นายหัวไทร

กำหนดการนายกฯ ไม่มีแวะ เขาแดง-เขาน้อย ไปชมเมืองเก่าสงขลา ถนนนางงาม นครนอก นครใน ใส่เสื้อบาติกลายสมิหลา กำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม. สัญจร ซึ่งเป็นครั้งที่ 1 /2568 จัดขึ้นที่พัทลุง – สงขลา มีดังนี้ ตอนเก้าโมงนายกฯ อุ้งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเรือบินที่สนามบิน บน.6 ไปลงสนามบินตรัง จากนั้นเดินทางเข้าจังหวัดพัทลุง ไปดูการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา บริเวณจุดชมวิว บ้านพนังตุง อ.ควนขนุน จ.ตรัง บ้านพนังตุง เป็นพื้นที่รับน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ก่อนผันลงสู่ทะเลสาบสงขลา เราจึงพบว่า เมื่อมีฝนตกหนักโซนเทือกเขาบรรทัด น้ำจะไหลหลากเข้าเอ่อล้นท่วมบ้านพนังตุงก่อนจะไหลลงทะเลสาบสงขลา ถ้าการบริหารจัดการน้ำดี น้ำก็จะไม่ท่วมบ้านพนังตุง ถามว่า บ้านพนังตุงอยู่ตรงไหนของ อ.ควนขนุน ก็ตอบได้ว่า อยู่ริมทะเลสาบสงขลา ฝั่ง จ.พัทลุง ก่อนขึ้นสะพานเฉลิมพระเกียรติ์ ข้ามไป ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา ไม่ไกลจากวัดเขาอ้อ มากนัก ซึ่งเป็นสะพานที่สวยที่สุดในประเทศไทยในเวลานี้

แม้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะออกมาปฏิเสธว่า ยังไม่ถึงเวลาปรับ ครม. แต่ให้จับตาหลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และสภาจะเปิดให้ซักฟอกเดือนมีนาคมที่จะถึง ต้องดูข้อมูลของฝ่ายค้านว่าจะมัดคอรัฐมนตรี หรือฉีกหน้ากากรัฐมนตรีคนไหนได้บ้าง แต่การปรับ ครม. ในสไตล์ของทักษิณอาจจะไม่เกี่ยวกับศึกซักฟอก รัฐมนตรีคนไหนได้ตอบแทนกันแล้วก็จะหมดคุณค่า ปรับออกได้โดยไม่คำนึงถึงผลงาน หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อยู่ที่ความพอใจ เราจะเห็นว่าเคยมีรัฐมนตรีหลายคนถูกปรับออกแบบไม่มีเหตุผล เช่น หมอชลน่าน ศรีแก้ว ถูกปรับออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข และไม่มีตำแหน่งใดๆ รองรับ ทั้งๆ ที่ช่วงจัดตั้งรัฐบาล หมอชลน่านทำงานเต็มกำลังในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ อันเป็นการช่วงชิงการนำจากพรรคก้าวไกล สำหรับกระแสข่าวการ “ปรับ ครม.” สื่อบางสำนักเคยให้ข้อมูลไว้ว่า มีข่าวว่า พรรคเพื่อไทย ต้องการแลกกระทรวง กับ พรรคภูมิใจไทย โดยพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทย ที่อาจแลกกับ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงต้องการกระทรวงแรงงานด้วย แต่ยังมีปัญหาเรื่องการเกลี่ยตำแหน่ง เพราะในกระทรวงมหาดไทย  ภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีถึง 4 คน แต่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อไทยมีแค่ สมศักดิ์ เทพสุทิน โดยมี เดชอิศม์ ขาวทอง

มีคนตั้งคำถามกันมาว่า เมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช ผลการเลือกตั้ง ส.อบจ. ฝ่ายบริหารได้รับคะแนนเสียงข้างน้อย คือ ฝ่ายบริหาร 16 เสียง ฝ่ายค้าน 20 เสียง ซึ่งอีก 6 เสียง เป็นผู้สมัครอิสระ แล้วจะเกิดความยุ่งยากในการบริหารหรือไม่ ? แน่นอนว่า ถ้าเป็นรัฐบาลกลางยุ่งยากถึงขั้นอยู่ไม่ได้แน่นอน กฎหมายของรัฐบาลไม่ผ่านสภา นายกรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่ลาออก ก็ต้องยุบสภา อย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน สำหรับ อบจ. นครศรีธรรมราช ให้จับตาดู– กลุ่มพลังเมืองนคร ต้องยึดตำแหน่งประธานสภาแน่นอน เพราะเป็นฝ่ายเสียงข้างมาก– กลุ่มพลังเมืองนคร อาจถึงขั้นยึดตำแหน่งรองประธานสภาด้วย ถ้าประนีประนอมกันไม่ได้– หลักการของกฎหมายท้องถิ่น ถ้าสภาขัดแย้งกับฝ่ายบริหารจนทำงานไม่ได้ มีทางออก– นายกฯ อบจ. มีอำนาจทำรายงานเสนอผู้ว่าฯ ถึงปัญหายุ่งยากที่เกิดขึ้นได้– ผู้ว่าฯ มีอำนาจเสนอมหาดไทยให้ยุบสภา อบจ. ได้ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ ส่วนนายกฯ ยังอยู่ในตำแหน่ง– ถ้าสภาถูกยุบก็ต้องเลือกตั้งใหม่ ไม่มีใครอยากเลือกตั้งใหม่– เราจะเห็นว่าที่ผ่านมาแม้เสียงข้างน้อยก็บริหารงานได้ แต่ต้องมีการเจรจาประสานประโยชน์กันให้ลงตัว–

น่าสนใจศึกษาและถอดรหัสยิ่งสำหรับปรากฏการณ์ทางการเมืองในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) กับปรากฏการณ์บัตรเสีย และบัตรโนโหวต-โหวตโน จำนวนมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน อำเภอเมืองตรัง เขต 2 ถึงขั้นต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ส.อบจ.16 มีนาคม นี้ หลังเกิดปรากฏการณ์ประชาชนสอนนักการเมืองจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้ชนะได้คะแนนอันดับ 1 ได้ 2,000 กว่าคะแนน แต่แพ้คะแนนโหวตโนที่พุ่งไปเกือบ 3,000 กว่าคะแนน จน กกต. จังหวัด ต้องเรียกประชุมด่วน เพื่อเปิดรับสมัครและจัดการเลือกตั้งใหม่ #กกต. ตรังกำหนดแล้ว เปิดรับสมัครใหม่และเลือกตั้งใหม่ 16 มีนาคมนี้ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นปรากฏการณ์อารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง ที่น่าจะเกิดจากความไม่พอใจต่อตัวผู้สมัคร ทั้งในส่วนของฝ่ายบริหาร และฝ่ายสภาประชาชนจึงต้องสั่งสอนนักการเมือง ผ่านการโหวตโน โนโหวตหรือบัตรเสีย เราจึงพบว่า การเลือกตั้งนายกฯอบจ.คราวนี้มีบัตรเสียจำนวนมากผิดปกติ #ขอยกเป็นตัวอย่างจังหวัดที่บัตรเสียจำนวนมากในส่วนของการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายจังหวัดมียอดของจำนวนบัตรเสีย กับบัตรไม่เลือกผู้สมัครคนใด หรือ บัตรโหวตโน สูงหลักหมื่นถึงหลักแสนจำนวนมาก อาทิเช่น จ.นครราชสีมาผู้มาใช้สิทธิ 1,155,142 คนบัตรดี 972,902 ใบบัตรเสีย 71,306 ใบ (6.17%)บัตรไม่เลือกผู้ใด