ตำรวจสระแก้วลุยปิดโรงแรมเถื่อน ให้ที่พักบัญชีม้าและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

สระแก้ว – ตำรวจสระแก้ว ร่วมกับ สืบภาค 2 และฝ่ายปกครอง ลุยปิดโรงแรมเถื่อน พื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้ที่พักบัญชีม้าและแก๊งคอลเซนเตอร์ จับผู้ต้องหา 1 ราย ดำเนินคดี 
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 ,ตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปลัดอำเภออรัญประเทศ พร้อมชุดสืบสวน สภ.คลองลึก ได้ร่วมกันจับกุม นางอรณี อายุ 55 ปี ที่อยู่ ถนนสาย กม.3 ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากสืบทราบว่า เปิดโรงแรมและมีการให้ที่พักบัญชีม้าและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในช่วงที่ผ่านมา จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “เปิดโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 มาตรา 15,59 ” โดยพฤติการณ์และการกระทำความผิดของเจ้าของโรงแรมดังกล่าว ตามนโยบายของรัฐบาลไทย,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้บังคับบัญชา สั่งให้ชุดจับกุมออกตรวจสืบสวน ป้องกันปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญบัญชีม้า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจสืบสวนหาข่าว ทราบว่า อังกอร์รีสอร์ท เลขที่ 31/2 ถ.สุวรรณศร กม.3 ฝั่งซ้าย ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นที่พักพิงของกลุ่มผู้เปิดบัญชีม้า เพื่อที่จะเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศกัมพชา แล้วแสกนใบหน้า กลับมาหลอกลวงคนในประเทศไทย
\"\"
โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้เดินทางพร้อมกันไปตรวจสอบที่ อังกอร์รีสอร์ท เลขที่ 31/2 ถ.สุวรรรณศร กม.3 ฝั่งซ้าย ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบตัว น.ส.อรณี อายุ 55 ปี มีภูมิลำเนาในพื้นที่ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ แสดงตัวเป็นผู้จัดการรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ขอดูใบอนุญาตประกอบการโรงแรม ปรากฏว่า น.ส.อรุณี  ไม่สามารถนำใบอนุญาตมาแสดงกับชุดชุดจับกุมได้ และยอมรับว่า ตนเป็นผู้จัดการรีสอร์ท และไม่มีใบอนุญาตการเปิดโรงแรมกับนายทะเบียน และ น.ส.อรุณี  ไม่ทราบว่า บุคคลบางกลุ่ม ที่เข้าพักในรีสอร์ทของตน เป็นกลุ่มแก๊งที่เปิดบัญชีม้าแล้ว จะนำบัญชีไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในประเทศกัมพูชา
\"\"
แต่เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรารวจสายตรวจ สภ.คลองลึก ได้เข้าไปที่อังกอร์รีสอร์ท ได้พบกลุ่มบัญชีม้า จำนวน 7 คน ที่กำลังจะข้ามไปฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งอังกอร์รีสอร์ท มีนายบัณฑิต ขอสงวนนามสกุล เป็นเจ้าของสถานที่และให้ น.ส.อรุณี  เป็นผู้จัดการรีสอร์ท โดยนายบัณฑิตฯ ได้มอบโทรศัพท์มือถือถือยี่ห้อ VIVO สีม่วง (ของกลางลำดับที่ 1) เป็นของส่วนกลาง เพื่อใช้ในการติดต่อกับลูกค้า และสื่อสารกันแอพพลิเคชั่นในกลุ่มไลน์ ชื่อว่า อังกอร์รีสอร์ท เพื่อส่งข้อมูลลูกค้าในการเข้าพัก สลิปการโอนเงินเข้าพักไปยังบัญชี ที่ระบุชื่อนายบัณฑิตฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจสอบใบเสร็จการเข้าพัก ที่โต๊ะหน้าเคาเตอร์พบใบเสร็จรับเงิน ระบุชื่อลูกค้าชาวไทย จำนวน 5 แผ่น (ของกลางลำดับที่ 2) ใบเสร็จรับเงิน ระบุชื่อลูกค้าชาวอินโดนีเชีย จำนวน 9 แผ่น ( ของกลางลำดับที่ 3 )
\"\"
อย่างไรก็ตาม น.ส.อรุณี  ได้ยอมรับสารภาพว่า มีชาวต่างชาติมาเข้าพัก แต่ตนไม่ได้แจ้งการเข้าพักต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ให้ทราบผู้ถูกจับทราบ จึงนำตัวไปทำบันทึกการจับกุม และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วต่อไป
\"\"
—————————–