สายชล โอชะขจร

ราชบุรี    ในวันนี้( 27 ก.พ.68 ) ร.ต.อ.ชัชวาล จันทร์วงษ์ ร้อยเวรสภ.โพธาราม  จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตภายในบ้านไม่มีเลขที่ ม.3 ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม   พ.ต.ท.ปรัชญา  เตชะ  รอง ผกก.สส.  ได้รับทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สารวัตรสืบสวน พร้อมชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม  เจ้าหน้าที่หน่วยกู้กู้ภัยสว่างราชบุรี และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักภายในห้องนอนพบศพนายนพรัตน์  จิ้มลิ้ม  อายุ 44 ปี   อยู่บ้านเลขที่ 59ม.3 ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม สวมใส่กางเกงนอนขาสั้นสีฟ้าอ่อน เสื้อยึดคอกลมสีขาว ลักษณะนอนคว่ำหน้า จมกองเลือด อยู่บนเตียงนอน  ตามลำตัวพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่อกขวา ทะลุหลัง ในที่เกิดเหตุนั้นยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด  .380 ซุบเปอร์ ตกอยู่1ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถามนางสายฝน หรือปู   อายุ  43 […]

ราชบุรี   ในวันนี้( 21 ก.พ.68 ) พ.ต.ท.อุดม   กำเหนิด  สารวัตรเวรสภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 15/12  ม.3 ถ.แสงชูโต  ต.ท่าผา  อ.บ้านโป่ง  จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ปิยะพงศ์  วงศ์เกตุใจ  ผกก.สภ.บ้านโป่ง  ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบแพทย์เวรโรงพยาบาลยบ้านโป่ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 รายนอนจมกองเลือดหายใจรวยรินเจ้าหน้าที่พยายามเข้าทำการช่วยชีวิต  แต่ไม่เป็นผลผู้หญิงคนดังกล่าวได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบตามร่างกายพบมีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าหลายแห่ง ทั้งแขนซ้าย หน้าอกและชายโครง รวมทั้งหมด 5 แผล  ซึ่งทราบชื่อหญิงคนดังกล่าวคือ นางสาวณัฐธิดา  มีล้อม  อายุ 60 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 23/3 หมู่ 2 ต.ท่าผา  อ.บ้านโป่ง   ห่างจากศพไปเล็กน้อยพบรถจักรยานจอดอยู่  พบมีดปลอกผลไม้ตกอยู่ 1 เล่ม และรองเท้าแตะอีก 1 คู่  เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย  ส่วนผู้ที่ก่อเหตุนั้นได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าคือนายบุญศรี  สงจินดา  อายุ 

ราชบุรี   จากกรณีที่มีคนร้ายแอบซุ่มยิงนายวิวัฒน์   ไชยเผือก  อายุ 69  ปี  อยู่บ้านเลขที่ 140  ม.6 ต.หนองหญ้าปล้อง  อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี  เสียชีวิตขณะกำลังเตรียมเปิดร้านจะขายข้าวแกง  เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 88/3 ม.7  บ้านห้วยศาลา ต.ยางหัก อ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี  เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ( 21 ก.พ.68 ) ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ปากท่อ ได้ไปจับกุมตัวนายเลี้ยง  ขุนนุช  อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.2  ต.หญ้าปล้อง  อ.หนองหญ้าปล้อง  จ.เพชรบุรี   หลังได้ทำการสอบปากคำญาติของผู้ตายถึงประเด็นปัญหาที่ผู้ตายมีกับคนอื่น จนทราบว่าน่าจะเป็นเรื่องของการเป็นนายหน้าขายที่ดิน ซึ่งมีการข่มขู่และทะเลาะวิวาทกันมานานเกือบปีแล้ว  จากนั้นได้นำตัวนายเลี้ยง พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว  และเสื้อผ้าที่ใส่ในช่วงที่ก่อเหตุมาสอบสวนที่สภ.ปากท่อ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี มาทำการตรวจสอบเขม่าดินปืนที่มือและเสื้อผ้าด้วย     โดยนายเลี้ยง  ได้ยอมรับสารภาพว่าได้ไปดักซุ่มยิงนายวิวัฒน์จริง  ซึ่งนายเลี้ยงอ้างว่าโกรธแค้นผู้ตายที่เคยสนิทสนมกันและเป็นนายหน้าค้าที่ดินด้วยกัน  แต่ล่าสุดเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา ตนได้รู้จักกับนายทุนคนหนึ่ง ซึ่งจะมาซื้อที่ดินกว่า 100

ราชบุรี   ในวันนี้( 21 ก.พ.68 )  พ.ต.ท. จรูญ  มหาผล  สารวัตรเวรสภ.ปากท่อ   จ.ราชบุรี ได้รับเเจ้งเหตุมีคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต บริเวณร้านข้าวแกงเลขที่ 88/3 ม.7  บ้านห้วยศาลา ต.ยางหัก อ.ปากท่อ  หลังรับแจ้งรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พศพงศ์ มณฑา ผกก.สภ.ปากท่อ กองพิสูจน์หลักฐาน7  พ.ต.ท.อรรถวุฒิ  อนุเอกจิตร รอง ผกก.สภ.ปากท่อ  พ.ต.ท.ทรงศักดิ์  พานิชสกุล รอง ผกก.สส.สภ.ปากท่อ  พ.ต.ท.พิทยา  รัตนา สวป.สภ.ปากท่อ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์  ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายข้าวแกงอยู่ติดกับถนน ที่บริเวณด้านหน้าร้านพบผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อคือนายวิวัฒน์  ไชยเผือก  อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.6 ต.หนองหญ้าปล้อง  อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี สภาพศพนอนหงายหน้า สวมเสื้อลายสก็อตสีแดงน้ำเงิน ใส่กางเกงขาสั้นสีฟ้าอ่อนนอนจมกองเลือดอยู่ ตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธลูกซองเข้าที่ด้านหลังขวา 1 นัด ทะลุคอ ด้านหน้า ใกล้กันพบหมอนลองกระสุนลูกซองตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

