นครินทร์ ชินวรโกมล

พิธีรดน้ำศพทหารกล้า ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่

โดยเมื่อช่วงเวลา 13.30 น. ของวันที่ 24 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา  ที่ศาลาพระอภิธรรมศพ ฌาปนสถานเทศบาลนครยะลา ตำบลสะเตง อำเภอเมือง  พลตรี พิชิต โชติแก้ว รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เดินทางมาเป็นประธานพิธีรดน้ำศพ อาสาสมัครทหารพราน บุญชู  นาคพัน  ทหารสังกัด กรมทหารพรานที่ 45  ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีบรรดาข้าราชการตำรวจ ทหาร รวมทั้งฝ่ายปกครอง และญาติของผู้เสียชีวิตเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก   ซึ่งศพของอาสาสมัครทหารพราน บุญชู  นาคพัน  ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานน้ำหลวงอาบศพเป็นกรณีพิเศษ  รวมทั้งพระราชทานพวงมาลา ไว้หน้าหีบศพด้วย ซึ่งสร้างความปราบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมากต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้เหตุการณ์ความไม่สงบในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.55 น. ของวันที่ 23 ม.ค.68  ที่ผ่านมา ในขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพราน ที่ 4511  จำนวน 7 นาย ได้เดินทางไปวางกำลังรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ ที่จะมาประชุมงานป่าไม้ที่ อบต.บองอ  หมู่ 9 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส  และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจอดรถยนต์บริเวณหน้าศาลาศูนย์ปฎิบัติธรรม เพื่อแจกจ่ายงานยืน รปภ.ประจำจุดอยู่นั้น  คนร้ายซึ่งนำระเบิดแสวงเครื่องไม่ทราบขนาดมาซุกซ่อนเอาไว้ใต้ฟ้าเพดานด้านขวาของศาลา บริเวณทางขึ้น  ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ทหาร ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว  โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ […]

พิธีรดน้ำศพทหารกล้า ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ Read More »

ยะลา คู่รัก LGBTQ ชื่นมื่น จูงมือกันจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมวันแรกที่อำเภอใต้สุดประเทศไทย

ยะลา – คู่รักชื่นมื่น LGBTQ จูงมือกันจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมวันแรกที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา หลังครองรักกันมานาน ชี้กฏหมายนี้ทำให้การใช้ชีวิตคู่ดีขึ้น ทั้งการเงินและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ วันนี้ (23 ม.ค.) ที่ว่าการอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นวันแรก ที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้โดยที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลาให้การต้อนรับทุกคู่รักที่มาจดทะเบียนทั้งนี้นอกจากจะช่วยส่งเสริมสิทธิมนุษยชนแล้วยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ของประเทศอีกมากมาย รวมถึงส่งผลดีต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่ม LGBTQ+ อีกด้วยโดยที่อำเภอเบตง เป็นอำเภอที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศมาเลเซียและจะมีคู่รักต่างชาติกลุ่ม LGBTQ+เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยหลังจากได้จดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการอำเภอเบตง นายอิสสะมาแอ ยาโกะ นายอำเภอเบตง และ นางสาวบุศริน เถาวัลย์ ปลัดอำเภอเบตง หน.ฝ่ายทะเบียนและบัตรฯ ให้คู่รักได้แสดงความรักต่อกันโดยได้มอบดอกกุหลาบที่สื่อถึงความรักซึ่งกันและกัน พร้อมมอบกระเช้าของขวัญในการจดทะเบียนเป็นคู่แรกของอำเภอเบตง ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้นและสนุกสนานอย่างมาก โดยมีคู่รักบางคู่ได้ครองรักกันมานานมากกว่า 8 ปี ด้าน นายกิตติศักดิ์ ศิริจันทราวงษ์ อายุ 59 ปี ชาวกรุงเทพฯ และ นายจรูญ มณีเนียม อายุ 50 ปี ชาวปัตตานี

ยะลา คู่รัก LGBTQ ชื่นมื่น จูงมือกันจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมวันแรกที่อำเภอใต้สุดประเทศไทย Read More »

 สร้างความเข้าใจอีกครั้ง!! ฟ้อง 9 แกนนำ ในคดียุยงปลุกปั่น ไม่ใช่เพราะแต่งกายชุดมลายู

  จากกรณีที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้แต่งตั้งผู้แทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสายบุรี จังหวัดปัตตานี เพื่อดำเนินคดีต่อคณะแกนนำในการจัดงานและร่วมทำกิจกรรมที่มีเนื้อหา รูปแบบในลักษณะของการยุยงปลุกปั่นให้เยาวชนร่วมกันปฏิวัติกอบกู้เอกราชรัฐปาตานี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 โดยสมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (CAP) ณ หาดวาสุกรี ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จากการตรวจสอบด้วยการสังเกตการณ์และตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์พบว่า รูปแบบการดำเนินกิจกรรมและเนื้อหาการแสดงออกที่อยู่ในความควบคุมของคณะแกนนำผู้จัดนั้น มีเนื้อหาที่มีลักษณะเป็นการยุยงปลุกปั่น มีการแสดงธงของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนกลุ่ม BRN รวมทั้งมีการกล่าวถ้อยคำบนเวทีอันมีลักษณะว่า “มีศัตรูมาทำลายชาติมลายูปาตานีทำให้เสียเอกราช เยาวชนต้องรวมตัวกันทำให้หมดไปซึ่งการถูกกดขี่ข่มเหง” การกล่าวถ้อยคำว่า “วันรายอที่ 3 เป็นวันเยาวชนแห่งชาติปาตานี” รวมทั้งกิจกรรมร้องเพลงปลุกใจ มีเนื้อหาทำนองให้เยาวชนร่วมกันปฏิวัติกอบกู้เอกราชรัฐปาตานีคืนมา ซึ่งพฤติการณ์และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดอาญา  ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือด้วยวิธีอื่นใดอันมิใช่กระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมายแผ่นดินมาตรา 209 ความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ มาตรา 210 ความผิดฐานร่วมกันเป็นซ่องโจร และดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีการชุมนุมฝ่าฝืนมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งต่อมาพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องตามพนักงานสอบสวน และวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่จะถึงนี้จะเป็นวันครบรอบที่อัยการจังหวัดปัตตานี เลื่อนนัดเพื่อยื่นฟ้อง คดีกับนักกิจกรรมทั้ง 9 ราย ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาคดีดังกล่าวพยายามยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ทบทวนคำสั่งของอัยการ คดีอาญา 4 ภาค 9 ที่มีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายมูฮำหมัดอาลาดี เด็งนิ กับพวก เช่นเดียวกับความเห็นของพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง 

 สร้างความเข้าใจอีกครั้ง!! ฟ้อง 9 แกนนำ ในคดียุยงปลุกปั่น ไม่ใช่เพราะแต่งกายชุดมลายู Read More »