หนุ่มบัญชีม้าวิ่งหนีตายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต ข้ามแดนมาตายดาบหน้าฝั่งไทย

สระแก้ว – หนุ่มไทยวัย 30 ปี รับจ้างเปิดบัญชีม้าหนีตายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในปอยเปต เข้าไทยบริเวณแนวชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังถูกกักขัง ทำร้าย บังคับให้เสพยาเสพติด
เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 2 ก.พ. ต่อเนื่อง วันที่ 3 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก และเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว ออกลาดตระเวนตามภาระกิจป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณตะเข็บแนวชายแดนไทยกัมพูชา พื้นที่่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเมื่อมาถึงบริเวณท้ายตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ บริเวณรอยต่อระหว่าง จุดตรวจ จต.อ.18-19 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบชายไทยรายหนึ่ง วิ่งฝ่าความมืดมาตามช่องทางธรรมชาติจากฝั่งกัมพูชา เข้ามายังเขตประเทศไทย ชุดลาดตระเวนจึงได้จับกุมตัวมาสอบสวน
\"\"
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ ทราบชื่อชายไทยดังกล่าว ชื่อว่า นายอรรถสิทธิ์ สุดสวาท อายุ 30 ปี ที่อยู่ 230 ม.9 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บอกว่า ได้วิ่งหนีตายจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในฝั่งปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เพราะถูกกักขังแล้วทำร้ายร่างกาย และยังถูกบังคับให้เสพยาเสพติด จึงฉวยโอกาสช่วงเวลากลางคืนที่ รปภ.ของแก๊งคอลฯ เผลอ วิ่งหลบหนีออกมาจากที่ทำงาน แล้วสอบถามเส้นทางหลบหนีข้ามแดนช่องทางธรรมชาติจากชาวเขมรแถวนั้น จนกระทั่ง สามารถวิ่งหนีข้ามเข้ามาในฝั่งไทยได้สำเร็จ
\"\"
นายอรรถสิทธิ์ ยังให้กล่าวอีกว่า ตนเองถูกชักชวนให้ไปทำงานด้านคอมพิวเตอร์ในปอยเปต โดยบอกว่าจะให้ค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท จึงได้ตัดสินใจเดินทางไป แต่พอไปถึงกลับถูกบังคับให้ไปยังที่ทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบังคับให้เปิดบัญชีทางออนไลน์ ซึ่งตนเองสามารถเปิดบัญชีได้สองบัญชี คือ ธ.กรุงไทย และ ธ.กสิกรไทย จากนั้นก็ถูกนำตัวไปสแกนใบหน้า และถูกบังคับให้ทำหน้าที่คีย์ข้อมูลคนไทยให้กับแก๊งชาวจีน เมื่อรู้ตัวว่า ถูกหลอกมา จึงพยายามหลบหนีออกมาไม่ได้ จนกระทั่งสบโอกาสจึงได้วิ่งหลบหนีดังกล่าว
\"\"
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่สอบสวนและบึกทึกข้อมูลเพื่อขยายผล จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายอรรถสิทธิ์ฯ มาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีข้อหาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฏหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงว่า มีส่วนร่วมในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในกัมพูชาหรือไม่ เพื่อขยายผลถึงขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามนโยบายของ ผบ.ตร.และคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
\"\"
——————————
ภาพ/กกล.บูรพา