อัมพร แสงแก้ว

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 มีนาคม 2568 พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธิปรีชา รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.ปกรณ์ หมื่นสีเขียว สวป., ร.ต.ท.ธงธวัช พลละคร รอง สว.สส. และชุดป้องกันปราบปรามพิเศษ ร่วมกันจับกุมตัวนายธีรพงศ์ ทุ่งสว่าง หรือ “ธีร์” อายุ 30 ปี และนางสาวไอซ์สูงสุด อายุ 37 ปี สองสามีภรรยา พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนักรวม 1.154 กิโลกรัม ยาบ้า 195 เม็ด และอุปกรณ์เสพยาเสพติดจำนวนมาก การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการสืบทราบข้อมูลจากสายลับว่า มีสองสามีภรรยาลอบนำยาเสพติดไปวางหรือโยนไว้ตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่เมืองพัทยาและอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 100 กรัม นัดหมายส่งของบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งริมถนนสุขุมวิท อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบผู้ต้องหาทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง นำโดยนาย​นัธทวัฒน์ โสภณเศวตศิลป์ ปลัดฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ร่วมกับ ร.ต.อ.สนธยา ขนทรัพย์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบบาร์เบียร์ร้างริมถนนพัทยาสาย 2 บริเวณก่อนถึงแยกพัทยากลาง หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่ามีกลุ่มคนเร่ร่อนเข้ามาพักอาศัยและมั่วสุมเสพยาเสพติด จากการตรวจสอบในพื้นที่พบคนเร่ร่อนจำนวน 3 ราย เป็นชาย 2ราย และหญิง 1 ราย โดยเบื้องต้นได้มีการตรวจสอบเอกสาร โดยทั้งหมดมีท่าทีปรกติ จนตำรวจขอตรวจค้นพบว่าชายทั้งสองรายมีอุปกรณ์เสพยาและยาไอซ์จำนวนหนึ่งติดตัว ถึงกับร้องไห้ เมื่อทำการตรวจหาสารเสพติดพบว่าทั้งสองมีสารเสพติดในร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับหญิงอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายแต่ไม่พบ จึงได้ประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พม.) เข้ารับตัวเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะยังคงเดินหน้ากวาดล้างพื้นที่เสี่ยงต่อการมั่วสุมและกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา

ปลาหมอคางดำ ระบาดทะเลแสมสาร ชาวประมงวางอวนติดครึ่งกิโล นายกสมาคมประมง หาแนวทางการแก้ไข หวั่นระบบนิเวศในท้องทะเลเสียหาย ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้ วันนี้ 19 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปยังที่จอดเรือประมงเล็ก บริเวณแนวชายฝั่งอ่าวแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อติดตาม ปัญหาปลาหมอคางดำ ที่มาระบาดอยู่ในพื้นท้องทะเล อ่าวแสมสาร จากการร้องเรียนจาก พ่อค้า แม่ค้า อาหารทะเลสด ชาวประมง หวั่นอาจส่งผลให้ระบบนิเวศในท้องทะเลเสียหาย และได้รับความเดือดร้อนจากการทำประมง จาการสอบถาม นาง กรองแก้ว พัฒน์แก้ว อายุ52ปี แม่ค้าขายของทะเล กล่าวว่า ลูกชายตนออกไปวางอวนดักปลากระบอก แต่กลับได้ปลาหมอคางดำมาหลายตัว ประมาณครึ่งกิโลกรัม และพบว่าตัวปลาหมอคางดำมีขนาดใหญ่ ซึ่ง ณตอนนี้ จากการออกไปทำการประมง ทั้งปู ปลาหมึก ก็ไม่ค่อยได้ ถ้าได้ก็ได้ ในปริมาณที่น้อยลง ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเพราะปลาหมอคางดำ ที่อาจจะไปกิน ลูกปลา ลูกปู หรือไม่ ด้าน นายประเสริฐ

