สภ.คลองลึก ขยายผลจับกุมชาวจีนหนีแก๊งคอลฯข้ามแดนมาไทย พบให้การไม่สอดคล้อง

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภ.คลองลึก เปิดเผยผลการสอบสวน กรณีจับกุมผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.30 น.  ตม.จว.สระแก้ว การร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.1201 ได้ร่วมกันจับกุม คนต่างด้าวสัญชาติชาวจีน จำนวน 1 ราย คือ นายเซี่ยวปู่ สัญชาติ จีน ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง โดยจากการการขยายผล ชาวจีน ให้การว่า เมื่อประมาณต้นเดือน มกราคม 2568 ตนได้รับการชักชวนจากเพื่อนชาวจีนให้มาทำงานร้านอาหารที่ประเทศกัมพูชา โดยตกลงค่าจ้างเป็นเงิน 10,000 หยวน ต่อเดือน ตนจึงได้เดนทางมาจากประเทศจีนด้วยเครื่องบิน มาลงที่สนามบินประเทศกัมพูชา และได้มีชายชาวกัมพูชานั่งรถตู้มารับตนที่สนาม มาลงที่ร้านอาหารชื่อ เซี่ยวหลิน ซึ่งตนก็เริ่มงานในวันถัดไป

โดยนายเซี่ยวปู่ ให้การว่า ตนมีหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร ในช่วงแรกที่ตนทำงานได้ 1 เดือน ตนได้รับเงินตอบแทนเป็นเงินเพียง 7,000 หยวน จากนั้นเดือนที่ 2 ตนไม่ได้รับค่าตอบแทน และตนได้ถูกยึดโทรศัพท์มือถือและหนังสือเดินทางไว้ ตนจึงใช้โทรศัพท์มือถือของร้านอาหารติดต่อเพื่อนชาวจีนของตน และได้รับคำแนะนำว่า ให้ตนหนีมาที่ประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยสามารถติดต่อกับสถานฑูตจีนได้ง่าย ตนจึงได้ หลบหนีออกมาจากร้านอาหารดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 มี.ค.68 เวลาประมาณ 10.00 น. ข้ามออกมาทางช่องทางธรรมชาติ ลักษณะเป็นกำแพงปูน ตนจึงได้ข้ามกำแพงดังกล่าวมา แล้วพบกับคลองน้ำ ซึ่งตนก็ได้ว่ายน้ำข้ามมา และได้เดินเท้าต่อ มาจนถึงบริเวณบ้านดงงู ม.7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนถูกเจ้าหน้าที่ของประเทศไทยพบและถูกจับกุมที่บริเวณดังกล่าว ตรวจสอบไม่พบโทรศัพท์มือถือ และหนังสือเดินทาง

ขณะที่การให้การของ นายเซี่ยวปู่ ในชั้นจับกุมให้การว่า มีผู้ที่ติดต่อให้เข้ามาทำงานในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีลักษณะเป็นองค์กรติดต่อคนเข้ามาทำงานทางแอพพลิเคชั่นวีแซท และได้นั่งเครื่องบินโดยสารมาลงที่จังหวัดพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และนั่งรถโดยสารมาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งชื่อว่า เซี่ยวหลิน ในพื้นที่ บ.ปอยเปต กรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้คนให้มาร่วมลงทุน ได้รับค่าตอบแทนในการทำงานเป็นรายเดือน ๆ ละ 7,000 หยวน เดือนแรกได้รับเงินเดือนเป็นปกติ แต่เดือนที่สอง ปรากฏว่า ไม่ได้รับเงินเดือน จึงเข้าใจได้ว่า ตนเองถูกหลอกให้มาทำงานและกลัวว่า จะถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้ทำการหลบหนีออกมา

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากการตรวจสอบนายเซี่ยวปู่ ไม่พบโทรศัพท์มือถือ และหนังสือเดินทาง และจากการสอบถ้อยคำ พบว่า คำให้การไม่สอดคล้องกับการให้ข้อมูลในชั้นจับกุม โดยอ้างว่า ตนสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ชุดจับไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

————————–