พลพัฒน์ จรัสเสถียร ประกาศชัยชนะ นายก อบจ.มหาสารคาม โค่นแชมป์เก่าถล่มทลาย ด้านรองนายกฯ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ร่วมยินดี เชื่อเกมส์เปลี่ยนสู่ชัยชนะ จากอดีตนายกทักษิณลงพื้นที่ช่วยหาเสียง ย้ำรัฐยาลเชื่อมโยงการเมืองท้องถิ่น นำมหาสารคามสู่การเปลี่ยนแปลง
(1 กุมภาพันธ์ 2568) ที่บ้านพัก ต.ปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ของนายพลพัฒน์ จรัสเสถียร ผู้สมัครหมายเลข 4 ในนามพรรคเพื่อไทย ลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ภายหลังจากที่ทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ มีบรรดาสมัคร สจ. ในเขตอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย มาร่วมแสดงความยินดีกับว่าที่นายก อบจ.คนใหม่ โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี มาร่วมแสดงความยินดีด้วย นอกจากนี้ยังมี ส.ส.มหาสารคาม และทีมบริหารของว่าที่นายกอบจ.คนใหม่มาร่วมแสดงความยินดี โดยจากผลคะแนนไม่เป็นทางการผู้สมัคร ส.อบจ.สามารถเอาชนะคู่แข่งได้เกือบทุกเขต โดยทีมคณะทำงานต่างสวมกอดกันด้วยความดีใจ

นายพลพัฒน์ จรัสเสถียร กล่าวว่า ในการลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้ถามว่าเหนื่อยไหมตอบได้เลยว่าชินแล้ว พอได้เห็นคะแนนแล้วก็หายเหนื่อย จากการลงพื้นที่ที่ได้เห็นคือ บางอย่างมันก็เป็นปัญหาของชาวบ้าน เห็นความเดือดร้อนของเขา ชาวบ้านได้ระบาย เราได้รู้ว่าชาวบ้านคาดหวังอะไรจากเรา เขาอยากให้เราไปแก้อะไรให้เขา ไปหาเสียงทุกพื้นที่ ไปฟังมาทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน เก็บข้อมูลมาแล้วก็จดบันทึกไว้ว่า ถ้าเราได้เข้าไปทำงานเราจะเข้าไปแก้ปัญหาอย่างไร
เรารู้ Pain Point ของแต่ละจุดแต่ละตำบลแต่ละหมู่บ้านละต่อไปแล้วก็วางโครงสร้างทำงานใหม่มาเรื่อย ๆไม่ต้องไปเสียเวลาสำรวจเรียนรู้อะไรใหม่ เรารู้แล้วว่าปัญหามันมีอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งเราพร้อมที่จะทำงาน ที่ผ่านมาตนอยู่เบื้องหลังด้านการเมืองมานาน ทำธุรกิจมาเยอะ ผ่านการบริหารมาโดยใช้สกิลความรู้และประสบการณ์ในการบริหาร มาบริหารงบประมาณเพื่อแก้ Pain Point ของแต่ละจุดในจังหวัด

สิ่งแรกที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเรื่องแรกคือ เรื่องน้ำ ที่ใช้อุปโภคในหมู่บ้าน ชาวบ้านมีปัญหาเรื่องน้ำกว่าร้อยละ 80 ซึ่งก็จะเข้าไปดูว่าถ้าหมู่บ้านนึงมีชาวบ้าน 200 ครัวเรือนเราจะต้องขุดบ่อในปริมาตรที่จะสามารถกักเก็บน้ำได้ปริมาณเท่าไหร่เพื่อที่จะสามารถให้ชาวบ้านมีน้ำใช้ได้ตลอดทั้งปี
ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกตน และ สจ. ทุกคะแนนของพี่น้องประชาชนนั่นก็คือพี่น้องอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง คิดว่าจะต้องทำงานหนัก อยากเห็นทุกภาคส่วนได้มาทำงานร่วมกัน ไม่อยากให้ต่างคนต่างทำงานมันก็จะไม่เป็นระบบ เราเสียโอกาสกันมานาน พี่น้องลงคะแนนมาขนาดนี้ตนก็ต้องรู้แล้วว่าพี่น้องชาวจังหวัดมหาสารคามอยากเห็นหลายๆสิ่งที่เขาคาดหวังว่ามันจะดีขึ้นในทุกมิติ

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง de กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคามเป็นอย่างดี ถือโอกาสนี้ขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัด จนได้รับชัยชนะครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นชัยชนะที่พี่น้องประชาชนชาวสารคามด้วย
ทั้งนี้ส่วนสำคัญอีกอย่างคือกระแสความต้องการอยากจะเปลี่ยนผู้บริหารจังหวัด และนโยบายหาเสียงที่กลั่นกรองมาอย่างดี และที่สำคัญคือจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่ชัยชนะ คือ การลงพื้นที่ของท่านอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรที่เป็นขวัญกำลังใจและเป็นที่เคารพรักของพี่น้องชาวจังหวัดมหาสารคาม จนทำให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจแล้วก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จจริงๆ
การที่อดีตนายกทักษิณลงพื้นที่ที่จังหวัดมหาสารคามก็มีผลอย่างมากเพราะว่าหลายๆสิ่งที่ท่านได้ปราศรัยบนเวทีเรียกว่าทำให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจและถือได้ว่าทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้การทำงานของ อบจ. จุดสำคัญคือต้องสอดคล้องกับการทำงานภาพรวมของรัฐบาล เพราะนโยบายของรัฐที่ออกไปก็ต้องผ่านกระบวนการของท้องถิ่น เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ มั่นใจว่าในอนาคตจังหวัดมหาสารคามจะมีการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาที่มั่นคงต่อไป
ทั้งนี้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ จำนวน 1,771 หน่วย หมายเลข 1 ไม่รับสมัคร หมายเลข 2 นางสาวสิริรัตน์ บัวมาศ ได้คะแนน 5,688 คะแนน คิดเป็น 1.39% หมายเลข 3 นางสาวเพียงตะวัน งามนาท ได้คะแนน 3,424 คะแนน คิดเป็น 0.84% หมายเลข 4 นายพลพัฒน์ จรัสเสถียร ได้คะแนน 283,485 คะแนน คิดเป็น 69.42% หมายเลข 5 นางคมคาย อุดรพิมพ์ ได้คะแนน 99,871 คะแนน คิดเป็น 24.46% และหมายเลข 6 นายภูมิเพชร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ได้คะแนน 15,917 คะแนน คิดเป็น 3.90% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 762,033 คน มีผู้มีใช้สิทธิ 453,902 คน คิดเป็นร้อยละ 59.56 บัตรดี 408,385 คิดเป็นร้อยละ 89.97 บัตรเสีย 29,022 บัตร คิดเป็นร้อยละ 6.39 และบัตรที่ทำเครื่องหมายไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด จำนวน 16,495 บัตร คิดเป็นร้อยลละ 3.63 ////////////.

