วันที่ 22 เมษายน 68 ที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ผู้เสียหายกว่า 20 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุข ผกก.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ อักษรสม รอง ผกก.(สอบสวน) เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.แก้วตา (สงวนนามสกุล) คนร้ายที่ได้ฉ้อโกงเงินผู้เสียหายไป โดยใช้วิธีการหลอกขายตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาถูกเส้นทางภายในประเทศ และต่างประเทศ และยังได้หลอกขายห้องพักโรงแรมในราคาถูกด้วย จนมีผู้เสียหายที่เป็นทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน คนรู้จัก ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายราย ที่อยู่บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ และจ.เชียงราย หลงเชื่อถูกหลอกเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายร่วม 10 ล้านบาท
น.ส.แอน หนึ่งในผู้เสียหายได้แฉพฤติกรรมการหลอกลวงของน.ส.แก้วตา ว่า น.ส.แก้วตา ได้ติดต่อผู้เสียหายว่ามีตั๋วเครื่องบินสายการบินแห่งหนึ่ง แบบฟูลเซอร์วิส ไปประเทศญี่ปุ่นราคาถูกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางบ้านได้ซื้อไว้กับ น.ส.มะนาว ที่อ้างว่าเป็นญาติกับ น.ส.แก้วตา และเป็นเจ้าหน้าที่เซลล์ของสายการบินดังกล่าว นำตั๋วมาจำหน่ายในราคาพนักงาน โดยแจ้งว่าไม่สามารถขายให้กับคนนอกได้ ต้องเป็นเพื่อนและญาติเท่านั้น ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงตัดสินใจซื้อไป 3 ใบ ใบละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 21,000 บาท เมื่อถึงวันเดินทางก็สามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่ขากลับจากที่จองที่นั่งไว้แล้ว กลับไม่มีการจองไป ทำให้ผู้เสียหาย สามี และบุตร ต้องแยกที่นั่งกัน
ต่อมา น.ส.แก้วตา ได้ทักมาขายตั๋วเรื่อย ๆ ผู้เสียหายจึงได้จองไป 3 ใบ โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าจองแบบระบุวันเดินทาง ราคา 19,500 บาทต่อใบ แต่ถ้าจองแบบเปิด Open date Open time จะเป็นราคา 23,500 บาทต่อใบ ผู้เสียหายจึงได้จองแบบเปิด จำนวน 3 ใบ รวมเป็นเงิน 70,500 บาท โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของ น.ส.จุฑารัตน์ (สงวนนามสกุล) หลังจากนั้นครอบครัวผู้เสียหายอยากเดินทางไปญี่ปุ่นอีก จึงได้จองตัวกับ น.ส.แก้วตา และน.ส.มะนาว อีกจำนวน 10 ใบ ใบละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 70,000 บาท สามารถบินได้ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 68 และเพื่อนผู้เสียหายเห็นว่าได้ตั๋วราคาถูก จึงฝากให้จองอีก 6 ใบ น.ส.มะนาว แจ้งว่าได้ตั๋วราคา 8,500 บาท รวมเป็นเงิน 51,000 บาท โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของ นายสิทธิพงษ์ (สงวนนามสกุล) และสามารถบินได้ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 68 เช่นกัน โดยเปิด Open date Open time ไว้
และ น.ส.แอน ผู้เสียหาย ยังได้จองตั๋วเครื่องบินกับ น.ส.มะนาว เดินทางไปเซี่ยงไฮ้วันที่ 1 เมษายน 68 จำนวน 6 ใบ ใบละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 42,000 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.แก้วตา เนื่องจาก น.ส.มะนาวแจ้งว่าได้ตัดบัตรเครดิต น.ส.แก้วตาไปแล้ว แต่ก่อนการเดินทางก็ทราบเรื่องการผิดพลาดการจองตั๋วของผู้เสียหายคนอื่นที่บินไม่ได้ ทำให้ น.ส.แอน ผู้เสียหาย รู้สึกแปลก ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะยังไม่ได้ตั๋วเครื่องบินแบบอิเล็กทรอนิกส์ กระทั่งวันที่ 31 มีนาคม 68 ก่อนการเดินทาง 1 วัน น.ส.แก้วตาก็ยืนยันว่าเดินทางได้ โดยได้ประสานงานผ่าน น.ส.กุ๊กไก่ หัวหน้าของ น.ส.มะนาว แล้ว แต่ห้ามผู้เสียหายไม่ต้องเข้าไปที่สนามบินเพราะจะทำให้ น.ส.แก้วตา น.ส.มะนาว และน.ส.กุ๊กไก่ เดือดร้อน แต่พอเวลาผ่านไปจนถึง 17.00 น. ก็ยังไม่มีความคืบหน้า คิดว่าโดนหลอกแน่ ๆ จึงตัดสินใจโทรสอบทางทางสายการบิน จนทราบว่าเป็นตั๋วหลอก ไม่มีการจำหน่ายตั๋วโปรโมชั่นประเภทเพื่อนและครอบครัว และพนักงานที่ชื่อ น.ส.ปนัดดา หรือมะนาว ไม่มีตัวตน หลังจากนั้น น.ส.แอน ผู้เสียหาย ได้เผยแพร่เรื่องราวลงในสื่อโซเชียล จนทราบว่ามีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อถูก น.ส.แก้วตา หลอกขายตั๋วโดยสารเครื่องบินและที่พักโรงแรม คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 50 ราย จึงได้นัดรวมตัวมาแจ้งความไว้ที่ สภ.บ่อผุด และในพื้นที่อื่น ๆ ที่ผู้เสียหายอาศัยอยู่ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.แก้วตา ในข้อกล่าวหา \”ฉ้อโกงประชาชน\”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า น.ส.แก้วตา ผู้ก่อเหตุ เคยทำงานเป็นพนักงานโรงแรมระดับ 5 ดาวในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จ.ภูเก็ต และจ.เชียงราย ปัจจุบันไม่ได้ทำงาน ที่บ้านประกอบธุรกิจให้บริการรถรับส่งลูกค้าตามโรงแรม หลังจากที่ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความ ไม่มีใครพบหรือสามารถติดต่อน.ส.แก้วตาได้อีกเลย คาดว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่เกาะสมุยไปแล้ว
ล่าสุด พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุข ผกก.สภ.บ่อผุด พร้อม พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ อักษรสม รอง ผกก.(สอบสวน) นำพนักงานสอบสวนรับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว เบื้องต้นได้ดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย และนัดหมายมาสอบปากคำเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป