวจ สภ.ศรีสงคราม ได้ไปที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือเยียวยานางหัสดีผู้ที่เสียหายที่เป็นมารดา ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนหากพบตัวนายเมธา แฝดผู้น้องให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสงคราม สภ.นาหว้า และตำรวจ 191 หรือโทรมาที่ ผกก.สภ.ศรีสงคราม ได้โดยตรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนางหัสดี เป็นชาว บ.ม่วง ต.นาคูนใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม จุดเกิดเหตุที่นางหัสดีไลฟ์สด เป็นสวนยางของตนเองตั้งอยู่ บ.หนองนกทา ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม รอยต่อกันห่างจากบ้านพักของนางหัสดี พื้นที่ บ.ม่วง ต.นาคูน อ.นาหว้า ราว 2-3 กิโลเมตร
โดยบ้านพักภายสวนยางพาราของนางหัสดีถูกปิดเงียบ หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม บุกไปตรวจค้นได้อาวุธปืนแก๊ปยาวไทยประดิษฐ์ 2 กระบอกในห้องของนายเมธา แฝดผู้น้อง และอุปกรณ์การเสพจำนวนมาก
ล่าสุดนายเมธา แฝดผู้น้องที่อยู่ระหว่างหลบหนี ยังได้โทรศัพท์ข่มขู่นางหัสดี ผู้เป็นแม่ในช่วงเช้าวันนี้ จนนางหัสดี หวาดผวาไม่กล้าอยู่บ้านพักในสวนยางฯ โดยหลบไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งยังคงมีอาการหวาดระแวงลูก เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย
ด้านนายอภินันท์ ชาจิตตะ นายอำเภอนาหว้า เผยว่า ได้เรียกตัวนางหัสดี สารวัตรกำนัน ต.นาคูณ เข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจ หากมีปัญหาอะไรให้ติดต่อปลัดอำเภอและกำนันในพื้นที่จะได้เข้าไปช่วยเหลือ ต้องยอมรับว่าลูกแฝดของนางหัสดี มีอาการค่อนข้างมากแล้ว ส่วนนายเมธีที่ถูกจับก่อนนี้ ถ้าไม่ได้เป็นผู้ป่วยตำรวจก็ต้องดำเนินคดี ส่วนนายเมธา ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี เนื่องจากอาจจะมีอาวุธปืน จึงได้กำชับให้รีบจับตัวโดยเร็วต้องยอมรับว่าเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นมาทาง อ.ศรีสงคราม และทาง อ.นาหว้า ต้องบูรณาการร่วมกัน ซึ่งทางนายอำเภอศรีสงครามเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ลงพื้นที่พร้อมส่งทีมปลัดอำเภอและทีม รพ.นาหว้า ซึ่งทางผู้อำนวยการ รพ.นาหว้า ได้ให้ประวัติมาว่านายเมธีและนายเมธา ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทางอำเภอจะได้ดูแลอย่างใกลชิด ซึ่งนางหัสดี ผู้เป็นแม่ยังกังวลว่าลูกที่หลบหนีไปจะกลับมาทำร้าย