สตูลลุงเสพยาหลอนคลั่งโยนหลานวัย2ขวบลงบนพื้นในบ้านดับ

 

\"\"

 

เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 3 มี.ค. 68 มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร ได้นำร่างของด.ช.จิรายุ เบ็ญหมีน วัย 2 ขวบเศษ ซึ่งถูกลุง(พี่ของพ่อเลี้ยง) จับโยนกระแทกพื้นในบ้าน เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน จากนั้นได้นำรักษาตัวที่รพ.ท่าแพและส่งตัวไปยังรพ.สตูล กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยส่งที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.สาคร อ.ท่าแพ จ.สตูล ซึ่งอยู่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกว่า 100 คนที่มาคอยรับศพด้วยความเศร้าสลด

\"\"

                สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจาก นายอับดุลอาซีร ยาวาหาบ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นลุง(พี่ชายของพ่อเลี้ยง ) โดยบ้านของด.ช.จิรายุ อยู่ใกล้กับบ้านของผู้ก่อเหตุและมักจะไปเล่นด้วยกันเป็นประจำ แต่ในช่วงเช้าของวันนี้ผู้ก่อเหตุเกิดอาการประสาทหลอนจากการเสพยา จึงโยนเด็กชายวัย 2 ขวบหล่นกระแทกพื้นในบ้านจนสลบ จนญาตินำส่งรพ.ท่าแพและไปแจ้งความที่สภ.ท่าแพ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายอับดุลอาซีร ผู้ก่อเหตุได้ทันที ซึ่งอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ

\"\"

นางรอมบี ใจดี อายุ 66 ปี แม่ของนายอับดุลอาซีร ผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่าผู้ตายเป็นหลานเลี้ยง ไม่ใช่หลานเอง แต่ก็มีความผูกพันกัน สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นก่อนหน้านี้เคยทุบบ้าน ทุบกระจก เคยนำไปบำบัดหลายครั้งแล้ว เคยทำร้ายตน และทำร้ายพ่อตอนสมัยยังมีชีวิตอยู่ เกิดอาการประสาทหลอนก็คลุ้มคลั่ง วันไหนที่อาการปกติก็จะดีซื้อขนมมาฝากแม่ ร้องเพลงอารมณ์ดี ซึ่งการเกิดเหตุวันนี้ตนไม่แน่ใจว่าหลอนจากการเสพหรือหลอนจากการไม่ได้กิน เพราะเขาติดยามาก เคยเตือนเขาแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล สำหรับหลานเลี้ยงคนนี้ถ้าหากตนอยู่บ้านตนจะไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว แต่ตอนเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้านไปเฝ้าแม่ที่รพ.หลายวันแล้ว

\"\"

ด้านนายอิบราเหม ยาวาหาบ อายุ 45 ปี  ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุและเป็นพี่ชายของผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตนนอนอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งมีตนกับน้องชายอาศัยอยู่ ขณะเกิดเหตุประมาณ 08.00 น.ของวันนี้ขณะกำลังหลับอยู่ได้ยินเสียงดังตุบหน้าบ้าน 2 ครั้ง เสียงดังผิดปกติ จึงได้ออกมาดูพบว่าหลานชายวัย 2 ขวบนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ขณะที่น้องชายก็ยืนใกล้ๆ บ่นพึมพำอยู่คนเดียว ฟังไม่รู้เรื่อง ตนจึงอุ้มร่างของหลานไปให้แม่เด็ก ซึ่งอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งใกล้ๆกัน สำหรับน้องชายเสพยาเสพติดงอมแงมและมีอาการประสาทหลอนมาพักหนึ่งแล้ว เคยบำบัดแต่ก็ยังเหมือนเดิม รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ ด้านนางสาว ฟาตีมะ เบ็ญหมีน อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้ตายเล่าให้ฟังว่าตนนั้นเลิกกับสามี และได้สามีใหม่คือนายอนุ ยาวาหาบ ซึ่งเป็นน้องชายของผู้ก่อเหตุ โดยตนมีลูกติดกับสามีเก่ามา 2 คน คือด.ช.วัย 2 ขวบ 7 เดือน และน้องสาววัยขวบเศษ และเพิ่งจะย้ายมาอยู่บ้านสามีได้เพียง 4 เดือน ขณะเกิดเหตุตนล้างจานอยู่หลังบ้าน และไม่เห็นว่าลูกเดินไปบ้านที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ติดกัน สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นตนก็ทราบว่ามีสภาพหลอนยา แต่ไม่คิดว่าจะคลุ้มคลั่งถึงกับก่อเหตุฆ่าหลานได้ขนาดนี้ เพราะตอนปกติเขาจะเป็นคนรักเด็ก มักจะพาขี่รถเที่ยว ตอนเช้าก็จะซื้อขนมให้กินทุกวัน อาจเป็นไปได้ว่าเด็กเคยกินขนมทุกเช้าเลยเดินไปที่บ้านหลังนั้น ตอนนี้ตนก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะลูกชายกำลังน่ารัก ขี้อ้อนทั้งญาติพี่น้องฝ่ายสามีก็รักลูกของตนทั้งนั้นเพราะเป็นเด็กน่ารัก อย่างไรก็ตามหลังศพถึงบ้านทางญาติก็เตรียมทำพิธีเพื่อจะฝังศพในเวลา 21.30 น.ของคืนนี้ ขณะที่ทางชาวบ้านต่างวิจารณ์เหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นว่าสงสารเด็กและแม่เด็ก และอยากให้ดำเนินคดีผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ซึ่งญาติบางคนบอกว่าหลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุยังคงยืนพึมพำอยู่ไม่หนีไปไหน แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ก็หนีขึ้นตนมะม่วงหน้าบ้าน จนกระทั่งตำรวจควบคุมตัวได้ในที่สุด และชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าที่บ้านเกิดเหตุในช่วงค่ำๆ มักจะมีการมั่วสุมยาเสพติด อยากให้มีการปราบปรามอย่างเด็ดขาดสักที…………..