ฝนถล่มหนัก!! น้ำท่วมตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน จ.สระแก้ว 

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 10 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเฉพาะพื้นที่ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานานและท่วมสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก และเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำรอการระบายดังกล่าว โดยสถานีตำรวจภูธรคลองลึก แจ้งว่า ขอให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางบริเวณตลาดโรงเกลือ โปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง เนื่องจากขณะนี้มีฝนตกและมีน้ำท่วมขังในบางจุด เนื่องจากการระบายน้ำไม่ทัน หากรถเกิดปัญหา รถดับ รถไม่ติด สามารถให้โทรหา 191  ได้ทันที ตำรวจจะรีบเข้าไปช่วยเหลือ

ส่วน คุณปกาศิต วิ่งไว ได้โพสต์คลิปภาพวีดีโอในเฟซบุ๊ก ขณะฝนตกอย่างหนักและมีปริมาณจำนวนมาก ได้ไหลเข้าไปในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จำนวนมาก หลังฝนตกอย่างหนัง ซึ่งบริเวณตลาดโรงเกลือมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ น้ำจำนวนมากจะไหลเข้าไปรวมอยู่ในพื้นที่ตลาดก่อนจะมีการระบายสู่คลองลึก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในเวลาต่อมา ส่วน ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า อ.กรณิศ เพิ่มจิตร ได้โพสต์ภาพคลิปปริมาณน้ำท่วมในตลาดโรงเกลือ ซึ่งผู้ค้าในตลาด แรงงาน และผู้เข้าไปจับจ่ายซื้อของ ต้องเดินลุยน้ำสูงแค่เข่า ต้องจูงรถจักรยานยนต์ลุยน้ำกัน พร้อมกับระบุว่า \”ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว ฝนตกหนักมากกว่าชั่วโมงแล้ว กำลังจะเป็นทะเลแล้ว พายุฝนกระหน่ำ\”

อย่างไรก็ตาม จากปริมาณน้ำฝนที่เทลงมาอย่างหนัก ส่งผลทำให้ทุกพื้นที่ในตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นที่ต่ำและแอ่งกระทะ ระบายน้ำไม่ทัน จึงไหลเอ่อ เข้าไปในห้องแถวค้าขายทุกห้อง ภายในตลาดอย่างรวดเร็ว จนผู้ค้าเก็บสินค้ากันไม่ทัน สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับผู้ค้าขาย นอกจากนั้น น้ำฝนยังไหลท่วม ถนนถนหนทาง ทุกสาย ภายในตลาด ทำให้ยวนยานพาหนะไม่สามารถสัญจรได้ และยังไหลท่วมเข้าไปในตัวรถที่จอดอยู่เสียหายเป็นจำนวนมาก  ขณะเดียวกัน สภาวะน้ำท่วมดังกล่าว ยังเกิดขึ้นในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ที่อยู่ติดกับตลาดโรงเกลือ และไม่มีระบบระบายน้ำดีเท่าที่ควร จึงสร้างความเสียหายให้กับชาวกัมพูชาในปอยเปตด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น ภายในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ก็ถูกน้ำท่วมเช่นเดียวกัน เพราะปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก นานหลายชั่วโมง จนระบายไม่ทัน ได้ไหลเอ่อท่วมพื้นที่และไหลเข้าไปในย่านค้าขายและบ้านเรือนของชาวบ้าน ได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน

ขณะเดียวกัน ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2568) ฉบับที่ 7 (116/2568) ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมา ปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน

โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ภาคเหนือ:  จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:  จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ,ภาคกลาง:  จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ,รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ส่วนวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ,ภาคกลาง:  จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ,รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ,ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์

และวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ,ภาคกลาง:  จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ,รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนวางแผนการใช้ชีวิตและการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

——————————-