เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูที่ฝักคูนหรือฝักราชพฤกษ์ร่วงหล่นตามธรรมชาติ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ชาวบ้านส่วนใหญ่มองข้ามไม่เห็นค่า แต่สำหรับ นางจันทรา โนวิรัมย์ อายุ 62 ปี เกษตรกรจาก ต.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กลับเห็นโอกาสจากสิ่งที่หลายคนมองข้าม โดยใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมตระเวนเก็บฝักคูนที่ร่วงหล่นจากต้นตามสถานที่ราชการ ข้างทาง และบ้านเรือนทั่วไป โดยที่เจ้าของพื้นที่ไม่หวงห้าม
นางจันทราเผยว่า เก็บฝักคูนเพียงสัปดาห์ละ 2 วัน (เฉพาะเสาร์-อาทิตย์) สามารถนำไปขายสร้างรายได้เฉลี่ย 3,500-4,000 บาทต่อสัปดาห์ รวมแล้วตลอด 2 เดือนมีรายได้กว่า 40,000 บาท โดยมีต้นทุนเพียงแค่น้ำมันรถที่ใช้ในการเดินทางเก็บเท่านั้น
ฝักคูนสดขายได้กิโลกรัมละ 3 บาท หากแกะเปลือกจะได้ราคาสูงถึง 55 บาทต่อกิโลกรัม โดยตลาดรับซื้อหลักอยู่ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ เพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำหมัก ยาระบาย และส่งออกไปประเทศจีน ซึ่งขณะนี้ตลาดยังคงรับซื้อไม่อั้น
ต้นคูนหรือราชพฤกษ์ ไม่เพียงแต่มีดอกไม้สวยงาม แต่ยังเป็นพืชสมุนไพรสารพัดประโยชน์ โดยเฉพาะฝักแก่ที่ใช้เป็นยาระบาย กำจัดแมลง หรือแม้กระทั่งเชื้อเพลิงในครัวเรือน ขณะที่ใบและดอกก็มีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง ถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าในทุกส่วน
นางจันทราทิ้งท้ายว่า โอกาสมีอยู่รอบตัว ขึ้นอยู่กับว่าใครจะขยันลงมือ และมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่คนอื่นมองข้ามหรือไม่.