อยุธยาสุดคึกคัก อนุทินชวนช๊อปชิม OTOP ภูมิภาค 2568

\"\"

\”อนุทิน\” เที่ยวชมงาน OTOP ภูมิภาค 2568 เมืองกรุงเก่า ชื่นชมยอดจำหน่ายสินค้าชุมชนทะลุเป้าหมาย เชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมงานถึง 7 พ.ค. 68 ที่ลานข้างวัดพระราม\"\"

วันที่ 5 พ.ค.68  เวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย    น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล  อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน  นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร  ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เที่ยวชมงาน OTOP ภูมิภาค ประจำปี 2568 ครั้งที่ 5 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้แนวคิด “OTOP ช้อปสนุก สุขทุกภาค” ณ ลานข้างวัดพระราม (เต็นท์โดมติดแอร์) อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา พร้อมให้กำลังใจผู้ประกอบการ พบปะนักท่องเที่ยว และรับประทานอาหาร บริเวณร้าน OTOP ชวนชิม โดยเลือกเมนูข้าวราดแกง ครัวพิทักษ์ ฟาร์ม จังหวัดอ่างทอง และข้าวขาหมู ยิ่งเจริญ
จ.นครปฐม\"\"

สำหรับงาน OTOP ช้อปสนุก สุขทุกภาค ปี 2568 ครั้งที่ 5 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 7 พ.ค. 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ลานข้างวัดพระราม (เต็นท์โดมติดแอร์) อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา โดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย คัดสรรค์สุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP ที่สะท้อนเสน่ห์ของสินค้าท้องถิ่นและภูมิปัญญาไทย กว่า 300 ร้านค้า จากทั่วทุกภาคของประเทศไทย  ทั้งประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่ง สมุนไพร โดยเฉพาะในโซน \”OTOP ชวนชิม\” จะได้ลิ้มรสสุดยอดเมนูขึ้นชื่อ และยังจะได้พบกับกิจกรรมสุดพิเศษตลอดทั้งวัน อาทิ การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่นและกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ OTOP การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านหมุนเวียนทุกวัน และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง\"\"\"\"

ทั้งนี้ นายอนุทิน  ได้กล่าวชื่นชมกรมการพัฒนาชุมชน ตลอดจนถึงทุกจังหวัดที่เป็นพื้นที่จัดงาน คือ อุดรธานี บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ ที่ในขณะนี้สามารถจำหน่ายสินค้า OTOP ในงาน OTOP ภูมิภาค รวมตลอด 4 ครั้งที่ผ่านมา ทะลุเป้ายอดจำหน่ายที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาท และยังได้รับทราบว่า เฉพาะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มียอดจำหน่ายแล้วกว่า 20 ล้านบาท สร้างรายได้หมุนเวียนเม็ดเงินเหล่านี้ก็จะได้กลับไปสู่พี่น้องประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ เงินทองไม่ไหลออกนอกประเทศ และที่สำคัญสินค้าที่นำมาจำหน่ายล้วนเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ทำจากฝีไม้ลายมือของคนไทย และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาจับจ่ายใช้สอยภายในงานได้ถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นี้\"\"

โดยในวันเปิดงาน ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “OTOP ภูมิภาค 2568 จ.พระนครศรีอยุธยา” โดยมีนายเกียรติปราโมทย์ ฉายศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายมานัส ทรัพย์มีชัย อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา นางณิชา สอนดี ประธานหอการค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสิงห์ชัย เรืองขจร ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนาย ให้การต้อนรับ โดยมีนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนการค้าจากภูฎาน นายประจัญ จันทร์เนตร์ พัฒนาการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยผู้อำนวยการกลุ่มงาน เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ กลุ่ม/องค์กร เครือข่ายพัฒนาชุมชน ร่วมพิธี มีผู้ประกอบการ OTOP นักท่องเที่ยว และประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก\"\"

ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานรากมาอย่างต่อเนื่อง และโครงการ OTOP ถือเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน งานนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ แต่ยังเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทยสืบไป จึงอยากขอเชิญชวนประชาชนทุกท่าน มาร่วมช้อป ชิม ชม เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนมีอาชีพ มีงานทำ สร้างรายได้\"\"

นายสยาม ศิริมงคล  กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน “OTOP ภูมิภาค 2568”  กำหนดจัดงานรวม 5 ครั้งๆ ละ 7 วัน ใน 5 จังหวัด  โดยวันที่ 1-7 พฤษภาคม นี้ เป็นการจัดงานในครั้งที่ 5 เป็นครั้งสุดท้ายของปี 2568 แล้ว โดยผลตอบรับจากการดำเนินกิจกรรมใน 4 ครั้งที่ผ่านมา  มีประชาชนมาร่วมงานอย่างคับคั่ง  ทำให้ตอนนี้มียอดจำหน่ายสะสมจากการจัดงานทั้ง 4 ครั้ง รวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 113 ล้านบาท\"\"

นายเกียรติปราโมทย์ ฉายศรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับความไว้างใจให้มีส่วนร่วมในการจัดงาน \”OTOP ภูมิภาค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา\” ซึ่งเป็นโครงการที่สำคัญของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในการยกระดับศักยภาพของชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัตภัณฑ์ หรือ OTOP ซึ่งถือเป็นกลไภลสำคัญในการสร้างทน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนการจัดงานในวันนี้ นอกจากจะเป็นเวทีในการแสดงผลงานของผู้ประกอบการชุมชนแล้วยังเป็นการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และเปิดช่องทางการตลาดใหม่ๆ อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น\"\"