วันที่ 19 ก.พ.68 พลตรี อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายจากพื้นที่ชายแดนกาญจนบุรี เข้ามายังพื้นที่ตอนใน บริเวณห้วยซองกาเรีย จึงได้สั่งการให้ พันเอก พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ โดย พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134, สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี และฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี ลาดตระเวนเฝ้าตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ บริเวณ ท่าน้ำลงเรือ บ.วังกะ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ สังเกตพบกลุ่มบุคคลคาดว่าจะเป็นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองหลบซ่อนอยู่ บริเวณ เกาะใกล้วัดจมน้ำ ม.1 ต.หนองลู อ. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลลักษณะคล้ายต่างด้าว จำนวน 118 คน พร้อมด้วยกระเป๋าสัมภาระ นั่งรวมกลุ่มหลบซ่อนเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณชายป่า เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ทำการควบคุมกลุ่มบุคคลดังกล่าวไว้ทั้งหมด และแสดงเจตนาขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าว ไม่สามารถแสดงเอกสารที่ทางราชการออกให้ได้ และไม่สามารถฟังและพูดสื่อสารภาษาไทยได้ จึงนำตัวส่งต่อ สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
จากการสอบถาม กลุ่มผู้หลบหนีเข้าเมืองฯ เปิดเผยว่า พวกตนต้องการหลบหนีเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ จึงเดินทางหลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อเข้ามาทำงานในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย โดยจะเสียค่าจ้างให้กับนายหน้าเมื่อถึงปลายทาง จำนวน 25,000 บาท แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน.