นับตั้งแต่ปี 2562 มีนักศึกษาชาวจีน เลือกศึกษาต่อในอาเซียนมากกว่า 100,000 คน ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในสิงคโปร์ ไทย อินโดนีเซียและเวียดนาม และในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่า ไทยกลายเป็น HUB ด้านการศึกษาแห่งหนึ่งของเอเซียที่สำคัญ ซึ่งแต่ละปีจะมีนักศึกษาต่างชาติเข้ามาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาวจีนที่นิยมส่งลูกหลานเข้ามาเรียนในไทย และติด 1 ใน 10 ประเทศ ถือเป็นปรากฏการณ์น่าสนใจ ปัจจุบันยังพบว่ามีนักศึกษาจากประเทศอื่น ๆ รวมทั้งกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง สนใจเข้ามาสมัครเรียนในคณะต่าง ๆ ตามมหาวิทยาลัยของรัฐ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
สำหรับแรงจูงใจที่มีนักศึกษาชาวจีน สนใจเลือกมาศึกษายังมหาวิทยาลัยนครพนม ส่วนหนึ่งเกิดจากนักศึกษาส่วนใหญ่ของที่นี่มาจากครอบครัวของชนชั้นกลางทั่วไป อาจเป็นสาเหตุจากค่าครองชีพและกำลังความสามารถค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่จะตกปีละ 30,000 หยวน หรือประมาณปีละ 150,000 บาท นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรให้เลือกมากมาย รวมถึงกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย ที่นักศึกษามีความเป็นอิสระมากกว่า หากเปรียบเทียบกับระหว่างที่ศึกษาในจีนและไทยแล้ว
ล่าสุดวันที่ 24 เม ย.68 รศ.ดร.นิราศ จันทรจิตร หัวหน้าสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้จะมีสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยในเมืองไทยอยู่มากมายก็ตาม แต่ทีนี้ของเราก็บังเอิญว่าที่นี่ก็เป็นสถาบันหนึ่งที่ตัวแทนหรือเอเจนซี่ทางจีนให้ความสนใจ โดยเป็นส่วนสำคัญประชาสัมพันธ์ ไปติดต่อเชิญชวนให้นักศึกษามาเรียนยังที่ม.นครพนม ซึ่งมีกระบวนการตามขั้นตอนในการเปิดรับนักศึกษา ซึ่งจากที่ผ่านมา เรามีนักศึกษาระดับปริญญาโท ประมาณ 20 กว่าคน และปริญญาเอก อีกประมาณ 20 คน และศึกษาจบออกไปแล้วถึง 3 รุ่น