ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ต.ไพโรจน์ ไทยพุทรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารพ.ต.อ.ประยุทธ์ เรือนทองคำ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาหาร พ.ต.ท.ฉัตรมงคล บุญกลาง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองมุกดาหาร , และพ.ต.อ.พิทักษ์พงศ์ เจริญกุล ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ,พ.ต.ท.เจษฎากร ไชยศรีหา สว.สส.สภ.เมืองมุกดาหาร, เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ส.รน.3 กก.10 บก.รน. , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ได้ร่วมกันจับกุม นายแสนสุริยะ คำฟ้อง อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 75 หมู่ 9 ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกตาหาร
พร้อมด้วยของกลางและสิ่งของที่ใช้เป็นพยานหลักฐาน ประกอบด้วย 1. บุหรี่ไฟฟ้ายี่ท้อ CALIBURN จำนวน 2 เครื่อง (ได้จากการล่อซื้อ) 2. หัวเชื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขวดสีขาว-ม่วง จำนวน 1 ขวด (ได้จากการล่อซื้อ) 3.หัวเชื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขวดสีแดง จำนวน 1 ขวด (ได้จากการล่อ) 4. ธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ ธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 6 ใบ 5.หัวเชื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 4 ขวด (ได้จากการตรวจค้น) 6.บุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบทิ้งจำนวน 8 ชิ้น (ได้จากการตรวจค้น) 7. หัวเชื้อน้ำอาบุหรี่ไฟฟ้าแบบเปลี่ยนหัว จำนวน 29 ชิ้น 8.คอยด์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน ๔ ชิ้น (ได้จากการตรวจค้น) 9.หัวเชื้อสำหรับผสมน้ำกระท่อมยี่ห้อเอคอล ขวดใหญ่ จำนวน 6 ขวด (ได้จากการตรวจค้น) 10.หัวเชื้อสำหรับผสมน้ำกระท่อมยี่ห้อเอคอล ขวดเล็กจำนวน 7 ชวด (ได้จากการตรวจค้น) 11.น้ำกระท่อมบรรจุขวด 1,000 มล. จำนวน 72 ขวด (ใต้จากการตรวจค้น)
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับการร้องเรียนว่ามีการขายน้ำกระท่อมและบุหรี่ไฟฟ้าภายในหมู่บ้านสงเปลือย ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงได้เรียนให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดมุกตาหาร โดยศาลจังหวัตมุกดาหารอนุมัติหมายค้นที่ ค.56/2568 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568
จากนั้นได้วางแผนร่วมกันกับหน่วยบูรณาการความมั่นคงในพื้นที่เพื่อทำการจับกุม โดยนำธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 6 ใบ ต่อมาได้ให้สายลับติดต่อกับ นายแสนสุริยะ คำฟ้อง (ทราบชื่อภายหลัง) ทางแอพพลิเคชั่น Messenger ชื่อ \” แม็กกี้ \”ดี๊ดี\” เพื่อติดต่อขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อม ต่อมานายแสนสุริยะฯ ได้ติดต่อสายลับกลับมาว่าให้ไปรับของได้ที่หน้าบ้านของตน ซึ่งเป็นร้านชายของชำอยู่ในหมู่บ้านสงเปลือย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและหน่วยความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง จึงได้วางกำลังอยู่บริเวณใกล้เคียง โดยก่อนให้สายลับเข้าไปรับของได้ค้นตัวสายลับแล้วไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ต่อมาสายลับได้เข้าไปหน้าร้านขายของชำดังกล่าวตามที่นายแสนสุริยะนัดหมาย และเมื่อได้รับของมาแล้ว จึงนำมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบพบว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำกระท่อม อยู่ในถุงพลาสติกที่สายลับมอบให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปขอทำการตรวจค้นตัวนายแสนสุริยะ โดยก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจแก่นายแสนสุริยะจนเป็นที่พอใจแล้วจึงได้ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 6 ใบ ซึ่งมีเลขธนบัตรตรงกับที่ลงประจำวันไว้ อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวา ตัวที่นายแสนสุริยะสวมใส่อยู่ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงหมายค้นของศาลจังหวัดมุกดาหารที่ ค.56/2568 ต่อนายแสนสุริยะ เพื่อเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว
จากการสอบถาม นายแสนสุริยะได้ยอมรับว่าเป็นของตนเองจริงเพื่อขายให้กับลูกค้าที่ติดต่อมาผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ และเฟซบุ๊กส่วนราคาบุหรี่ไฟฟ้าจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นและยี่ห้อ ส่วนน้ำกระท่อมขายในราคาชวดละ 50 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวนายแสนสุริยะ พร้อมของกลางทั้งหมด และได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า 1. ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับ จำนำหรือรับไว้โดยประการโด ซึ่งเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิผ่านพิธีการศุลกาการ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 2. มีไว้ในครอบครองซึ่งซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี อันเป็นความผิด ตาม มาตรา 203(1) สรรพสามิต พ.ศ.2560 3.พ.ร.บ.อาหาร 2522 ฐาน \” จำหน่ายอาหารที่มีพืชกระท่อมเป็นส่วนผสมโดยไม่ได้รับอนุญาต \” 4.ขายบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ข้อ 2 ตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค มาตรา 29/9 ประกอบ มาตรา 56/4 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป