อโนทัย งานดี

พังงา-ด่วนคุณพ่อร้องตามหาลูกสาว หายออกจากบ้านพักคนพนักงานโรงแรมบนเกาะยาวใหญ่ เกรงแรงงานต่างด้าวล่อลวงไป เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุเทพ จิตมนต์ อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดตรัง มาทำงานรับจ้างอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ว่า เมื่อวันที่22 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ตนเองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ชัยยุทธ บุญใหญ่ รอง ผกก.สภ.เกาะยาว ว่ามีเหตุลูกสาวชื่อ นส.ลลิตวดี จิตมนต์ อายุ21 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับตนเองที่บ้านพักพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ในต.พรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา หายออกไปจากบ้าน ไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ซึ่งได้สงสัยว่าหายไปกับนาย Aung Ko Win ชายชาวเมียนมา ทางคุณพ่อเกรงว่าลูกสาวจะไม่ได้รับความปลอดภัยเนื่องจากลูกสาวเป็นเด็กพิเศษ อาจจะถูกล่อลวงไปในทางที่เสียหายได้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามกลับมาให้ด้วย ขณะที่เบื้องต้นนั้นคาดว่าลูกสาวได้ถูกล่อลวงขึ้นเรือไปยังจังหวัดภูเก็ตแล้ว จึงได้ขอให้ผู้สื่อข่าวช่วยลงรูปประกาศตามหาให้คนเห็นเบาะแส ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปติดตามตัวกลับมาให้ด้วย “หากใครพบเห็น หรือมีเบาะแสเกี่ยวกับลูกสาวกรุณาให้ติดต่อ” โทร 064-0277786

พังงา-รู้แล้วศพชายปริศนา เป็นคนงานบ่อเลี้ยงปลาใกล้เคียง คาดเป็นลมขณะไปหาหอยในป่าชายเลน เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 จากเหตุการณ์ที่พบศพชายปริศนาที่ท้ายบ่อกุ้งในพื้นที่บ้านบางหมัก ม.7 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ทาง ร.ต.ท.สิทธิฑัตถ์ รัฐจักร พนักงานสอบสวนเวร สภ.ตะกั่วทุ่ง พร้อมด้วยนายธีระวัตร แก้วพิทักษ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอตะกั่วทุ่ง นายแพทย์มนตรี ธนกิจ แพทย์เวรโรงพยาบาลพังงา นายเกรียงไกร ทองสม ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.กระโสม และหน่วยกู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรม ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่าเป็นชายสูงอายุ ผิวดำ ตายมาแล้วประมาณ 2 วัน มีบาดแผลที่ใบหน้าจากการถูกสัตว์เลื้อยคลานแทะกิน สภาพร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย พร้อมกันนี้ได้มีข้าราชการตำรวจบำนาญและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ใกล้เคียงได้มายืนยันว่าผู้ตายคือนายสัมพันธ์ แก้วสะอาด อายุ 72 ปี ชาวบ้านพรุใหญ่ ม.5 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เป็นคนงานบ่อเลี้ยงปลาที่อยู่ใกล้กับบ่อกุ้งที่พบศพ ซึ่งเจ้าของบ่อเลี้ยงปลาบอกว่าเพิ่งเอาเงินมาให้ 500 บาทเมื่อวันที่19 พฤษภาคมที่ผ่านมา และปกติแกเป็นคนชอบดื่มเหล้า

พังงา-ด่วน พบศพชายปริศนาน้ำพัดลอยมาติดท้ายบ่อกุ้งที่บ้านบางหมัก มีบาดแผลที่ใบหน้า 2 แผล เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 นายเกรียงไกร ทองสม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านบางหมัก ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพปริศนาถูกน้ำซัดลอยมาติดอยู่ที่ท้ายบ่อกุ้ง จึงแจ้งไปยังนายอำเภอตะกั่วทุ่ง กำนันตำบลกระโสม และสถานีตำรวจสภ.ตะกั่วทุ่ง จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.ท.สิทธิฑัตถ์​ รัฐจักร พนักงานสอบสวนเวรสภ.ตะกั่วทุ่ง นายธีระวัตร แก้วพิทักษ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พบว่าบริเวณด้านท้าบ่อกุ้งสหพลฟาร์ม มีคนงานกำลังยืนดูศพปริศนาที่ถูกน้ำพัดลอยมาติดอยู่ในลำคลองส่งน้ำของบ่อกุ้งที่เชื่อมต่อกับลำคลองถ้ำ สภาพศพเป็นเพศชายนอนคว่ำหน้าตะแคง สวมกางเกงยาวสีดำ ไม่สวมเสื้อ เมื่อเข้าไปดูศพใกล้ๆพบว่ามีบาดแผลที่ใบหน้า2จุดที่หน้าผากด้านซ้ายและบริเวณปากสภาพเริ่มขึ้นอืด เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยังแพทย์เวรโรงพยาบาลพังงา และหน่วยกู้ภัยเข้ามาชันสูตรพลิกศพ สอบถามดูแล้วเบื้องต้นยังไม่พบว่าใครรู้จัก เจ้าหน้าฝ่ายปกครองและตำรวจชุดสืบสวนสภ.ตะกั่วทุ่งได้เร่งลงพื้นที่สืบสวนตามหาคนรู้จักกับศพปริศนารายนี้ต่อไป นายวรวัตร์​ อินแก้วศรี​ ผู้จัดการบ่อกุ้ง เล่าว่า เมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ลูกน้องในบ่อกุ้งมาบอกว่าพบศพอยู่ที่ในคลองท้ายบ่อกุ้ง จึงรีบออกมาดูตอนแรกคิดว่าจะเป็นหุ่นพลาสติก แต่เข้าไปดูใกล้ๆจึงพบว่าเป็นศพผู้ชาย จึงรีบโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน จากการที่ดูศพตนเองและคนงานในบ่อกุ้งไม่รู้จัก คาดว่าตายจากที่อื่นและตอนที่น้ำทะเลหนุนพัดพาศพเข้ามา นายเกรียงไกร ทองสม เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวว่ามีคนหายในพื้นที่และใกล้เคียงหรือไม่เพราะจากการดุสภาพศพแล้วคาดว่าน้ำทะเลหนุนพัดพาขึ้นมา

พังงา-ทัพเรือภาคที่3 จับกุม 2 เรือประมงอินโดนีเซีย ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทย เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่3/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) เดินทางไปยังท่าเทียบเรือทับละมุ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อควบคุมและสั่งการด้วยตนเอง ในภารกิจการจับกุมเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซีย 2 ลำ พร้อมผู้ต้องหา 18 ราย ที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต ห่างจากชายฝั่งประมาณ 80 ไมล์ทะเล โดยก่อนหน้านี้ ชุดปฏิบัติการของเรือหลวงล่องลม ได้เข้าทำการจับกุมเรือประมงทั้งสองลำ และควบคุมกลับเข้าสู่ฝั่งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีกำหนดจะเดินทางถึงท่าเทียบเรือทับละมุในช่วงเช้ามืดของวันที่ 20 พฤษภาคม เวลา 03.00 น. แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรงและเรือประมงมีความเร็วจำกัด จึงเดินทางถึงล่าช้ากว่ากำหนด โดยมาถึงท่าเรือในเวลา 10.00 น. หลังจากเรือเข้าจอด เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนและดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยมีการตั้งชุดสหวิชาชีพเพื่อดูแลการปฏิบัติงานอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะมีการรายงานให้ทราบต่อไป