โจรใจกล้า! กลางวันแสก ๆ ขโมย จยย.หน้าบ้าน ชาวธาตุพนม – กล้องจับภาพชัด ตำรวจเร่งล่าตัว

นครพนม – กล้องวงจรปิดบันทึกภาพชัด! โจรแสบย่องขโมยรถจักรยานยนต์ถึงหน้าบ้านกลางวันแสกๆ ตำรวจธาตุพนมเร่งแกะรอย ล่าตัวคนร้ายหวั่นก่อเหตุซ้ำสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน

\"\"
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.ธนพงษ์ ชาวเชียงตุง รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม รับแจ้งความจาก นายไชยยุทธ สายธาร และนางสาวอรกรก สองสามีภรรยา ผู้เสียหายว่า รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้ถูกโจรกรรมไปจากบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 125/42 หลังวัดพระธาตุพนม ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 30 เมษายน เวลาประมาณ 15.10 น.

หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ธาตุพนม ไม่รอช้า สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว พร้อมประสานงานไปยัง สภ.ใกล้เคียงและสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน กระทั่งได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเห็นบุคคลต้องสงสัยกำลังจูงรถจักรยานยนต์ลักษณะตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้งไว้ บนถนน 212 ธาตุพนม-นครพนม บริเวณปากทางเข้าบ้านดอนนางหงส์ ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ธาตุพนม จึงประสานงานกับชุดสืบสวน สภ.หลักศิลา และนำผู้เสียหายลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อไปถึงอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลดอนนางหงส์ ผู้เสียหายถึงกับดีใจสุดขีดเมื่อพบรถจักรยานยนต์คันรักจอดอยู่ที่อู่ดังกล่าว แม้สภาพเครื่องยนต์จะเสียหายก็ตาม

\"\"
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวน สภ.ธาตุพนม ได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายรายนี้จะเป็นภัยต่อสังคมและอาจก่อเหตุซ้ำอีก

จากการสอบถาม นางสาวอรกรก เล่าด้วยความตกใจว่า ในวันเกิดเหตุ ตนและสามีกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ที่หน้าบ้าน โดยได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้และไม่ได้ถอดกุญแจออก ต่อมาตนได้ออกไปทำงานก่อน ส่วนสามีกำลังจะขับรถตามออกไป แต่เมื่อสามีเดินไปทำธุระข้างบ้านเพียง 5 นาที กลับมาก็พบว่ารถได้หายไปแล้ว ตนและสามีจึงรีบเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ระดมคนรู้จักช่วยกันตามหา พร้อมทั้งขอดูกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง จนกระทั่งมีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่า พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวในบริเวณใกล้เคียงกับที่แจ้งความไว้ ตนและคนรู้จักจึงรีบเดินทางไปยังอู่ซ่อมรถดังกล่าว และพบรถของตนจริง ๆ แม้เครื่องยนต์จะเสียหายก็ตาม

นางสาวอรกรก ฝากเตือนเจ้าของรถจักรยานยนต์ทุกท่านว่า อย่าประมาทเสียบกุญแจทิ้งไว้ เพราะมิจฉาชีพอาจจะจ้องรถของท่านอยู่ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับใครอีก พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นภัยต่อสังคมต่อไป

\"\"
ด้าน นายศุภเรศ เจ้าของอู่ซ่อมรถ เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16:00 น. ได้มีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่า มีรถจักรยานยนต์เสียอยู่ที่ปากทางเข้าบ้านดอนนางหงส์ และขอให้ไปรับมาซ่อม ตนจึงได้ส่งลูกน้องขับรถจักรยานยนต์อีกคันไปยันรถคันดังกล่าวกลับมาที่อู่เพื่อตรวจสอบความเสียหาย เมื่อมาถึง พบชายอายุประมาณ 40-50 ปี อ้างว่าเป็นเจ้าของรถ แจ้งว่าจะเดินทางไปจังหวัดนครพนม แต่รถมาเสียเสียก่อน และขอให้ประเมินราคาซ่อมให้ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าน้ำมันเครื่องแห้งและมีค่าซ่อมสูง ชายคนดังกล่าวจึงขอฝากรถไว้ก่อนแล้วเดินออกไป กระทั่งผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาที่ร้าน และแจ้งว่าเป็นรถที่ถูกขโมยมา ตนจึงได้คืนรถคันดังกล่าวให้กับเจ้าของไป