ชัชวาลย์ บำรุงจิตต์

3 โจรแสบเดินผ่านหน้าร้านจิ้มจุ่ม เห็นเจ้าของร้านลืมกุญแจไว้คารถ เดินวนกลับมาเอา ก่อนสตาร์ทรถหนีไปต่อหน้าเจ้าของ จยย. เมื่อเวลา 14.35 น.ของวันที่ 30 เม.ย.68 บริเวณหน้าร้านชื่อจิ้มจุ่มต้องถาม หมู่ 3 ต.สาริกา อ.เมืองจ.นครนายก กล้องวงจรปิดจับภาพพฤติกรรมของโจรแสบวัยรุ่น 3 คน กำลังเดินผ่านหน้าร้าน ก่อนจะเดินเลยไป และมี 1 ใน 3 คน เดินวนกลับมา ขี่มอเตอร์ไซค์ของเจ้าของร้านออกไป โดยได้ขี่ไปรับเพื่อนอีก 2 คนที่อยู่ด้านหน้า ก่อนจะ ซ้อนมอเตอร์ไซค์ 3 คน หนีไปทางตัวเมืองนครนายก ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ได้สอบถาม คุณยา เจ้าของรถจักรยานยนต์ ได้เล่าให้ฟังว่า รถจักรยานยนต์ที่หายเป็นยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ทะเบียน กข566 สุราษฎร์ธานี สีน้ำเงินแม็กสีดำ ปกติตนเองจะจอดรถไว้บริเวณหน้าร้าน และจะถอดกุญแจออกทุกๆครั้ง แต่ครั้งนี้ตนเองได้ลืมถอดกุญแจออกจากรถจักรยานยนต์ ทำให้คากุญแจไว้ที่รถ ในช่วงที่รถหายตนเองได้เดินไปเด็ดใบกะเพราอยู่หลังร้าน ต่อมาได้ยินเสียงเหมือนคนสตาร์ทรถจักรยานยนต์ จึงรีบวิ่งออกมาดู ก็เห็นวัยรุ่นกำลังขี่รถของตนเองออกไปจากหน้าร้าน ตนเองก็รีบวิ่งออกมาแต่ก็ไม่ทันหนึ่งในคนร้ายขับหนีไปและไปรับเพื่อนอีก 2

ที่นครนายก เมื่อเวลา 21.30 น. (29 เม.ย. 68) เจ้าหนาที่กู้ภัยสว่างอริยะฯ จังหวัดนครนายก ได้รับแจ้ง จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีเหตุไฟไหม้รถบริเวณ สวนละอองฟ้า ทางขึ้นอ่างเก็บน้ำคลองโบด เจ้าหน้ากู้ภัยฯ พร้อมรถดับเพลิง อบต.เขาพระ ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุที่ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าสวนละอองฟ้า ทางขึ้นอ่างเก็บน้ำคลองโบด ม.8 ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ที่เกิดเหตุพบระกระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน บต 6684 นครนายก ไฟกำลังลุกไหม้ และมีเสียงระเบิดจำนวนหลายครั้งต่อเนื่อง ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นรถติดแก๊ส NGV จึงได้มีเสียงระเบิดออกมาจำนวนหลายครั้ง พบผู้ได้รับบาดเจ็บหมดสติเป็นชาย อยู่นอกตัวรถจำนวน 1 ราย ต่อมาทราบชื่อ นายชาติชาย ดอนถวิล อายุ 44 อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.6 ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่เร่งกู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน นำส่ง รพ.นครนายก ต่อไป ในที่เกิดเหตุพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย

