ตร.ภาค1 สืบอยุธยาจับชิงทอง 160 บาทได้แล้ว

\"\"พระนครศรีอยุธยา-ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงรวบแล้วคนร้ายชิงทอง 160 บาท   กลางห้างดังอยุธยาได้แล้ว  หลังหนีกบดานจังหวัดข้างเคียง ได้ของกลางครบทุกรายการ\"\"\"\"

วันที่ 27 มีนาคม เวลา 11.00 น.ที่ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา    พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา  พ.ต.อ.ชนันท์ เปรมปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา พ.ต.อ.พีรพัสส์ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี (ทหารยศ พ.จ.อ.)  หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณห้างทอง  ภายในห้างสรรพสินค้า ริมถนนสายเอเชียขาออก ต.เชียงรากน้อย บางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป คือ สร้อยคอทองคำรวมทั้งสิ้นน้ำหนัก 160 บาท มูลค่าประมาณ 7.8 ล้านบาท เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มี.ค. 68 จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยกล้องวงจรปิด จนพบความเคลื่อนไหวว่า มีรถยนต์กระบะมาจอดไว้ก่อนเกิดเหตุ และช่วงเกิดเหตุสืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอนุมัติหมายจับ นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี (ทหารยศ พ.จ.อ.)ในข้อหา  1. ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่เห็น หรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกลุ่ม  2. พกพาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยอนุญาตให้มีวุฒิปืนติดตัวไป เว้นแต่กรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันสมควร\"\" \"\"

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าว พร้อมตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากประชาชน ทำให้ทราบว่า ก่อนลงมือก่อเหตุ คนร้ายได้ชับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ไปจอดทิ้งไว้ในบ้างทางริมถนนสายเอเชีย ห่างจากห้างที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. และเดินเท้ามายังห้างแล้วลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ทองรูปพรรณจากร้านทองภายในห้างดังกล่าว หลังเกิดเหตุคนร้ายได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปยังจุดที่จอตรถทิ้งไว้ แล้วขับรถหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่อาคารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่เขตสายไหม กรุงเทพฯ ต่อมาในวันที่ 26 มี.ค.68 เวลาประมาณ 21.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.ต.วรชาติ  แสนคำ ผบก.สส.ภ.๑ ได้เข้าตรวจค้นภายในห้องพักที่คนร้ายมาพักอาศัยดังกล่าว โดยเป็นเหตุฉุกเฉิน ซึ่งหากไม่ค้นทันทีพยานหลักฐานจะสูญหายหรือถูกทำลาย ประกอบกับนายพด (นามสมมติ) อายุ ๙๔ ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในห้องสมัครใจให้เข้าไปทำการตรวจคันโดยเป็นผู้นำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางอยู่ภายในห้อง พบสร้อยคอทองคำ จำนวน 12 เส้น ซึ่งมีดำหนิรูปพรรณตรงกับที่ถูกคนร้ายชิงทรัพย์ไป   อาวุธปืนแบบรีวอลโว่ ขนาด .38 มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก  เสื้อผ้า รองเท้า และหมวกที่ตรงกับของคนร้ายใช้สวมใส่ในวันที่มาก่อเหตุ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา จำนวน 1 คัน  พร้อมของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ\"\"\"\"

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1   เปิดเผยว่า   แนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าชุดสืบสวนปูพรหม จำลองเหตุการณ์จากจุดที่วินจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งผู้ต้องหา รินถนนสายเอเชียขาเข้าอยุธยาก่อนถึงพอร์โตโก บางปะอิน ซึ่งเป็นจุดที่มืดสนิท และไม่มีกล้องวงจรปิด พยานบุคคลพบเห็นรถกระบะ มาจอดซุกอยู่ริมถนนทางลงทุ่งนา 16.30 น พยานเห็นจอดผิดสังเกตุจึงลงไปดู และได้ทะเบียนรถไว้ ชุดสืบสวนจึงได้ตรวจสอบเส้นทางของรถคันดังกล่าว ขับเข้าไปยังกรุงเทพฯและพบว่าได้เข้าไปจอดในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี จึงได้ขอหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าทำการตรวจค้น บ้านพักในค่ายทหาร พบรถต้องสงสัยจอดอยู่ พบพันจ่าอากาศเอกวรพจน์ จึงตรวจสอบในบ้านพักพบทองรูปพรรณ  และอาวุธปืนได้ของกลางกลับคืนมาครบทั้ง 12 เส้น\"\" \"\" \"\"