คดีสะเทือนใจ กรณีเพื่อนร่วมงานแทงกันเสียชีวิตภายในห้างดังย่านปทุมวัน ล่าสุด วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 22.00 น. ร.ต.ท.นนทชา แสงโสม รองสารวัตรสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตภายในร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพ ชั้น 5 ของห้างดัง ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบผู้บาดเจ็บคือนายประโยชน์ หรือโจ้ อายุ 40 ปี นอนจมกองเลือด มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 แผล แม้เจ้าหน้าที่พยายามช่วยปฐมพยาบาลแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ นายประโยชน์เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทันที ทราบชื่อคือ นายสรศักดิ์ อายุ 27 ปี
จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ตายและผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนร่วมงานกัน อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนร่างผู้เสียชีวิตถูกนำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรอญาติมารับไปบำเพ็ญกุศล
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายประโยชน์ ที่บ้านนาน้อย ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม พบกับนางอนงค์รัก ผันพลี อายุ 61 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งกำลังหารือกับญาติพี่น้องเพื่อเตรียมสถานที่จัดงานศพ โดยศพของนายประโยชน์จะตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ขณะที่ญาติบางส่วนได้เดินทางไปรับศพที่กรุงเทพฯ
นางอนงค์รักเล่าว่า ทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกชายเมื่อเวลา 22.00 น. จากแฟนสาวของลูกที่โทรมาแจ้ง ตอนแรกเธอช็อก ไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะลูกชายไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง
“ลูกชายเป็นเสาหลักของบ้าน ดูแลครอบครัวมาตลอด หลังจากสามีเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ต้องมาเสียลูกอีก ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปยังไง” นางอนงค์รักกล่าวทั้งน้ำตา
นายประโยชน์เคยแต่งงานและมีลูกสาววัย 6 ขวบ ก่อนจะแยกทางกับภรรยา ปัจจุบันมีแฟนใหม่ชื่อน้องมายล์ และทำงานกับบริษัทเดิมมาตั้งแต่อายุ 18 ปี จนปัจจุบันเป็นผู้จัดการ รวมระยะเวลา 20 ปี
ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับแม่ น้องมายล์ได้วิดีโอคอลมาแจ้งข่าวว่า กำลังนำศพของนายประโยชน์ขึ้นรถตู้กลับนครพนม พอเห็นโลงศพก็ปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงแรงจูงใจของนายสรศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ น้องมายล์เผยว่า พี่โจ้เคยเล่าว่า นายสรศักดิ์อาจเข้าใจผิดว่าเขาเอาเรื่องไปนินทาให้คนอื่นฟัง จึงโกรธแค้นและก่อเหตุสลดดังกล่าว
ด้านคดีความ พ.ต.อ.อาคม ชุพรัตน์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า นายสรศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า เขาทำงานเป็นลูกจ้างในร้านขายเครื่องนวดไฟฟ้า ส่วนผู้ตายเป็นผู้จัดการร้าน สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งสะสม มีการทะเลาะกันบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเรื่องที่เขาถูกกล่าวหาว่านินทา และเรื่องค่าคอมมิชชั่นที่ทวงถามหลายครั้งแต่ไม่ได้รับเงิน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยในวันนี้พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำอย่างเข้มข้น ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป
ข่าว/ทวี อภิสกุลชาติ (นครพนม) 0897109161