ความคืบหน้ากรณี ชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ขี่รถจักรยานยนต์ด้วยท่วงท่าผาดโผน บนถนนสุขุมวิทพัทยา โดยมี งูขนาดใหญ่พาดคอ และรถประดับประดาด้วยดอกไม้จนป้ายทะเบียนมองไม่ชัด ล่าสุดชายในคลิปที่ถูกแชร์ในโลกโซเชียลได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุงแล้ว เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 นายประเสริฐ ลิ้นสัมผัสวิญญาณ ผู้ที่อยู่ในคลิป ได้เดินทางเข้าพบตำรวจพร้อมจักรยานยนต์คันที่เป็นข่าว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นพระสงฆ์ ตามที่มีการเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ เปิดเผยว่า ตนเป็นเพียงนักท่องเที่ยวที่เดินทาง ขี่จักรยานยนต์จากระยองถึงชลบุรี โดยแวะตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ส่วนสิ่งของที่ประดับอยู่บนรถจักรยานยนต์ เช่น ดอกไม้ เครื่องราง หรือผ้าแดงนั้น เป็นของที่เก็บมาจากศาลต้นไม้และป่าช้า ซึ่งตนมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงนำมาตกแต่งรถ ส่วนเครื่องแต่งกายคล้ายจีวรพระสงฆ์ นายประเสริฐยืนยันว่า ไม่ได้เป็นพระ แต่ผ้านั้นเป็นผ้าที่ประชาชนมักนำไปพันรอบต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เพื่อบูชา ตนจึงนำมาใช้เพราะ สวมใส่สบายและแห้งเร็ว นอกจากนี้ งูที่พาดอยู่บนคอ เป็นงูบอลไพธอน (Ball Python) ซึ่งเป็นงูสายพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ใช่หนึ่งใน 14 สายพันธุ์ต้องห้าม สามารถเลี้ยงได้ตามกฎหมาย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้ทำการตักเตือน สั่งให้แกะสิ่งของที่ประดับอยู่บนรถออก และแต่งกายให้เป็นปกติ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความกังวลให้กับประชาชน

เมื่อเวลา 23.36 น. วันที่ 18 มีนาคม 2568 พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สิริวัฒน์ คัชมาตย์ รองผกก.ป.สภ.พัทยา พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ สภ. เมืองพัทยา ได้ทำการล่อซื้อและจับกุม ผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งหมดสามราย พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์กลิ่นผลไม้จำนวน 7 ตัว สืบเนื่องมาจากรัฐบาลได้มีนโยบายให้กวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาข่าว ของกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่าย จนได้เบาะแสของกลุ่มผู้ค้า จึงส่งสายลับให้ติดต่อล่อซื้อ บุหรี่ไฟฟ้าอิเล็คทรนิกส์กลิ่นผลไม้ จากผู้ค้าจำนวนสามราย ผ่านเฟสบุ๊ค รายแรกคือนายจักริน (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สั่งซื้อ บุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ้ง จำนวน 3 ตัว รายที่สองคือนายธีรภัทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปีสั่งซื้อ บุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ้ง จำนวน 2 ตัว รายที่สามคือ น.ส.นัฐสุดา

กันจอมพลังรุดช่วยหญิงไทยถูกปล้นกลางเมืองพัทยา พร้อมใช้มีดกรีดหน้า ตำรวจเร่งล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้พา น.ส.แววดา สัญชาติลาว อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สิริวัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รองผกก.สืบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังได้รับการร้องเรียนจากสามีของผู้เสียหายว่า ขอให้ช่วยภรรยาถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน ใส่ไอ้โม่งปิดบังใบหน้าและมีผู้หญิง 1 คน รวม 7 คน ดักกระทืบ เตะต่อยจนหน้าเบี้ยวผิดรูปไม่พอใช้มีดกรีดหน้าซ้ำ พร้อมกับปล้นของ เงินสด 7,000 บาท พาสปอร์ต กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ผู้เสียหายจำบุคลิคของคนร้ายได้เป็น 1 ในแก๊งอาหรับที่พัทยา ตอนนี้ครอบครัวอยู่กันอย่างหวาดระแวงไม่กล้าออกจากบ้าน

เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ ( 13 มี.ค.  ) พ.ต.ท.กรณ์พงษ์  สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง พร้อมตำรวจ ชุดสืบสวน เข้าทำการควบคุมตัว นายอินท์กวิน ภิญญาพัฒน์เจริญ หรือวิน อายุ 17 ปี หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง นายภิชาติ ใจเฉื่อย อายุ 19 ปี เพื่อนรุ่นพี่ โดยคมมีดแทงเข้าที่ใต้ราวนมฝั่งซ้ายตัดขั้วหัวใจ ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางละมุง เหตุเกิดบ้านเลขที่ 41/63 ม.8 ต. บางละมุง อ. บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมกับคุมตัว นายวิน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่เหตุเกิด บ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นอู่ต่อเรือ ตรวจสอบบริเวณด้านหลังอู่ มีบ้านพักอีก 1 หลัง ตรวจสอบพบกองเลือดอยู่บริเวณข้างโซฟา ถัดไปประมาณ 1 เมตร พบมีดปลายแหลม ลักษณะเป็นมีดเดินป่า ความยาว 32 เซนติเมตร