ชลประทานร้อยเอ็ดแจง โครงการระบบส่งน้ำงบกว่า 36 ล้านบาท สร้างเสร็จใช้งานไม่ได้\”
สืบเนื่องจากกรณีที่ประชาชนในพื้นที่บ้านสว่าง หมู่ 12 ตำบลสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ร้องเรียนผ่าน ดร.ฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ว่า คลองชลประทานที่ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2565 กลับไม่สามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ ก่อนที่จะนำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบข่วงสัปดาห์ที่ผ่าน

นายออน วิศาลอาขีวะเจริญ กล่าวว่า
โครงการชลประทานร้อยเอ็ด ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงและผลการดำเนินการแก้ไขบัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ใช้น้ำจากโครงการดังกล่าว ดังนี้
ในปี พ.ศ. 2559 นางลำไย พละวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ตำบลสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัด
ร้อยเอ็ด ได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐนตรี เสนอโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าลำน้ำยัง จังหวัดร้อยเอ็ด
เนื่องจากราษฎรบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาไม่มีน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร และไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลำน้ำยังได้ เพราะไม่มีเครื่องสูบน้ำและคลองส่งน้ำ ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้มีบีบันทึกสังการให้อธิบดีกรมชลประทาน พิจารณาดำเนินการโครงการดังกล่าว แลกรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานร้อยเอ็ด สำนักงานชลประทานที่ 6ได้ดำเนินการพิจารณาโครงการ สำรวจ ออกแบบ เสนอแผนงาน/โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อม
ระบบส่งน้ำบ้านสว่าง ตำบลสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างในปึงบประมาณ 2565 วงเงินค่าก่อสร้าง 35 ล้านบาท และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565
รายละเอียดโครงการประกอบด้วย
– ติดตั้งครื่องสูบน้ำหอยโข่ง อัตราสูบน้ำ 0.30 ลบ.ม../วินาที จำนวน 1 เครื่อง ระยะยะยะยะยก
ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
– ก่อสร้างท่อส่งน้ำรับแรงดันท่อเหล็ก สาย MP ความยาวรวม 2,400 เมตร
– ก่อสร้างคลองส่งน้ำดาดคอนกรีต สาย MC.1 ความยาวรวม 2,765 เมตร
– พื้นที่ส่งน้ำรวม 1,310 ไร่
โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านสว่าง ตำบลสว่าง อำเภอโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 เป็นโครงการที่ต้องถ่ายโอนภารกิจหลังการดำเนินการ
ก่อสร้างแล้วเสร็จ ตาม พรบ.การกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปี 2542 ให้แก่ อบต.สว่าง ทั้งทรัพย์สินและอำนาจการบริหารจัดการน้ำ งานจัดเก็บค่ากระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า โครงการชลประทานร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการทดลองสูบน้ำ เมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 โดยประสานงานกับ อบต.สว่าง และกลุ่มเกษตรกรผู้รับประโยชน์จากโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านสว่าง ร่วมกันติดตามการส่งน้ำตั้งแต่ต้นคลองส่งน้ำจนถึงปลายคลองส่งน้ำ ซึ่งสามารถส่งน้ำได้จนถึงปลายคลองส่งน้ำตามที่กำหนดไว้ จากการติดตามมีพื้นที่ส่งน้ำช่วงปลายคลองส่งน้ำ ระยะทางประมาณ 400 เมตร ลักษณะที่ดินของเกษตรกรมีระดับสูงกว่าคลองส่งน้ำ การนำน้ำไปใช้จำเป็นต้องปรับเกลี่ยระดับดินพื้นที่การเกษตรบางส่วนขุดร่องชักน้ำ หรือวางท่อลอดส่งน้ำเข้าสู่พื้นที่การเกษตรของตนเอง การดำเนินการถ่ายโอนภารกิจ ตาม พรบ.
