ผู้ว่าร้อยเอ็ดนำทีมตรวจสอบพื้นที่หลังโซเซียลโพสต์แท็กถึง มท.1 ไฟไหม้ทุ่งหวั่นฝุ่น pm 2.5 กระจาย

ผู้ว่าร้อยเอ็ดนำทีมตรวจสอบพื้นที่หลังโซเซียลโพสค์แท็กถึง มท.1 ไฟไหม้ทุ่งหวั่นฝุ่น pm 2.5 กระจาย

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tae Noppakhan ได้โพสต์สภาพพร้อมกับข้อความว่า “ท่านพี่หนูช่วยด้วย ตำบลเกษตรวิสัย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด เขตทุ่งกุลาร่องให้ อยู่ไม่ได้แล้ว ช่วยบอกท่านผู้ว่าให้หนูที่นะคะ  pm 2.5 เยอะมาก พิกัดการเผาไหม้ ถนนอำเภอเกษตรวิสัย-อำเภอสุวรรณภูมิ #ท่านผู้ว่าต้องลงมานานำกัน #เกษตรวิสัยไม่เอาฝุ่น” หลังจากมีการเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ถึงความเป็นห่วงในสถานการณ์การเผาไร่นาและพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นอย่างมาก

รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่อำเภอเกษตรวิสัย เพื่อ ประชุม ร่วมกับนายอำเภอหัวหน้าส่วนราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อทราบข้อมูลและหาแนวทางป้องกันแก้ไข เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จากการตรวจสอบจุดฮอตสปอร์ตโดยอ้างอิงการตรวจสภาพอากาศ พบจุดฮอตสปอร์ 17 จุด ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบหาผู้ครอบครองที่ดินเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนมาตรการของทางรัฐบาลที่เน้นย้ำมานั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า
เนื่องจากนโยบายรัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการทั่วประเทศให้กำชับกำกับดูแลไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น pm 2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐานซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดที่ผ่านมามีค่า pm  2.5  สูงกว่ามาตรฐานสองวัน เนื่องจากมีอากาศปิดอากาศระบายไม่ดี จำนวนฮอตสปอตหรือจุดเผาไหม้ได้มากกว่าค่าปกติมานานกว่าสองวันตน จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบพื้นที่เพื่อมาดูวิธีการปฏิบัติของนายอำเภอเกษตรวิสัย หลังจากนี้จะเดินทางไปยังอำเภอสุวรรณภูมิ ซึ่งพบจุดฮอตสปอตความร้อนเกินกว่าค่ามาตรฐานซึ่งตนก็ได้แจ้งอำนาจหน้าที่ทางกฎหมายหากเกิดเหตุการณ์เผาในพื้นที่โล่ง หรือเผาในพื้นที่ป่าทางกฎหมายจะต้องดำเนินการอย่างไร จึงมีข้อตกลงในเบื้องต้นแล้ว

สำหรับวันนี้ เมื่อนายอำเภอได้ข้อมูลจากดาวเทียมท่านนายอำเภอก็จะลงพื้นที่เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ไปยังพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และวันนี้เราได้รับทราบจากราษฎรผู้พลเมืองดีซึ่งได้แจ้งจุดที่เกิดไฟป่าเมื่อได้แจ้งแล้วองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้นำรถดับเพลิงมาระงับเหตุได้ทันก็อยากขอบคุณไปยัง ผู้ที่แจ้งเข้ามา และวันนี้เราได้พบกับผู้ที่โพสต์ ผ่านโซเชียล ซึ่งเดินมาร่วมตรวจสอบ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวขอบคุณและขอความร่วมมือช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ และขอความร่วมมือโพสต์ฝากเตือนพี่น้องประชาชนผ่าน Social ต่อไปด้วย ก่อนที่ผู้ว่าจะมอบเสื้อให้เแทนการขอบคุณด้วย

พร้อมกันนี้อยากขอความร่วมมือกับประชาชนไม่เผาในห้วงเวลานี้ซึ่งในระบบอากาศไม่ถ่ายเทหรือเมื่ออากาศถ่ายเทแล้วหากจากมีการเผาต้องขออนุญาตอย่างถูกต้องถึงจะเผาได้และการเผาที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย หรือถ้าเป็นเกษตรกร เป็นชาวนา ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้เผาเอง อาจถูกตัดสิทธิ์การช่วยเหลือ การชดเชยจากทางรัฐบาลให้แก่เกษตรกรรายนั้นด้วย