สร้างสถานีรถไฟฟ้าอยุธยาปัญหาสะเทือนมรดกโลก

พระนครศรีอยุธยา-ผู้เชี่ยวชาญจากยูเนสโก หวั่นสถานีรถไฟฟ้า ความเจริญ กระทบความเป็นมรดกโลก แนะนำ 2 แนวทาง ก่อนสร้างสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงช่วงสถานีอยุธยา
\"\"
\"\"

วันที่ 22 มกราคม  เวลา 09.00 น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจ นายประพันธ์  ตรีบุบผา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ร่วมการประชุมสรุปผลการลงติดตามพื้นที่โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงช่วงสถานีอยุธยาและรับฟังข้อเสนอแนะคณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก   นำโดย  Mr. Michael Pearson และ  Mr. Gamini Wijesuriya     โดยมีนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร คณะกรมศิลปากร  ผอ.ททท.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัวแทนบริษัทก่อสร้าง\"\"

โดยในที่ประชุมมีการสรุปผลการลงพื้นที่พร้อมวางแนวทางปรับปรุงการทำงานตามคำแนะนำและข้อห่วงใยของคณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก 2 ประเด็นหลัก  ได้แก่ 1.ประเด็นความสูงของตัวสถานี โดยคณะทำงานจะดำเนินการปรับปรุงแบบของสถานีให้ต่ำที่สุด  2.การบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบ  โดยทางคณะทำงานจะดำเนินการจัดทำแผนการปรับปรุงพื้นที่และส่งให้ศูนย์จัดการมรดกโลกพิจารณา\"\"

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจ เปิดเผยว่า  คณะทำงานจะปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก โดยในการประชุมสรุปข้อมูลในครั้งนี้ได้เชิญภาคเอกชนมาร่วมกันแนะนำแนวทางและความจำเป็นที่ต้องสร้างสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ณ  สถานีอยุธยา ซึ่งจะทำให้เกิดความเจริญในด้านการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงระหว่างประเทศ   รองรับความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ การส่งออก แต่จะดำเนินการไม่ให้เกิดผลกระทบกับความเป็นมรดกโลก\"\"

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ 1,810 ไร่ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตามพระราชกิจจานุเบกษา เรื่อง กำหนดที่ดินโบราณสถาน ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2519 พื้นที่ 3,000 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 15  ณ กรุงคาร์เธจ ประเทศตูนีเซีย เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พ.ศ. 2534 นับเป็นมรดกโลกตามบัญชีในลำดับที่ 576  ด้วยหลักเกณฑ์ของ คุณค่าความเป็นสากลที่โดดเด่น (outstanding universal value) หรือ OUV ในทางประวัติศาสตร์ 4 ประการ ได้แก่ 1) ความโดดเด่นในการวางผังเมือง 2) ความก้าวหน้าในการบริหารจัดการน้ำ 3) สถาปัตยกรรมวิจิตรศิลป์อันเป็นเอกลักษณ์ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา  4) การเป็นศูนย์กลางด้านการค้า และการทูตของอาณาจักรอยุธยา\"\"\"\"

1.) รายงานสรุปผล HIA โดยสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) มีลักษณะการพิจารณา ข้อเสนอแนวทางที่จะลดผลกระทบ โดยมุ่งเน้นไปทางด้านผลกระทบทางกายภาพ และสิ่งแวดล้อมในระหว่างการก่อสร้างและข้อเสนอทางวิศวกรรม แต่ขาดการพิจารณาถึง คุณค่าความเป็นสากลที่โดดเด่น (outstanding universal value) หรือ OUV ในทางประวัติศาสตร์ ที่ทำให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก\"\"

2) ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรม (SEAMEO SPAFA) มีความเห็นว่า ข้อสรุปในรายงาน HIA มีสาระสำคัญว่า ไม่กระทบต่อความเป็นมรดกโลกนั้น ยังขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่สามารถประเมินสิ่งที่อยู่ภายใต้ผิวดินได้  3) ผู้แทนกรมการขนส่งทางราง แจ้งว่า หากเปลี่ยนแปลงทิศทาง จะส่งผลให้ต้องเพิ่มงบประมาณ การก่อสร้าง กว่า 30,000 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาจากรูปแบบตามหลักวิศกรรมในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ ประกอบกับการก่อสร้างในเส้นทางเดิมที่อยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ต้องเวนคืนพื้นที่ก่อสร้าง จึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงเส้นทางก่อสร้างไปยังแนวอื่นๆ ได้\"\" \"\"