\”โจรกระจอก\” กว่า 21 ปี-\”ทักษิณ\”คัมแบ็คที่ปรึกษาอาเซียน.\”ดับไฟใต้\” หรือ\”ขยายฐานเสียง\”

\”ทักษิณ หรือ โทนี่\” คัมแบ็ค 3 จชต.ในฐานะที่ปรึกษาอาเซียน..จริงใจ \’ดับไฟใต้\’ ?..หรือเพียง \’รักษาฐานเสียงของพรรคเงา-เพื่อไทย\’กลายเป็น \’ไวรัล\’ ครึกโครม!! หลังโซเชียลทุกแพลตฟอร์มโชว์ภาพ เจ้าของวาทกรรม \’โจรกระจอก\’ สมัยเป็น \’นายกฯ\’ กับการ \’Come Back\’ ของ \’ทักษิณ ชินวัตร\’ หรือ \’โทนี่ วู้ดซัม\’ ในบทบาท \’ที่ปรึกษาประธานอาเซียน\’ ภารกิจ \’ดับไฟใต้\’ ไม่รู้จะเข็นครกขึ้นภูเขา หรือใช้วาทะศิลป์ ตัด-จบ 21 ปีกับความขมขื่นของคนรักแผ่นดินเกิดที่ไม่ยอม \’แบ่งแยก !!!!
\"\"
การลงพื้นที่ 3 จชต.ในวันนี้ ( 23 ก.พ.68 ) ของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ / รมว.กลาโหม, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และอีกหลายท่าน ปรากฏเป็นข่าวกระหน่ำทุกแพล็ตฟอร์มของโซเชียล ไม่ต้องแปลกใจเพราะเชื่อว่าทุกคนไม่พลาด รูปอดีตนายกฯไทย หราว่อนแถมกำหนดการช่วงแรก ยังมีชื่อบุคคลผู้นี้อย่างชัดเจน ว่าจะมาเยือนถิ่นปลายด้ามขวาน ในฐานะที่ปรึกษาอาเซียน คงจะจำกันได้ เจ้าของวาทกรรม \’โจรกระจอก\’ ไม่ใช่ใครอื่นไกล \’พ่อนายกอุ้งอิ้ง\’ ดันให้ลูกสาวซึ่งเป็น \’นอมินี\’ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก
\"\"
\"\"
ซึ่งภารกิจครั้งนี้ แท็คทีมลงมากันพรึ่บ โดยมี \’กำนันเพื่อน\’ คนดังของ อ.สุไหงปาดี กรุยทางไว้เสร็จสรรพ เพื่อให้ \’ทักษิณ\’ ได้เข้ากราบนมัสการ พระธรรมวัชรจริยาจารย์ (อ่อน ทนฺตจิตฺโต) หรือพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี / ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัติที่เป็นต้นแบบของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ของชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม ทำให้วัดประชุมชลธารากลายเป็นพื้นที่ต้นแบบของสังคมพหุวัฒนธรรม

จุดประสงค์ของการมา \’เหยียบ\’ แผ่นดินที่ร้อนเป็นไฟในสมัยที่เป็นนายกฯคนที่ 23 ในปี 44 – 49 ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งโดยการรัฐประหารนั้น ที่ได้ยินได้ฟังคือ \’ดับไฟใต้กว่า 2 ทศวรรษ\’ ให้มอดลง หากมองแบบผิวเผิน การที่ \’\’โทนี่ วู้ดซัม\’ โฟกัสสถานที่มาเยือนคือ โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ที่มีนายมะเเซ อูเซ็ง เป็นครูและเป็นเจ้าของแผนการปฏิวัติ โดยมีค่าหัวถึง 10 ล้านบาท ดูเหมือนพยายามหาทางไกล่เกลี่ยด้วยการพูดคุย แต่อาจจะไม่ง่ายดั่งที่หวัง
\"\"
\"\"
ขณะที่นายกฯ อัลวา นั้น จะมีความตั้งใจและจริงใจแค่ไหนต่อการช่วยไทยแก้ปัญหา \’ดับไฟ\’ ที่คุกรุ่นกว่า 21 ปี รอวันปะทุเป็นครั้งคราวไป ซึ่งไร้วี่แววว่าจะมองเห็นแสงอุโมงค์ที่ปลายทางเมื่อไหร่ เพราะการเจรจาของทั้งสองฝ่าย ทั้ง BRN.และคณะพูดคุยของไทย ต้องหยุดชะงักลงในช่วงเปลี่ยนผ่าน รัฐบาลและ ครม.ที่มีระบอบทักษิณครอบงำอยู่ ซึ่งในความเป็นจริงลึกๆของทางการไทย จากคำบอกเล่าของผู้บังคับบัญชาระดับสูงท่านนึง ระบุ เราจะคุยกับ BRN.ที่เป็นตัวจริงและเป็นตัวใหญ่เท่านั้น แต่ถ้ายังมีเหตุการณ์อยู่แบบนี้ ฝ่ายไทยจะไม่มีการเจรจา

แนวคิดของ \’ฝ่ายรัฐไทย\’ ดูเหมือนจะย้อนแย้งกับ \’ที่ปรึกษาอาเซียน\’ และดูเหมือนจะแตกต่างกับแนวคิดของ BRN.ที่ออกมาระบุว่า จะไม่มีการพูดคุย ถ้านายกฯของไทยยังเป็น \’ลูกสาวของทักษิณ\’ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ BRN.ถึงขั้นปักธงไปที่ตัวบุคคลที่จะคุยด้วย!! ในขณะที่ \’ทักษิณ\’ ยังยืนกราน..การเมืองต้องนำทหาร..ถ้าเอาทหารนำไม่จบ!!
ส่วนการไปเยือน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่มีสายสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนานระหว่างกลุ่มวาดะห์ กับ \’ทักษิณ\’ ถึงบ้านศรียะลา ต.สะเตง อ.เมืองยะลานั้น บ่งบอกถึงความชัดเจนของพรรคประชาชาติคือ \’เงา\’ หรือ \’สาขา\’ ของ \’เพื่อไทย\’ ที่ถูกบ่มเพาะก่อนงอกเงยในเวลาที่เหมาะสมในพื้นที่แห่งนี้

\"\"
\"\"
วาระสำคัญที่จะถูกหยิบยก ก็คือ นิรโทษกรรม VS คืนศักดิ์ศรี หรือแก้มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แน่นอนเป็นตัวเร่งอุณหภูมิการเมืองต่อ \’ทักษิณ\’ ที่เคยใช้แนวทาง \”นิรโทษกรรม\” ต่ออดีตผู้ก่อความไม่สงบในช่วงหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และคาดว่าจะนำกลับมาใช้อีกครั้ง
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย แต่งตั้ง \’ทักษิณ\’ เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน อาจส่งผลต่อยุทธศาสตร์ทางการเมืองของมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม \’การขยายฐานเสียง\’ ไม่ว่าจะเป็นนายอันวาร์ ของมาเลเซีย จากพรรคยุติธรรมประชาชน มีเป้าหมายพื้นที่พรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย (PAS) ซึ่งมีอิทธิพลในรัฐที่ติดกับชายแดนไทย ขณะที่ \’ทักษิณ\’ อดีตนายกฯไทยเอง ก็น่าจะจุดประสงค์เดียวกัน คือต้องการรักษาฐานเสียงของพรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นพันธมิตรของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ชายแดนใต้เช่นกัน

\"\"