สตูลจับแล้วคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนตรวจพบฉี่สีม่วงขณะก่อเหตุเกิดจากหลอนยา

สตูลจับแล้วคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนตรวจพบฉี่สีม่วงขณะก่อเหตุเกิดจากหลอนยา

กรณีเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงที่ร.รนิคมพัฒนาผัง 42 ต.อุไดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล เมื่อช่วงดึกของวันที่ 22 มี.ค 68 จำนวน 6 จุด ได้รับความเสียหาย

หลังเกิดเหตุทางครูได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเดินเข้ามาในโรงเรียนและเดินไปหลังโรงเรียน ในช่วงเวลา  23.10 น. และเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมนายนายธนิตย์ หนูทองแก้ว อายุ 38 ปีได้ที่บ้านเลขที่ 35 ม.8 ต.อุไดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล ขณะที่กำลังนอนหลับและให้การไม่รู้เรื่องวนไปมา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปขังเพื่อให้สงบและจะนำตัวมาสอบปากคำอีกครั้งพร้อมตรวจปัสสาวะพบฉี่สีม่วง

โดยทางนายคณิต คงช่วย รองผวจ.สตูล ได้ลงไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุเพื่อให้กำลังใจครูและกรรมการสถานศึกษา และได้กล่าวว่าได้เข้ามาให้กำลังใจแก่ครูและกรรมการสถานศึกษาโดยเน้นย้ำให้สอดส่องดูแลเฝ้าระวังบุคคลที่เข้ามาในโรงเรียน ซึ่งครั้งนี้ต้องชื่นชมผู้ปกครองที่ช่วยกันดูแลเห็นเพลิงไหม้ก็รีบแจ้งจนสามารถดับได้ทันทั้ง 6 จุด รวมทั้งครูและ นร.หากพบเหตุปกติต้องช่วยกันมาแจ้งครูและมีการซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยแก่เด็กหากคนร้ายคลุ้มคลั่งเข้ามาใน ร.ร และไม่ใช่เฉพาะโรงเรียนที่เกิดเหตุโรงเรียนอื่น ๆ ก็ต้องมีการเฝ้าระวังเช่นกัน ขณะนี้โรงเรียนยังไม่ปิดเทอมและจะมีปิดเทอมในสัปดาห์หน้า

นายสมหมาย ทองช่วย กำนัน ต.อุไดเจริญกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุบ้านอยู่ห่างร.รประมาณ 300 เมตร และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ก่อเหตุเผา ร.ร ซึ่งครั้งแรกไม่มีหลักฐาน และมีการมาทำลายข้าวของในโรงเรียน แต่ครั้งนี้มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่เอาผิดได้ซึ่งผู้ก่อเหตุมักมีอาการหลอนจากยาเสพติดที่ติดมานานแล้ว บางครั้งถือมีดพร้ามาเดินใน ร.ร เด็ก นร. 60 กว่าคนต้องหนีเข้า ร.ร

ด้านนายทิน หนูทองแก้ว ปู่ของผู้ก่อเหตุเล่าให้ฟังว่า ผู้ก่อเหตุพักอยู่กับตน เวลามีอาการหลอนมักจะเก็บหินมาบูชา บอกว่าเป็นเหล็กไหล นำตีนไก่เทียนมาบูชา พูดคนเดียวทั้งคืน ตนรู้สึกกลัวเวลาเขามีอาการตนไม่กล้าหลับกลัวถูกทำร้ายเพราะเขามีมีด 3 เล่มเป็นอาวุธหากวันไหนคลุ้มคลั่งขึ้นมาตนก็อันตราย แต่ด้วยความเป็นหลานก็ไม่รู้จะเอาไปไหน โดยผู้ก่อเหตุเคยถูกจับมาแล้ว1ครั้งคดียาเสพติด แต่ก็ไม่เคยเข้าบำบัดหรือรักษา แม้นกระทั่งคลุ้มคลั่งก็ไม่เคยกินยาหรือรักษาที่ไหน คนที่บ้านก็หวาดกลัวและไม่ให้เข้าบ้าน เขาจะอยู่นอกบ้านนอนนอกบ้าน