กระจายอำนาจ ไม่สามารถถ่ายโอนได้ เนื่องจากทาง อบต.สว่าง แจ้งว่าจากการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสว่าง ที่ประชุมประสงค์ขอให้ผู้ใหญ่บ้านสว่างรับรองและยืนยันความเรียบร้อยของงานก่อน เพราะมีพื้นที่ปลายน้ำไม่สามารถรับน้ำได้ เนื่องจากสภาพพื้นที่การเกษตรบางส่วนของกลุ่มเกษตรกรอยู่สูงกว่าคลองส่งน้ำและขอให้โครงการชลประทานร้อยเอ็ดสูบน้ำให้พื้นที่การเกษตรเป็นระยะเวลา 1 ปี ก่อน หากไม่มีปัญหาจึงจะพิจารณารับมอบถ่ายโอน ต่อไป
ปัจจุบันการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โครงการชลประทานร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่เข้า
ตรวจสอบแพและเครื่องสูบน้ำ, อาคารบ้านพัก ตลอดจนการขุดลอกตะกอนดินในคลองส่งน้ำ และทำความสะอาดตัวอาคารชลประทานทุกแห่ง ดำเนินการทดสอบการสูบน้ำอีกครั้ง โดยเชิญกลุ่มเกษตรผู้รับน้ำเข้าร่วมสังเกตการณ์และติดตามการส่งน้ำตลอดสาย รวมทั้งกลุ่มเกษตรกรที่มีพื้นที่การเกษตรสูงกว่าคลองส่งน้ำ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 พบว่าคลองส่งน้ำสามารถส่งน้ำได้ตลอดสายจนถึงปลายคลอง แต่พบบางช่วงช่วงของคลองส่งน้ำมีจุดชำรุดและคลองดาดคอนกรีตแตกร้าว เนื่องจากไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ประกอบกับช่วงปลายคลองประมาณ 400 เมตร พื้นที่นามีระดับสูงกว่าท่อรับน้ำ อาจจำเป็นต้องแก้โขโดยปรับระดับดินพื้นที่และขุดร่องชักน้ำ หรือยกระดับท่อส่งน้ำให้สูงเหนือระดับที่นาหรือฝังท่อส่งน้ำใต้ดินเข้าพื้นที่ โดยโครงการ
ชลประทานร้อยเอ็ดได้หารือกับกลุ่มเกษตรกรและผู้นำชุมชนแล้ว จะดำเนินการแก้ไขหลังจากการทดสอบสูบสูบน้ำอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบระดับน้ำในคลองส่งน้ำ ในการวางแผนการแก้ไขเพื่อให้เกิดความพึงพอใจต่อการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ โครงการชลประทานร้อยเอ็ดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เช้าดำเนินการซ่อมแซมจุดที่ชำรุดดังกล่าวแล้ว เมื่อดำเนินการเสร็จจะประชาสัมพันธ์ให้ท้องถิ่นทราบในการทดสอบการสูบน้ำอีก
อนึ่ง เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำของโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบบส่งน้ำบ้านสว่าง ตำบลสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นไปตาม พรบ.การกระจายอำนาจ มีความต่อเนื่องและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องเกษตรกร โครงการชลประทานร้อยเอ็ดจะได้เร่งประสานการถ่ายโอนภารกิจดังกล่าวให้ อบต.สว่าง และจะเร่งดำเนินการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำควบคู่กัน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการน้ำอย่าง
เป็นรูปธรรมต่อไป
ขณะที่นายสมศักดิ์ อุปัชฌาย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านสว่าง เปิดเผยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาชาวบ้านเกิดความสงสัยว่าเหตุใดคลองที่สร้างเสร็จแล้วจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ พร้อมย้ำว่าการขาดการสื่อสารระหว่างหน่วยงานรัฐ ท้องถิ่น และชาวบ้านในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปัญหายืดเยื้อ
\”วันนี้ดีใจที่ชลประทานลงพื้นที่ทำความสะอาด ทดสอบระบบ และหาทางแก้ไข พร้อมรับฟังความเห็นชาวบ้าน คาดว่าหลังจากมีการปรับปรุงยกระดับไหล่คลอง และเสริมคลองให้มั่นคงขึ้นแล้ว น้ำจะสามารถไหลเข้าสู่ที่นาได้ ชาวบ้านจะได้ใช้น้ำเพื่อการเพาะปลูกได้อย่างเต็มที่\” นายสมศักดิ์กล่าว