โอกาสและความท้าทาย “ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น” แฮนด์โรลในไทย
กรุงเทพฯ (29 เมษายน 2568) เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า ความนิยมของ อาหารญี่ปุ่น ในบ้านเรานั้น เติบโตไม่หยุด สะท้อนจากตัวเลขผลสำรวจจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยปี 2567 จากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ‘เจโทร กรุงเทพฯ’ ที่ระบุเอาไว้ว่า จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีทั้งหมด 5,916 ร้าน เพิ่มขึ้น 165 ร้าน มีอัตราเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และแนวโน้มการเติบโตของร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีเพิ่มขึ้นทุกปี
การนำเอา อาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่เรียกว่า “เทมากิซูชิ” มีความโดดเด่นด้วยการทำ แฮนด์โรลสดใหม่ จากหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ใช้วัตถุดิบพรีเมียมนำเข้าแทบทั้งหมด ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกรวดเร็ว เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อีกด้วย ในวันที่คนไทยยังไม่รู้จักและยังใหม่มากสำหรับในประเทศไทย ถือว่าเป็นความท้าทายมาก เพราะต้อง Educate ลูกค้าเกี่ยวกับแฮนด์โรลด้วย รวมถึงมองเห็น เทรนด์การกินอาหารญี่ปุ่นในไทย ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การวางจุดยืนเป็น ‘First Mover’ ในตลาด มีการทดลอง R&D และมี การพัฒนาสูตรข้าวปั้น รวมถึงกรรมวิธีการทำเรื่อยมา ด้วยความเชื่อมั่นที่ว่าอยากทำสิ่งใหม่ที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน วิธีคิดและการทำงานจึงไม่ได้ใช้เพียงตำราเดิม แต่ยังล้อไปกับโลกปัจจุบันเพื่อให้ได้วิธีคิดที่สดใหม่มากขึ้น
สำหรับ ตลาดอาหารญี่ปุ่นในไทย ขณะนี้ผู้ประกอบการต้องเจอกับการแข่งขันเรื่องราคาอย่างดุเดือด คนไทยมองเรื่องความคุ้มค่า หรือ ‘Reasonable Price’ มากขึ้น ทั้งยังต้องมาพร้อมกับความง่าย ไม่มีขั้นตอนมากมาย ด้วยรสชาติ วัตถุดิบพรีเมียม และมีความสะดวกรวดเร็วของแฮนด์โรล ซึ่งจะ เติบโตสอดคล้องไปกับ เทรนด์การกินของคนไทย อย่างแน่นอน
เสน่ห์ในบรรยากาศของร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย ที่มีกลิ่นอายกึ่ง ๆ โอมากาเสะ ที่มาในราคาจับต้องได้ สามารถมาทานเป็นครอบครัว ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ มีบริการส่งตรงถึงบ้านแบบเดลิเวอรี่โดยที่ยังคงความสดสะอาดจากวัตถุดิบพรีเมียม รวมถึงสาหร่ายที่ยังคงความกรอบไม่ต่างจากการนั่งรับประทานที่ร้าน ถือได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประสบกความสำเร็จในไทย
หากจะกล่าวถึงด้านกลยุทธ์ที่ทำให้ประสบความสำเร็จของแฮนด์โรลเจ้าแรกในไทย ก็เพราะเขารู้ว่า ลูกค้าต้องการอะไร และไม่ได้มองที่ตัวเลขเรื่องกำไรมาเป็นอันดับต้น ๆ แต่ให้ความสำคัญกับ ความคุ้มค่าที่ลูกค้าได้รับกลับไป เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เกิดการกลับมากินซ้ำ อย่างเช่นธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในไทยของร้าน KANORI Hand roll bar ดำเนินงานภายใต้บริษัท ไทยสากล เอสเตท จำกัด นอกจากร้านแฮนด์โรลแล้ว ยังมีธุรกิจอีกสามส่วน ได้แก่ Kay’s นำเสนอเรื่องอาหารเช้าสไตล์บรันช์ Day by Kay’s นำเสนอด้านเครื่องดื่มและเบเกอรี่ และโรงแรม K Maison โดดเด่นด้านการผสมผสานเอกลักษณ์ของท้องถิ่นเข้ากับความโมเดิร์นได้ลงตัว สำหรับผู้ที่สนใจติดตามได้ที่ Website: www.kanorihandroll.com, Facebook: Kanori ,IG: kanorihandroll