ที่นครนายก เวลา 10.00 น. (28 เม.ย 68) เพจเรื่องจริงนครนายก ได้ลงภาพและคลิป ตามหาเบาะแส คนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ บ้านเรือนประชาชน ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสอบถามไปทางเพจเรื่องจริงนครนายก ทางเพจได้แจ้งว่า มีประชาชนขอความช่วยเหลือให้ตามหาเบาะแสคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านบริเวณบ้านเลขที่ 134 ม.11 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบผู้เสียหายบริวณบ้านที่เกิดเหตุ ม.11 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก บ้านหลังเกิดเหตุ พบกับ น.ส.ปพิชญา ศิลปชัย อายุ 41 ปี เจ้าของบ้าน ได้เล่าให้ฟังว่า ถูกลักทรัพย์จริง โจรได้ทรัพย์สินไป 4 รายการคือ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ 2.ปั๊มน้ำแบบหอยโข่ง 3.กล้องบันทึกวีดีโอวงจรปิด 4.คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ซึ่งทางผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครนายก แล้วก็ส่งข้อมูลไปให้กับทางเพจเรื่องจริงนครนายก เพื่อให้ช่วยตามหาเบาะแสของคนร้ายให้ เนื่องจากกล้องวงจรปิด สามารถจับหน้าคนร้ายไว้ได้ค่อนช้างชัด ในระหว่างที่คนร้ายก่อเหตุอยู่ กล้องวงจรปิดได้จับความเคลื่อนไหวและส่องไฟไปทางคนร้าย

ชุด กก.สส.ภ.จว.นครนายก ตรวจยึดตู้คีบตุ๊กตาไฟฟ้า ทั่ว จว.นครนายก หลังมีประชาชนร้องเรียนเข้ามา ว่าเป็นการมอมเมาเด็กแล้วเยาวชน ตรวจยึดได้ถึง 77 ตู้ เมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 23 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กก.สืบสวน ภ.จว.นครนายก พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประติษฐ์ ผบก.ภ.จว.นครนายก,พ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช รอง ผบก.ภ.จว.นครนายก, พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสอาด รอง ผบก.ภ.จว.นครนายก,ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.นครนายกโดยการนำของ พ.ต.อ.ธีรพรรดิ์ บัณฑิโตหิรัญโชติผกก.สส.ภ.จว.นครนายก, พ.ต.ท.กฤตพงศ์ โรจน์รุ่งศศิธร รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครนายก, พ.ต.ท.ยงยุทธ หวานเหนือ สว.กก. สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำกำลังตำรวจ เข้าตรวจยึดตู้คีบตุ๊กตาไฟฟ้า ในเขตพื้นที่จังหวัดนครนายก จำนวน 77 ตู้ โดยไม่มีผู้รับเป็นเจ้าของ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครนายก ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีตู้คืบสินค้าไฟฟ้า(ตุ๊กตา) แพร่หลายตามห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ใน

เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 17 เม.ย.68 น.ส.วราภรณ์ ดีระเบียบ เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครนายก ว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.48 น.ได้จอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น มีโอ สีขาว ทะเบียน 1ถค-9901 นครนายก จอดไว้บริเวณหน้าร้าน R.O. เลขที่ ข4-267 ต.นครนายก อ.เมือง จ.นครนายก แล้วลงไปทำธุระ จนเมื่อวลาประมาณ 16.00 น. ได้ทราบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไป โดยไม่ทราบว่ามีผู้ใดมาลักขโมยไป จน ได้เปิดกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าร้าน จึงได้เห็นผู้หญิงวัยกลางคน สวมหมวกใบสีฟ้า เสื้อคลุมแขนยาวกางเกงขายาว ถือของมาพะรุงพะรัง ก่อนจะขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ แล้วสตาร์ทรถขับออกไปเส้นสี่แยกวัดอุดม ตนเองจึงรีบเข้าแจ้งความที่ สภ. เมืองนครนายกเพื่อให้ตำรวจรีบติดตามจับกุม ต่อมาไม่นานทางเจ้าของรถได้รับทราบจากพลเมืองดี ว่าเห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ บริเวณแถววัดหลวงพ่อปากแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นของผู้เสียหายจริง ซึ่งพลเมืองดียังแจ้งว่าเห็นบุคคลดังกล่าวกำลังไปก่อเหตุลักจักรยานอีกคันแถวซอยไก่แจ้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังออกไปจับกุมผู้ก่อเหตุได้ตามภาพวงจรปิด จำนวน 1 ราย ซึ่งต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้ทราบเพิ่มเติมว่า