ราชบุรี    จากกรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ Bom ได้ลงคลิปเสียงเพลงลูกทุ่งโบราณดังขึ้นมาจากวิทยุในรถที่ประสบอุบัติเหตุ  ขณะกำลังจะนำมาเก็บที่เก็บรถของกลาง  แต่ได้จอดที่หน้าสภ.โพธาราม จ.ราชบุรี  เพื่อรอรับใบฝากรถจากพนักงานสอบสวน   พร้อมกับลง ข้อความว่า แล้วติดได้ไง #makslidecar #ซุ้มสารวัตรเมฆ#รถสไลด์ราชบุรี #ตัวแสบโพธาราม   ซึ่งในคลิปดังกล่าว  จะมีเสียงเพลงลูกทุ่งโบราณดังมาจากเครื่องเสียงภายในรถ  ทั้งที่รถนั้นไม่ได้เปิดกุญแจ  ทำให้เกิดอาการหลอน  หลังจากได้นำคลิปดังกล่าวโพสต์ในโซเซียลทำให้มีผู้เข้ามาชมกว่า 1 ล้านภายในช่วงข้ามคืน บ้างคอมเม้นขอเลขทะเบียนรถไปเล่นหวยด้วย     ล่าสุดวันนี้( 10 ก.พ.68 ) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ดังกล่าว  ทราบว่าพักอาศัยอยู่ที่เก็บรถของกลางของสภ.โพธาราม  จึงเดินทางไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พบนายจักรกฤษณ์ หาดี เจ้าของรถยกคันดังกล่าว  ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรถคันดังกล่าว พบว่าเป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า  สีบรอนซ์  หมายเลขทะเบียน กว-3895 ราชบุรี  สภาพรถนั้นด้านหน้าพังยับเยินทั้งคัน  ด้านในรถยังมีเครื่องเสียงสำหรับติดอยู่ภายในรถด้วย   ซึ่งนายจักรกฤษณ์ เเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่ารถคันดังกล่าวนั้นได้เกิดอุบัติเหตุที่แยกเจ็ดเสมียน ช่วงประมาณตี 4 ของวันที่ 9 ก.พ.68  ทางเราก็ออกไปยกรถเก็บที่เก็บรถของกลาง   ซึ่งตัวรถเสียหายเยอะหลังจากนั้นได้นำรถคันดังกล่าวมาที่โรงพักเพื่อมารอใบฝากรถ  จู่ๆ เพลงในรถก็ดังขึ้นมาซึ่งเป็นเพลงลูกทุ่งในสมัยโบราณ

ราชบุรี    ในวันนี้ (  6 ก.พ.68 ) ร.ต.อ.พิชัย  เชิงดี  ร้อยเวรสภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้าไปขโมยตู้รับบริจาคภายในวัดโพธิ์ไพโรจน์ เขตเทศบาลโพธาราม หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของสภ.โพธาราม ในที่เกิดเหตุพบพระปรีชา จันทาคีรี พระลูกวัดโพธิ์ไพโรจน์  ได้พาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่คนร้ายได้แอบย่องยกตู้รับบริจาคไปซึ่งอยู่บนศาลาการเปรียญ  ที่บริเวณหน้าพระประธานภายในศาลาจะมีตู้รับบริจาคเป็นตู้ไม้ วางไว้ที่ข้างพระพุทธรูป ซึ่งญาติโยมที่ขึ้นมากราบไหว้ก็จะทำบุญบริจาคใส่ในตู้   ตรวจสอบล่าสุดพระปรีชา บอกว่าภายในตู้รับบริจาคนั้นมีเงินอยู่ประมาณครึ่งตู้ แต่ไม่ทราบว่าเท่าไหร่เพราะนานๆจะไขตู้ออกมา  ที่ผ่านมาเวลาไขตู้ออกมาก็จะมีเงินบริจาคประมาณ 10,000 – 15,000 บาท  ซึ่งก็จะนำไปจ่ายเป็นค่าน้ำค่าไฟของวัด  แต่เมื่อช่วงเย็นเดินผ่านหน้าพระประธานมองเห็นว่าตู้รับบริจาคที่วางไว้บนแท่นเหล็กหายไป    จึงได้ไปเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบคนร้ายเป็นชายผิวดำแดง  สวมใส่เสื้อเชิ๊ตลายสก๊อต กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่สวมใส่รองเท้า  แอบย่องเข้ามาขโมยตู้รับบริจาคไป โดยเดินออกทางด้านหลังกุฎิ และกล้องด้านหลังก็เห็นคนร้ายเดินหลบออกไปทางเมรุ   จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้กระจายกำลังกันออกค้นหาตู้รับบริจาคในพื้นที่รอบวัด  เนื่องจากคนร้ายน่าจะนำตู้รับบริจาคมางัดเพื่อเอาเงินออกมาและอาจจะโยนตู้ทิ้งในบริเวณใกล้เคียง แต่เดินตรวจสอบไปรอบๆวัดก็ยังไม่พบตู้บริจาค   และหากมีผู้ใดรู้เบาะแสคนร้ายให้แจ้งมาได้ที่ สภ.โพธาราม  เพื่อจะได้ติดตามโจรใจบาปมาดำเนินคดีต่อไป