สระแก้ว – เกิดเหตุผัวหึงโหด ใช้ปืนขนาด 9 มม.ยิงท้ายทอยเมียดับ คาดหึงหวง หลังจากไปทำงานฝั่งปอยเปต ขณะที่ผู้ก่อเหตุเพิ่งออกจากคุกมาได้แค่ 3 เดือน หลบหนีด้วยรถยนต์นิสสันมาร์ช สีดำ มุุ่งหน้าชายแดน จ.สระแก้ว
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 27 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สาโรจน์ บุบผา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำอางค์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว และลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ชุดสืบสวน สภ.เมืองสระแก้ว โดยที่เกิดเหตุอยู่ที่บ้านเอื้ออาทร ซอย 9 ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาสระแก้ว ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว พบเป็นบ้าน 2 ชั้น เข้าไปตรวจสอบพบหญิงรายหนึ่ง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด นอนหงาย สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีครีม หายใจรวยริน โดยโดนยิง 1 นัด ที่บริเวณท้ายทอย จึงประสานรถกู้ชีพ นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เพื่อรักษาตัวโดยด่วน

ทั้งนี้ นายจักรรินทร์ งามวงษ์ อายุ 38 ปี ผู้แจ้งเหตุ ซึ่งเป็นชาวบ้านใกล้เคียง เล่าว่า ได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน พร้อมกับ มีเสียงเด็กร้องด้วย และเสียงปืนดัง 1 นัด จึงโทรแจ้งไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และขับรถจักรยานยนต์มาดู ซึ่งอยู่ซอยถัดไป แต่หลังบ้านติดกัน มาถึงก็สอบถามละแวกใกล้เคียงว่า ได้ยินเสียงปืนหรือมีรถขับเร็ว ๆ บ้างไหม ซึ่งก็มีคนบอกว่า มีรถยนต์คันหนึ่งขับออกไปอย่างรวดเร็ว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้เดินทางมาที่เหตุ พร้อมด้วย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบภายในบ้าน ดูพยานหลักฐาน โดย พฐ.ได้วางป้ายพยานหลักฐานหลายจุด โดยพบกล่องบรรจุกระสุนปืนอีกหลายนัด และสภาพบ้านอยู่ในสภาพกระจัดกระจาย อีกทั้งยังพบยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 4 เม็ด วางอยู่

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ส่งทีมสืบสวนลงมาเก็บพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิด พบว่า รถยนต์คันก่อเหตุเป็นรถยนต์ นิสสันมาร์ช สีดำ ทะเบียน กง-7809 นครพนม ขับออกจากที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว และปิดไฟ เมื่อถึงถนนใหญ่พบว่า มุ่งหน้าไปทาง อ.อรัญประเทศ โดยทีมสืบสวนได้เร่งติดตามตัวและประชาสัมพันธ์เป็นบุคคลอันตราย ให้ห่าง เนื่องจากมีอาวุธปืนอยู่ในมือ และได้ตั้งจุดตรวจ 9 สกัด ตามแผนยุทธการ เบื้องต้นทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายสมเจตต์ แซ่เฮียบ หรือตี๋น้อย อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ โดยผู้เป็นแม่ รับปากกับเจ้าหน้าที่ว่า จะพยายามติดต่อลูกชายให้เข้ามอบตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ต่อมา เวลา 21.20 น. ทางญาติได้รับแจ้งจากทาง รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ว่า น.ส.วาสนา อินทร์สุระ หรือแวว อายุ 35 ปี ผู้บาดเจ็บ ว่าได้เสียชีวิตลง โดยญาติที่มาเฝ้ารอหน้าห้องฉุกเฉินต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจร้องไห้ ซึ่งที่บริเวณด้านหน้าตึกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ภายหลังญาติทราบข่าวว่า น.ส.วาสนาฯ ได้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตลง โดยญาติพร้อมเพื่อนของผู้เสียชีวิตเกือบ 10 คน ได้เดินทางมารอรับศพและต้องการพบหน้าคนตายเป็นครั้งสุดท้าย ที่บริเวณด้านหน้าห้องฉุกเฉินฯ ซึ่งหลายคนอยู่ในอาการเศร้าโศก ร้องไห้ด้วยความเสียใจ หลังทราบข่าวการเสียชีวิต ส่วนบางคนอยู่ในอาการเคียดแค้นผู้ก่อเหตุเนื่องจากรู้จักกันมาก่อน โดยเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉินได้เรียก น.ส.ศิรินทรา ไพรวัลย์ อายุ 32 ปี คนพื้นที่บ้านใหญ่ เทศบาลเมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคนตายไปให้ข้อมูลด้วย

น.ส..ศิรินทรา ไพรวัลย์ อายุ 32 ปี ญาติคนตาย เล่าว่า ผู้เสียชีวิตเป็นญาติพี่น้องกัน ออกจากบ้านไปได้ประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งมารู้อีกทีว่า เค้ากลับมาอยู่กับแฟนเก่า ซึ่งเป็นพ่อของลูก ต่อจากนั้นก็มารู้อีกทีว่า โดนยิง ไม่ได้ติดต่อกัน ซึ่งคนตายกับคนก่อเหตุเคยอยู่ด้วยกัน มีลูกด้วยกัน แล้วตัวผู้ชายติดคุก เพิ่งออกมาได้แค่ 2-3 เดือน แล้วก็กลับมาอยู่ด้วยกัน ส่วนลูกอยู่กับหลวงตา ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบว่า เกิดขึ้นเพราะอะไร หลังจากออกจากคุกมาได้ 2-3 เดือน ก็กลับมาอยู่ด้วยกัน โดยคนตายไปทำงานอยู่ที่ฝั่งปอยเปต ประมาณทุ่มกว่า ๆ ก็มารู้ว่า เค้าถูกยิง จึงรีบมาที่ รพ.ตอนนี้ได้รับแจ้งว่า เขาเสียชีวิตแล้ว เพราะโดนยิงที่ท้ายทอย จึงเสียชีวิต หลังจากนั้นก็โผเข้ากอด

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่จุดเกิดเหตุบ้านเอื้ออาทร อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการซื้่อขายและเสพยาเสพติดกันอย่างโจ๋งครึ่่ม โดยเฉพาะ ซ.7 บ้านเอื้ออาทรฯ เป็นที่รู้กันของกลุ่มผู้ค้าและผู้เสพ ที่สามารถซื้อหายาบ้าและยาเสพติดได้อย่างง่ายดาย จึงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบด้วยเช่นกัน

—————————
ข่าว-ภาพโดย/รักพงษ์ กิตติวรเมธี ,ธนภัท กิจจาโกศล ,เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ ทีมข่าวสระแก้ว