ที่ สภ.เมืองนครนายก เวลา 21.00 น. (11 เม.ย.68) พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.นครนายก, พ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช รอง ผบก.ก.ก.จว.นครนายก ,พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์รอง ผบก.ภ.จว.นครนายก , พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสอาด รอง ผบก.ก.จว.นครนายก , พ.ต.อ.ชวรัตน์ สสิวงศ์ รอง ผบก.ก.จว.นครนายก , พ.ต.อ.ยงยุทธ มาศิริ รอง ผบก.ก.จว.นครนายก ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.นครนายก โดยการนำของ พ.ต.อ.ธีรพรรดิ์ บัณฑิโตหิรัญโชติ ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครนายก , พ.ต.ท.กฤตพงศ์ โรจน์รุ่งศศิธร รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครนายก พ.ต.ต.ยงยุทธ หวานเหนือ สว.กก.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาบริเวณ ซอยจุฬาทิพย์ อ.เมือง จ.นครนายก จำนวน 7 ราย ดังนี้

เหตุทะเลาะวิวาทบริเวณถนนคนเดิน เทศบาลเมืองนครนายก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เมื่อเวลา 22.30 น. (10 เม.ย. 68) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณซุ้มทางเข้าถนนคนเดินเทศบาลเมืองนครนายกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ ผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายกิตติพงษ์ ปริตติพงษ์ อายุ 36 ปี ใบหน้าปูดบวมขนาดใหญ่ มีเลือดตามร่างกาย ใบหน้า และบนพื้นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอริยะฯ นครนายก จึงได้เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะนำส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.นครนายก แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งปฐมพยาบาลอยู่นั้น อยู่ๆก็มีชายคนนึงเดินแหวกเจ้าหน้าที่เข้าไปหาคนเจ็บ และได้ชี้หน้าคนเจ็บ ก่อนจะด่าโต้เถียงกันอย่างรุนแรงซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นคู่กรณีที่เป็นคนก่อเหตุทำร้ายคนเจ็บ ทั้ง คู่โต้เถียงกันโดยจับใจความไม่ได้ เนื่องจากทั้งคู่มีอาการมึนเมา ทางกู้ภัยจึงได้ไล่ให้ผู้ก่อเหตุถอยออกไปเนื่องจากอยู่ระหว่างปฐมพยาบาลคนเจ็บอยู่ แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอมถอยออก และโต้เถียงกับคนเจ็บไม่หยุด ทางคนเจ็บก็พยายามที่จะตะโกนไล่ให้ผู้ก่อเหตุถอยออกไปให้กลับบ้านไป ผู้ก่อเหตุก็ไม่ถอยออก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาดึงตัวคนก่อเหตุแยกออกไป ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคนเจ็บว่าคนที่ทำร้ายคือใครคนเจ็บบอกว่าเป็นอดีตพ่อตาผมก่อนที่จะชี้ไปทางผู้ก่อเหตุที่เพิ่งโต้เถียงกันก่อนที่จะถูกตำรวจจับแยกออกไป เมื่อถามว่าถูกทำร้ายด้วยอาวุธอะไรทำไมหน้าถึงปูดบวมขนาดนี้ คนเจ็บบอกกับผู้สื่อข่าวว่าโดนตีนล้วนๆเลยครับ ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ก่อเหตุที่ทางคนเจ็บบอกว่าเป็นอดีตพ่อตา ว่ามีเรื่องอะไรกัน ทางผู้ก่อเหตุได้ตอบเพียงสั้นๆว่า ตนเป็นพ่อตาของคนเจ็บ และยังเป็นอยู่ไม่ใช่อดีตตามที่คนเจ็บบอก พอดีว่าตนได้มานั่งกินเหล้าอยู่แถวบริเวณจุดเกิดเหตุ แล้วบังเอิญเจอลูกเขยมากับผู้หญิงคนใหม่ ตนก็ได้เรียกลูกเขยถามว่าทำแบบนี้ได้ยังไง ทางลูกเขยก็บอกว่าตนเลิกถูกลูกสาวผู้ก่อเหตุไปแล้ว