โยธาธิการและผังเมืองสงขลา ตรวจสอบโครงสร้างอาคารของโรงพยาบาลหาดใหญ่ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ยืนยันตัวอาคารยังคงแข็งแรงและไม่มีรอยร้าว
จากกรณี้เหตุแผนดินไหวที่ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แรงสั่นสะเทือนส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทยในหลายพื้นที่ รวมถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่มีตึกสูงหลายแห่งที่ต้องมีการอพยพคนลงมาจากอาการสูง อาทิ โรงพยาบาลหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื่องจากเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานรับรู้ถึงแรงสั่นของตัวอาคาร ทำให้ต้องอพยพผู้ป่วย ออกจากตัวอาคารเพื่อความปลอดภัย
ล่าสุด นายไมตรี สรรพสิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความผิดปกติของโครงสร้างอาคาร ขนาด 17 ชั้น ของโรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งถูกระบุว่าในวันเกิดเหตุรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหว
โดยการเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ เพื่อดูความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารและรอยร้าวตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณผนัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ปฏิบัติงาน และผู้มาใช้บริการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดได้เดินเท้าไล่ดูสภาพอาคารแต่ละชั้นอย่างละเอียด ตั้งแต่ชั้นใต้ ดิน จนถึงชั้น 17 และบริเวณอาคารจอดรถ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า โครงสร้างอาคาร 17 ชั้น หลังนี้ เป็นไปตามมาตรฐานกรมโยธาธิการฯ และยังคงมีความมั่นคงแข็งแรง โครงสร้างหลัก เสา คาน ตัวอาคาร ไม่พบรอยร้าวหรือความเสียหายที่มาจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว มีเพียงรอยแตกร้าวเล็กน้อยที่เกิกจากสภาพของผิวอาคารที่มีอยุ่เดิมตามการใช้งาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าสามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ แต่ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้างแน่นอน
โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา กล่าวอีกว่าจากนโยบายของกรมโยธาธิการ ที่สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตัวอาคารของภาครัฐทั้งหมด โดยเน้นตรวจสอบ อาคารสำนักงาน สถานพยาบาล อาคารสาธารณะ อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารที่คนอยู่รวมกันตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป และอาคารที่จอดรถตั้งแต่ 10 ชั้นขึ้นไป
ส่วนอาคารของภาคเอกชน ให้เจ้าของอาคารจัดหาทีมวิศวะกรเข้าตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย แต่หากไม่มีทีมวิศวะกร ก็สามารถแจ้งเรื่องมายังโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้ โดยสามารถแจ้งไปที่เว็บไซต์กรมโยธาธิการ ที่เปิดให้มีการลงทะเบียนไว้ได้
นายไมตรี สรรพสิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนโครงการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการตุลาการ ที่ จ.สงขลา ซึ่งอาคารดังกล่าวมี บริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในกิจการร่วมค้าเป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง จำนวน 72 หน่วย และอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม จำนวน 98 หน่วย พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ทำสัญญาเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2564 วงเงินค่าก่อสร้างตามสัญญา 386,000,000 บาท นั้น ทางทีมได้ลงพื้นที่ไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อขอทำการตรวจสอบเบื้องต้น แต่ทางจากโครงการแต่ไม่อนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ในโครงการก่อสร้างระบุว่า หากจะเข้าตรวจสอบให้ทำเรื่องประสานไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบก่อนเข้า