ตำรวจภาค 2 ซีลชายแดนอรัญฯ ช่วยล่าม-หญิงไทยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอสจีนขัง ซ้อมทรมาน พบช่องทางลับขนบัญชีม้า-แอดมินข้ามแดน

สระแก้ว – ตำรวจภูธรภาค 2 กดดันหนักตัดวงจรโจรออนไลน์ ซีลชายแดนอรัญฯ ช่วยล่าม-หญิงไทยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอสจีนขัง ซ้อมทรมาน พบอีกช่องทางลับ ขนบัญชีม้า-แอดมินเว็บพนันข้ามแดน บุกบ้าน \”เจ๊ ม.\” คิดค่าหัวผ่านทาง 7,000 เปิดบ้านพาเลาะไปปอยเปต
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธธรภาค 2 เปิดเผยผ่านเพจตำรวจภูธรภาค 2 ถึงความคืบหน้ายุทธการ \”อรัญฯ 68 SEAL BORDER\” ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพออนไลน์ โดยหลังจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 นำกำลังสืบสวนเกาะติดเส้นทางชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งอำเภออรัญประเทศ  จ.สระแก้ว อย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้ทำการสืบสวนสอบสวนจับกัมผู้กระทำผิดได้หลายราย อาทิ จับกุมชายชาวกัมพูชาที่ลักลอบขนโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก มาจากไทยข้ามแดน ได้ช่วยเหลือล่ามภาษาจีนที่ถูกช้อมทรมาน และช่วยคนไทยที่ถูกพาข้ามช่องทางธรรมชาติ ไปเป็นบัญชีม้าสแกนหน้า และถูกขังอยู่ฝั่งปอยเปต
\"\"
ส่วนอีกราย สืบภาค 2 ได้แฝงตัวรับงานแอดมินเว็บพนัน ทำให้จับกุมขบววนการนำพาข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ ผ่านบ้าน \”เจ๊ ม. ,ตา ท.\” ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า คิดค่าหัวเปิดช่องข้ามแดน หัวละ 7,000 บาท และพบช่องลับที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำพาบัญชีม้า และแอดมินหลอกลวงไปทำงานให้บอสคนจีน
\"\"
ทั้งนี้ ผบช.ภ.2 กล่าวว่า จากการเปิดยุทธการที่ผ่านมา ตรวจพบคนจีนเดินทางเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติที่ อ.ตาพระยา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ปลายทางต้องการไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา ทางชายแดนอีกฝั่งหนึ่ง นอกจากนี้ ยังคุมตัวล่ามแปลให้คนจีน หนีข้ามแดนเข้าทาง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว หลังถูกข้อมทรมาน หลบหนีออกมา
\"\"
พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ขณะที่ตำรวจสืบภาค 2 เปิดยุทธการ อรัญฯ 68 SEAL BORDER พบหญิงบัญชีม้ารารายหนึ่ง ขอความช่วยเหลือหลังถูกกักขัง อยู่ในออฟฟิศคอลเซ็นเตอร์ฝั่งปอยเปต จึงประสานงานทางการฝั่งปอยเปตช่วยเหลือมาได้ มาสอบสวนอย่างละเอียด พบข้อมูลออฟฟิศบัญชีม้าสแกนหน้า และช่องทางลับขบวนการพาคนข้ามแดนทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
\"\"
ด้าน พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวเพิ่มเติมว่า มีหญิงสาวรายหนึ่ง อยู่ กทม. พบว่า ถูกชวนไปทำงานให้เช่าบัญชี เพื่อทำเว็บพนันโดยแจ้งว่า ทำงานในตลาดโรงเกลือในฝั่งไทย มีขบวนการมารับจาก กทม. พาไปเปิดบัญชีในห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนนำพาไป จ.สระแก้ว แต่พอหลวมตัวเข้าไปทำงาน กลับพาข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านผ่านช่องทางลับเป็นช่องทางธรรมชาติใกล้ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง มีขบวนการนำพาเป็นทอด ๆ มีคนกัมพูชามารับพาไป ส่งให้คนอินเดีย ที่ฝั่งปอยเปต อยู่ระหว่างการขยายผลดำเนินคดี จากการสืบสวนสวนสอบสวนพบว่า เมื่อไปถึงฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจะพาไปที่ออฟฟิศพักคอย พาไปเปิดบัญชีคริบโต พาไปเป็นม้าสแกนหน้า และถูกกักขัง เมื่อบัญชีถูกนำไปก่อเหตุ หลังถูกผู้เสียหายแจ้งความทำให้บัญชีถูกบล็อก ต้องถูกปล่อยกลับ แต่ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเซ็มเตอร์กลับไม่ปล่อยให้กลับ จนต้องขอความช่วยเหลือ โดยบัญชีม้ารายนี้ ได้เงินตอบแทนกลับมาเพียง 10,000 บาท แต่ต้องเปิดบัญชีม้าถึง 4 บัญชี
\"\"
ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า อีกรายพบขบวนการพาพนักงานออฟฟิศไปทำงาน โดยอ้างว่า เป็นแอดมินเว็บพนัน จึงส่งสายลับชุดสืบสวน บูรพา 491 บก.สส.ภ.2 เข้าไป พร้อมกำลังตำรวจสืบสวนติดตาม พบว่า มีขบวนการนำพาช่องทางลับอีกหนึ่งจุด จุดนัดพบใกล้ห้างสรรพสินค้าอีกแห่งหนึ่งใน อ.อรัญประเทศ เมื่อพาไปใกล้หน้าด่านพรมแดนคลองลึก จะมีรถเก๋งมารับพาไปตามถนนเลาะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วพาผ่านด่านทหารพรานเข้าไป มาถึงบ้านเจ๊ ม. และ ตา ท. ที่มีพฤติการณ์เปิดช่องทางธรรมชาติให้คนข้าม โดยคิดค่าผ่านทาง หัวละ 7,000 บาท เมื่อเข้าไปจะมีคนเปิดประตูให้ พาเข้าถนนลูกรังมุ่งหน้าทางคลองพรมโหด ซึ่งเป็นคลองที่กั้นเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ตำรวจภูธรภาค 2 จึงบุกเข้าจับกุมได้ทั้งหมด คุมตัวเจ๊ ม. และ ตา ท. ทำประวัติ เพื่อขยายผลต่อไป
\"\"
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธีระชัย ยังระบุด้วยว่า \”จากการสอบสวนกรณีนี้พบคนขับรถที่พาไปเป็นชายไทย ชาวอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากการชักถาม ยอมรับว่า ได้รับว่าจ้างจากชาวกัมพูชา ให้มารับคนพาข้ามแดนที่บริเวณดังกล่าว โดยได้ค่าจ้างหัวละ 50 บาท บก.สส.2 อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลหารายละเอียดและผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการดังล่าว โดยหลังจากนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 จะปฏิบัติการนี้อย่างเข้มข้นร่วมกับทุกหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อจับกุมและขยายผลอย่างเด็ดขาด รวมถึงกดดันและตรวจตราช่องทางธรรมชาติ ไม่ให้เอื้อต่อการลักลอบข้ามแดนไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันต่าง ๆ
\"\"
——————————
ภาพ/ตำรวจภูธรภาค 2