
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ กลุ่มชาวนานำโดยนายฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย นายสะอาด สุขสุแดน ตัวแทนเกษตรกรเสนา บางไทร ลาดบัวหลวงและข้างเคียงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่นครปฐม สุพรรณบุรี ปทุมธานี จำนวนกว่า 200 คนเดินทางมาตั้งเต็นท์ ติดตั้งรถเครื่องเสียง นำรถเทรลเลอร์เป็นเวทีปราศรัย พร้อมติดตั้งป้าย ปราศรัย เพื่อเรียกร้องความเดือดร้อนเรื่องราคาข้าวตกต่ำ เงินชดเชยที่เสียโอกาสในช่วงที่เป็นทุ่งรับน้ำ และค่าชดเชยหากไม่ให้มีการเผานา โดยมีกลุ่มชาวนาทยอยเดินทางมาร่วมการชุมนุม และปิดถนนสายเอเชีย ซึ่งเป็นการติดตามทวงถาม หลังยื่นหนังสือข้อเรียกร้องของชาวนาเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ราชการจังหวัดและได้ไปยื่นข้อเรียกร้องที่รัฐสภา และกระทรวงพาณิชย์ เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ทำนาโดยกำหนดราคาประกันข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน และกำหนดปริมาณรับประกันราคาไม่เกิน 50 ตันต่อรายหรือดำเนินโครงการรับจำนำ ข้าวในราคารับจำนำข้าว 11,000 บาทต่อตัน สำหรับเกษตรกรรายละ 50 ตัน เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของชาวนา
กระทั่งเวลา 14.00 น.นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.นฤนาถ พุทไธสง ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา เข้ามาเจรจากับพี่น้องชาวนา โดยนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร กล่าวว่า ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวแล้ว และให้ทางพาณิชยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตกลงกับพี่น้องประชาชน เปิดจุดรับซื้อข้าวจากชาวนา ให้เร็วขึ้น จากเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 17 มีนาคม เพื่อให้สอดคล้องกับการเก็บเกี่ยวข้องของเกษตรกร และจะนำข้อมูลการเปิดจุดรับซื้อข้าวจากนาเสนอต่อกระทรวงพาณิชย์ต่อไป ส่วนเรื่องประชุมเพื่อพิจารณาการชดเชยต่าง ๆ จะเร่งรัดและติดตามให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ และจะชี้แจงกับตัวแทนชาวนา และเพิ่มข้อเสนอเพิ่มการชดเชยเงินราคาข้าวให้กับชาวนาที่ขายข้าวไปก่อนการเปิดจุดรับซื้อ รวมถึงประสานกับกรมชลประทานในการปล่อยน้ำให้กับพี่น้องชาวนา ให้ส่งน้ำเร็วขึ้นโดยเริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถึงต้นเดือนมีนาคม แทนการส่งน้ำในเดือนเมษายน ซึ่งหลังจาก นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ได้พูดคุยและชี้แจงกับพี่น้องชาวนาแล้ว ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และพี่น้องชาวนาได้แยกย้ายยกเลิกการปิดถนน
ต่อมาที่ห้องประชุมบึงพระราม ศูนย์ราชการจังหวัดฯ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประชุมหารือร่วมกับแกนนำผู้ชุมนุมชาวนา (นายพยงค์ แสงทอง) กลุ่มชาวนาและผู้แทน รวมทั้งนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด ชลประทานจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ป้องกันจังหวัด กำนัน ซึ่งที่ประชุมได้พูดถึงปัญหา แนวทาง และการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยประเด็นที่ชาวนาเรียกร้องเจรจาพูดคุยคือเรื่องราคาข้าวตกต่ำ และเรื่องการเยียวยาเกษตรกร หลังจากประชุมร่วมกันเสร็จ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ออกไปชี้แจงหน้าเวทีผู้ชุมนุมชาวนาที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ว่า เรื่องที่พูดคุยในที่ประชุมประเด็นหลักคือเรื่องผลผลิตราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งทางจังหวัดได้ส่งหนังสือตามข้อเสนอของเกษตรกรไปยังกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา เรื่องที่ 2 การชดเชยที่ดินที่เป็นพื้นที่รับน้ำ เรื่องที่ 3 เรื่องของการเผาในที่โล่ง
นายนิวัฒน์กล่าวว่า วันนี้ทางจังหวัดได้เพิ่มข้อเรียกร้อง กรณีมีผู้ขายข้าวไปก่อนหน้านี้โดยเสนอให้รัฐบาลชดเชยให้มีผลย้อนหลัง การกำหนดการรับซื้อราคาข้าว ซึ่งทั้งหมดจะต้องผ่านคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) และต้องผ่านคณะรัฐมนตรี และวันนี้เป็นเรื่องที่ดีที่เลขาฯทั้งสองคณะคือคณะอนุกรรมการตลาด(กระทรวงพาณิชย์)และคณะอนุกรรมการการผลิต(กระทรวงเกษตรฯ)ได้รับรู้รับทราบแล้ว เมื่อสักครู่นี้ทางคณะอนุด้านการตลาด ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีบัญชาลงมาแล้วว่าให้ประชุมคณะอนุกรรมการตลาดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ก.พ นี้ ส่วนของกระทรวงเกษตรฯจะมีการนัดหมายในเวลาที่จะตามมา สิ่งที่ต้องขอเพิ่มเติมเนื่องจากว่าช่วงระยะเวลานี้ก่อนที่จะออกมาตราการที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องของราคาข้าวก็ดี ราคาปุ๋ยก็ดี ในเรื่องของการชดเชยในเรื่องของการบรรเทาความเดือดร้อนต่างๆ กว่าจะได้รับการช่วยเหลือต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ฉะนั้นสิ่งที่ขอเพิ่มที่ได้กล่าวมาแล้วก็คือการขอย้อนหลังก่อนหน้านี้ที่เกษตรกรได้ขายข้าวไปแล้ว ปี67/68 ทั้งหมด ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น จุดรับซื้อจะมีการเปิดจุดรับซื้อข้าวทุกอำเภอ แต่จะเป็นเวลาไหนจะมีการหารือกับพี่น้องเกษตรกรว่าห้วงระยะเวลาไหนจะเป็นเวลาที่เหมาะสมกับตอนที่เก็บเกี่ยวผลผลิต และให้เกษตรกรแจ้งมายังจังหวัดเพื่อที่จะกำหนดจุดรับซื้อต่อไป
นายนิวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า เกษตรกรมาจากหลายจังหวัด (พิษณุโลก อ่างทอง สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี) ดังนั้นความต้องการของเกษตรกรทั้งหมดจะรวบรวมให้เหลือเป็นฉบับเดียว เพื่อเสนอไปยังกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ และอีกฉบับแจ้งไปยังรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง นอกจากนั้นจะแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้องที่มีผู้มาชุมนุมให้รับรู้ รับทราบไปพร้อมกัน ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. 68 จะเร่งติดตามเพื่อให้ทราบว่าจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการฯในวันไหนต่อไป ซึ่งแกนนำและเกษตรกรพอใจ พากันเดินทางกลับ