ราชบุรี ในวันนี้ (8 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านขายของชำชื่อ สิรีธร (ดรีม) ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 261 ม.2 ต.ดอนคลัง อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ว่ามีโจรเข้าไปขโมยของเกือบทุกวัน โดยดูจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังไป 30 วันพบว่าไม่ได้เข้ามาขโมยเงินแค่ 3 วัน นอกนั้นเข้ามาทุกวันรวมกว่า 20 ครั้ง ได้เงินไปมากกว่า 1 แสนบาท และยังไม่รวมข้าวของเครื่องใช้ที่เอาไปและยังมีเงินทอนที่ทางหัวขโมยนำธนบัตรใบละ 1,000 บาทที่ขโมยไปเอามาจ่ายด้วย จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวได้ช่วยนำเสนอข่าวเพื่อเป็นอุธาหรณ์และแจ้งเตือนร้านค้าด้วยกัน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบนางติ๋ม อัตวัฒนา อายุ 68 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว ก็เล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าเงินหายเลย เพราะไม่ได้นับเงินรู้แต่ว่าขายของแล้วไม่มีกำไร จนมารู้สึกเอะใจเมื่อมีเงินก้อนหายไปกว่า 1หมื่นบาท จึงคิดว่าหลานชายเป็นคนขโมยเงินไปเพราะในร้านช่วงนั้นอยู่กับหลานชายแค่ 2 คน จึงไปบอกน้องสาวว่าหลานชายขโมยเงินทำให้หลานชายแอบไปนั่งร้องไห้ และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 เ.ม.ย. ที่ผ่านมา สามีของตนมองเข้ามาในร้านและเห็นจากกระจกตู้แช่เย็นว่ามีคนเปิดลิ้นชักเงิน จึงได้ให้หลานชายมาเปิดกล้องวงจรย้อนหลังก็พบว่ามีลูกค้าซึ่งเป็นคนใกล้บ้านรู้จักสนิทสนมกันดี และจะมาซื้อของช่วงเช้าทุกวัน และเมื่อเปิดกล้องดูไปจนถึงวันที่ 7 มี.ค. เพราะกล้องวงจรจะเก็บภาพไว้ประมาณ 1 เดือน ก็พบว่ามาขโมยเงินทุกวันเว้นแค่ 3 วัน ซึ่งมียอดมากสุดคือ 16,000 บาท เพราะเป็นเงินที่สามีกับหลานไปเอามาและนับเก็บไว้ในกระเป๋าจึงทำให้รู้ยอด แต่วันอื่นๆนั้นน่าจะวัน 2-3 พันบาท ซื้อมาของที่ร้านนานเกือบปีแล้ว โดยจะเข้ามาหาหยิบของที่ต้องการมากองไว้บนโต๊ะเพื่อให้คิดเงินแต่จะขอให้ช่วยหยิบปลาทูสด ซึ่งที่ร้านจะแพคแล้วแช่ตู้เย็นไว้พอหันหลังไปหยิบหัวขโมยก็เปิดลิ้นชักหยิบงินที่ตนมองไม่เห็นเพราะมีตู้แอร์ใหญ่บังไว้ จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่มาซื้อของ ช่วงแรกๆก็ท้อเพราะของก็ขายดีแต่ไม่มีกำไรเลย ต้องไปขอยืมเงินลูกมาลงทุนเพิ่มอีก ซึ่งหากเงินไม่หายก็ยังพอจะหมุนได้ จึงอยากเตือนไปยังร้านค้าอื่นๆให้ระวังอย่าไว้ใจคนสนิทเพราะเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร และอยากจะให้หัวขโมยรายนี้ซึ่งรู้จักและสนิทกันได้นำเงินมาคืนให้ตนเองบ้าง และพอหลังจากทราบว่าหัวขโมยรายนี้เป็นใครทางลูกเขยก็เลยแกล้งหลอกล่อไปโรงพักเพื่อไปแจ้งความ และจะไม่ขายของให้ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
ด้านพ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.ดำเนินฯ ได้ให้ข้อมูลว่า ทางผู้เสียหายได้เชิญตัวหัวขโมยรายนี้มาพบพนักงานสอบสวน โดยทางผ็ต้องหาก็ยอมรับสารภาพทุกอย่าง จึงได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดและให้รับทราบข้อกล่าวหา โดยตั้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้ยานพาหนะ และจะนัดส่งฟ้องอัยการ อีกครั้ง