27 มกราคม 2568 เวลา 10.00น.ฝ่ายบริหารจัดการให้เช่าพื้นที่ของสินค้า บริเวณหน้าอาคารที่ทำการดูแลผลประโยชน์ของวัดพระธาตุพนม พบว่ามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจำนวนนับร้อยรายต่างรับบัตรลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์ค้าขายในพื้นที่บริเวณภายในวัด โดยทางวัดได้จัดเจ้าหน้าที่ให้บริการตรวจเอกสารสิทธิ์และเจ้าหน้าที่บันทึกรายชื่อผู้ขายก่อนออกเอกสารก่อนชำระเงินค่าเช่าต่อไป ทั้งนี้ทางวัดได้เปิดรับลงทะเบียนใน วันที่ 27-28 มกราคม 2568 นี้เท่านั้น.
ขณะที่ผู้สื่อข่าวเข้าสังเกตบรรยากาศการลงทะเบียน พบว่ามีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ชอบมาพากลในครั้งนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าขายที่เคยลงทะเบียนเช่าพื้นที่ค้าขาย ปี 2567 พบว่าหลายรายไม่มีรายชื่อตามเคยลงทะเบียนไว้ ไวยาวัชกรและเป็นทนายของทางวัดได้เคยลงชื่อรับรองไว้ก่อนหน้า พร้อมทั้งนำเอกสารหลักฐานยืนยันต่อผู้สื่อข่าว ผู้ค้าบางรายพื้นที่ค้าขายเดิมซึ่งเป็นทำเลที่ดีและเป็นพื้นที่เคยเช่ามาตลอดหลายปี แต่ในครั้งนี้กลับถูกปรับโยกให้ขยับออกไปห่างจากเดิม ซึ่งเชื่อว่าเพื่อต้องการเอื้อประโยชน์ให้นายทุน
จากการสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนกับผู้ลงทะเบียนเช่า เจ้าหน้าที่ฯอ้างว่า ในปีนี้ ทางวัดได้ทำการขยายพื้นที่ล็อคจึงทำให้ตำแหน่งล็อคค้าขายก็จะต้องถูกร่นขยายออกไปโดยปริยาย ขณะที่ผู้เช่าล็อคยืนยันว่าขนาดของพื้นที่ไม่ได้แตกต่างจากปีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มผู้เช่าในปีที่ผ่านมา กลับไม่พบรายชื่อนั้นทางเจ้าหน้าที่รับทะเบียนคนเดิม แจ้งต่อผู้มีลงทะเบียนใช้สิทธิว่า สำหรับการลงทะเบียนในครั้งนี้ ทางวัดจะยึดฐานข้อมูลการลงทะเบียนของปี 66 เท่านั้น
สำหรับคณะกรรมการดูแลผลประโยชน์วัดพระธาตุพนม นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ และทนาย เอื้อ มลูสิงห์ ซึ่งทำหน้าที่ใน ตำแหน่งไวยาวัชกร ต่างยังไม่ได้ออกมาแก้ปัญหาและความขัดแย้งของปัญหาดังกล่าวของผู้เช่าพื้นที่แต่อย่างใด ต่างจากปีที่เข้ามาจัดระเบียบและพื้นที่ค้าขายจนลงตัว โดยเฉพาะผู้ค้าบางรายที่ไม่เคยเข้าถึงพื้นที่ค้าขายภายในวัดตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงสร้างความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับวัดแห่งนี้กันแน่