ทหารจับกุม 2 คนไทยมุดรั้วข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา และจับกัมพูชาลักลอบอีก 7 ราย 

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 โดยมีกองร้อย ทพ.1202 จัดกำลังพลร่วมกับ ตม.สระแก้ว และ สภ.คลองลึก สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตะเวณ เฝ้าตรวจเข้ม ป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่บ้านดงงู ม.7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเสี่ยงต่อการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ฯ ได้ตรวจพบชายต้องสงสัยจำนวน 2 คน ลักลอบมุดรั้วลวดหนามชายแดนบริเวณช่องธรรมชาติจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย แล้วเดินเท้าลัดเลาะตามป่าละเมาะมุ่งหน้าจะไปสถานีขนส่งอรัญประเทศ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าทำการควบคุมตัวไว้ จำนวน 2 คน พบว่า เป็นคนไทยทั้ง 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายดอน อายุ 48 ปี ภูมิลำเนา ม.3 ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี และ นายกฤษณะ อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา ม.19 ต.สาระถี อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ซึ่งทั้ง 2 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตข้ามแดน จึงคุมตัวมาสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่ 1202

ทั้งนี้ จากการซักถาม นายดอนและนายกฤษณะ อ้างว่า ตนทั้ง 2 คนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา หลอกให้มาทำงาน ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.68 โดยลักลอบข้ามชายแดนช่องทางธรรมชาติ แล้วถูกนำไปกักขังไว้ในอาคารแห่งหนึ่งไม่ทราบชื่อ จากนั้น ก็ถูกบังคับให้เปิดบัญชีธนาคารทางออนไลน์ คนละ 5 บัญชี 5 ธนาคาร มีธนาคารกรุงไทย , ออมสิน , กสิกรไทย , ไทยพาณิชย์ และทหารไทยธนชาติ โดยบอกว่า จะได้เงินค่าเปิดบัญชี ๆ ละ 5,000 บาท แต่อยู่มาจนถึงวันที่ 24 เม.ย. ก็ยังไม่เคยได้เงินเลย จึงรู้ว่าถูกหลอก กลัวจะถูกทำร้ายร่างกายหรืออาจถูกฆ่าทิ้งได้ จึงชักชวนกันหลบหนีออกมาจากอาคารดังกล่าว แล้วสอบถามเส้นทางหลบหนีจากชาวเขมรจนสามารถหลบหนีมาถึงชายแดนไทย และลักลอบมุดรั้วลวดหนามชายแดนดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสอบสวนและทำบันทึกจับกุมเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบของ สภ.คลองลึก พบว่า ทั้ง 2 คน มีผู้เสียหายแจ้งความทางออนไลน์ ว่าโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของบุคคลทั้งสอง รวมถึง 11 คดี แบ่งเป็น คดีชื่อบัญชีนายดอน จำนวน 7 คดี และคดีชื่อบัญชีนายกฤษณะ จำนวน 4 คดี ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 25 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อย ทพ.1304 และ ฉก.อรัญประเทศ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติ จึงจัดกำลังพล ร่วมกับ มว.คทร.ฉก.อรัญประเทศ, นฝด.11, ชปข.2 กกล.บูรพา ลาดตระเวนและเฝ้าตรวจบริเวณพิกัดที่ได้รับแจ้ง ต่อมา ชุดเฝ้าตรวจฯ พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย พร้อมสัมภาระ เดินออกมาจากชายป่าตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณพิกัด TA 417056 บ.หนองเอี่ยน ม.7 ต.ท่าข่าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าทำการตรวจสอบ ทราบว่า เป็นชาวกัมพูชา จำนวน 7 ราย เป็นชาย 2 คน,หญิง 5 คน

จากการสอบสวน ทราบชื่อชาวกัมพูชาทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย 1.นาย โอน  เปา  อายุ 17 ปี ที่อยู่ บ.โอละฮอง อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย ,2.นาย ซกเตีย เสือม อายุ 22 ปี ที่อยู่ บ.เชียงเจน อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย ,3. น.ส.รีนา  เสือม อายุ 18 ปี ที่อยู่ บ.เชียงเจน อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย ,4.น.ส.รียา เสือม อายุ 18 ปี  ที่อยู่ บ.เชียงเจน อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย ,5. น.ส.สุนา รม อายุ 18 ปี ที่อยู่ บ.เชียงเจน อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย ,6 น.ส.สุริญา เสือม อายุ 17 ปี อยู่ บ.เชียงเจน อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย และน.ส.สารวน ซิ่ว อายุ 46 ปี ที่อยู่ บ.เชียงเจน อ.มาลัย จ.บันเตียเมยนเจย

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า กลุ่มชาวกัมพูชาดังกล่าว เดินทางมาจาก บ.เจียงจาบ ต.โกรกบารัง อ.มงโกรวบอลัย จ.บันเตียเมียนเจต เพื่อไปทำงานรับจ้างเย็บผ้า ในพื้นที่ กทม. และ ติดต่อลักลอบข้ามแดนผ่านชาวกัมพูชา ให้มาส่งบริเวณแนวชายแดนเพื่อข้ามช่องทางธรรมชาติ โดยมีค่าใช้จ่าย 1,600 บาท/ราย จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารแสดงตน จึงควบคุมตัวชาวกัมพูชาทั้งหมด ส่งให้กับ สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

———————–

ภา่พ/กกล.บูรพา