( 21 ม.ค.68) พันตำรวจตรี โจ เสาร์ประโคน สารวัตรตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.) พร้อมด้วยชุดจับกุมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองกาญจนบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัวแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมาย 13 คนเป็นชาวเมียนมา เป็นชาย 5 คนเป็นหญิง 6 คน มีเด็กชายอายุ 4 ปี 1 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 7 ปี 1 คน มีโทรศัพท์มือถือทุกคน ไม่พบกระเป๋าสัมภาระแบบที่เคยมีการจับกุม มีแต่กระเป๋าคาดเอวกระเป๋าใบเล็กๆ คาดว่าน่าจะมีรถอีกคันสำหรับขนกระเป๋าสัมภาระ มีหลบหนีไปได้ 2-3 คน
สืบเนื่องจากหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงไทรโยค ออกตรวจบนเส้นทางรับผิดชอบ ออกสืบสวนหาข่าวการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงแยกสัญญาณไฟท่าน้ำตื้น ขาเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี ถนนสาย 323 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ เชฟเรเลต รุ่น เทรลเบลเซอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร มีลักษณะต้องสงสัยบรรทุกสิ่งของหนัก โดยสังเกตุรถยนต์มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ สอดคล้องต้องสงสัยว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการขนย้ายแรงงานต่างด้าว จึงได้แจ้งระดมหน่วยตำรวจทางหลวงและชุดจับกุมติดตามสกัดจับ
โดยรถวิทยุ 2616 ที่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด ได้ใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟน เพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุด จึงได้เร่งความเร็ว ใช้เส้นทางไปสี่แยกสัญญาณไฟท่าน้ำตื้น เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าสามแยกท่าพะเนียด ถนนสาย 3199 แล้วเลี้ยวขวามุ่งบ่อพลอย ถนนสาย 3398 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยซ้ายมือหน้าวัดเนินพระงาม ม.4 บ้านหนองสองตอน ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี วิ่งสุดทางคอนกรีตขับหนีบนถนนทางดินลูกรังฝุ่นตลบ แล้วรถเกิดเสียหลักพุ่งชนเสารั้วที่ดินจนรถไม่สามารถไปต่อได้
คนขับและชาวเมียนมาบางส่วนวิ่งหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจค้นปรากฏว่าพบ ผู้ต้องหาที่ 1-11 พร้อมผู้ติดตาม 2 คน นั่งอยู่ภายในรถบริเวณด้านหน้าและที่นั่งด้านหลังผู้ขับขี่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ให้ผู้ต้องหาที่ 1-11 แสดงเอกสารประจำตัว ตรวจสอบไม่พบเอกสารยืนยันตัวตนที่ราชการออกให้ สอบถามผู้ต้องหาที่ 1-11 ให้การว่าบุคคลต่างด้าวทั้งหมด ได้ขึ้นรถยนต์คันดังกล่าวมาจากบ้านเจดีย์สามองค์ ต.วังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ไม่ทราบจุดที่ขึ้นรถยนต์ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และเพิ่งเดินทางเข้ามาเป็นครั้งแรก โดยเสียค่านำพาคนละ 16,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1-11 และผู้ติดตาม 2 คน พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน เป็นความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และทำการจับกุมตัวพร้อมนำ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป