วอนช่วยหนูน้อยวัย 6 เดือนถูกแม่ทิ้งป่วยหลายโรคต้องอยู่กับพ่อทำงานไม่ได้

\"\"

ราชบุรี    ในวันนี้ ( 30 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางปราณี  เขียววงษ์  อายุ 76 ปี ประธานอสม.หมู่ 8  ชุมชนบ้านตะโกล่าง  ต.สวนผึ้ง  อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี  ว่ามีครอบครัวยากจนเป็นชาวกระเหรี่ยงที่เกิดในประเทศไทย  พ่อต้องเลี้ยงลูกคนเดียว 3 คน เพราะแม่ของเด็กทิ้งไปตั้งแต่ลูกชายคนเล็กเกิด  และลูกชายคนเล็กซึ่งอายุได้เพียง 6 เดือน ก็ป่วยหลายโรคทั้งโรคหัวใจโต  ตับรั่ว  ลูกอัณฑะใหญ่ผิดปกติ  และน้องยังต้องเจาะคอเพื่อช่วยในการหายใจเพิ่งจะกลับมาอยู่ที่บ้านพียงแค่ 2 อาทิตย์ เนื่องจากที่ผ่านมานั้นเด็กนอนอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่แรกเกิด  และเมื่อกลับมาอยู่บ้านพ่อก็จะต้องเป็นคนเลี้ยงดูลูกตลอด 24 ชั่วโมง เพราะลูกต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและต้องคอยดูดเสมหะออกจากคอ  ทำให้ไม่สามารถไปหางานทำได้จึงไม่มีรายได้อะไร  ชาวบ้านรวมทั้งเจ้าหน้าที่ อสม.ของหมู่บ้านต้องช่วยกันนำข้าวปลาอาหารมาให้บ้าง  แต่ส่วนใหญ่ต้องไปขอแบ่งข้าวที่สำนักสงฆ์เริ่มชัยซึ่งอยู่ใกล้บ้านมาให้ครอบครัวนี้ได้กินพอประทังชีวิต  จึงอยากให้มีผู้ใจบุญเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวนี้บ้าง  หลังทราบเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

\"\"

พบว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นอยู่ริมชายแดนอำเภอสวนผึ้ง  ซึ่งห่างจากตัวอำเภอสวนผึ้งประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นบ้านไม้ยกพื้นพบนายก้วย  สระศรี  อายุ 30 ปี กำลังนั่งดูแลเด็กชายกิตติ  สระศรี  อายุ 6 เดือน อยู่ไม่ห่างโดยที่คอของหนูน้อยนั้นถูกเจาะเพื่อช่วยในการหายใจรวมทั้งดูดเสมหะออกจากคอและมีถังอ๊อกซิเจนวางอยู่  ส่วนที่นอนของเด็กก็จะใช้ผ้าห่มหนาๆมาพับวางแทนเบาะรองนอน  นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงวัย 7 ปี และ 6 ปี  ซึ่งเป็นลูกสาวของนายก้วยอยู่ในบ้านอีก 2 คน  ซึ่งสภาพความเป็นอยู่นั้นค่อนข้างลำบาก

\"\"

โดยนายก้วย  ได้ล่าให้ฟังว่าแม่ของเด็กนั้นทิ้งไปตั้งแต่คลอดลูกคนเล็ก  ซึ่งตนนั้นมีลูกทั้งหมด 4 คน เป็นผู้หญิง 3 คน ส่วนน้องกิตติ นั้นเป็นลูกคนเล็ก ซึ่งในช่วงที่เกิดมาน้องกิตติก็ต้องอยู่โรงพยาบาลมาตลอดเพราะป่วยหลายโรค  ซึ่งตนนั้นต้องคอยไปดูแลที่โรงพยาบาลตอลดเพราะแม่ของเด็กพอคลอดน้องได้แค่  3 วันก็ทิ้งลูกไปและในช่วงที่ตนนั้นไปคอยดูแลน้องกิตติที่โรงพยาบาล แม่ของเด็กก็มาขโมยลูกสาวคนที่ 3 ไป  ส่วนลูกสาวอีก 2 คน ที่เหลือก็จะฝากให้คนข้างบ้านได้ช่วยดูแล   และเมื่อน้องกิตติต้องกลับมาอยู่บ้านเพราะ ทางอสม.นั้นช่วยจัดหาเครื่องช่วยหายใจและถังอ๊อกซิเจนมาให้ ประกอบทางโรงพยาบาลได้สอนวิธีในการดูแลน้อง  ทั้งเรื่องของการดูดเสมหะ การใช้เครื่องช่วยหายใจ รวมทั้งเรื่องของการทำความสะอาดน้องมาแล้ว  ทุกวันนี้ต้องคอยดูแลลูกตลอด 24 ชั่วโมง ไม่สามารถออกไปทำงานได้จึงไม่มีรายได้อะไร จึงตัดสินใจขายรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นอยู่ทุกวันไปในราคา 3000 บาท เพื่อนำเงินมาดูแลครอบครัวแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ นานแค่ไหนเพราะน้องกิตติมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างทั้งค่านม ค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป รวมทั้งต้องจ้างรถออกไปนำถังอ๊อกซิเจนออกไปเติม  ทุกวันนี้ก็จะมีแต่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อสม.มาคอยดูแล  แต่ก็ไม่เคยท้อเพราะรักลูกชายคนนี้มาก จะขอดุแลลูกไปจนกว่าจากกันและหากแม่ของเด็กจะกลับมาก็คงจะไม่เอาแล้วจะขอเลี้ยงดูลูก 3 คนเพียงลำพัง  แต่หากจะมีผู้ใจบุญได้มาช่วยเรื่องของข้าวสาร อาหารแห้ง หรือผ้าสำเร็จให้กับลูกชายบ้างก็ยินดี

\"\"

ด้านนางปราณี  เขียววงษ์  อายุ 76 ปี ประธานอสม.หมู่ 8  ชุมชนบ้านตะโกล่าง  ก็บอกว่าพอทางโรงพยาบาลประสานมาว่าจะต้องให้เด็กชายกิตติกลับมาอยู่บ้านแต่ต้องมีถังอ๊อกซิเจนเพื่อช่วยในการหายใจ รวมทั้งจะต้องมีความสะอาดเพียงพอ  จึงได้มาช่วยกันจัดเก็บบ้านทำความสะอาดและช่วยกันหาถังอ๊อกซิเจนมาให้ ส่วนเรื่องอาหารนั้นก็จะไปขอมาจากสำนักสงฆ์เริ่มชัย  แต่ตอนนี้เริ่มมีพระมากขึ้นทำให้ข้าวที่บิณฑบาตรมาไม่เพียงพอ จึงได้ขอเรี่ยไรเงินจากกลุ่มอสม.ด้วยกันและชาวบ้านมาได้ก็นำไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไว้ให้ครอบครัวนี้กิน  ซึ่งในพื้นที่นั้นส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกระเหรี่ยงซึ่งมีฐานะยากจนก็ช่วยพอที่จะช่วยกันได้  แต่ถ้าหากมีผู้ใจบุญมาช่วยเหลือในเรื่องของค่าใช้จ่ายคือส่วนใหญ่จะเป็นค่าไฟฟ้าหรือของใช้เด็กอ่อน รวมทั้งข้าวสารอาหารแห้ง  ซึ่งสามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์  080-9268254  ป้าเล็ก  หรือจะบริจาคได้ที่ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี  บัญชีฝากเผื่อเรียก    020461551309 ชื่อบัญชี นายก๊วย สระศรี หรือ นางปราณี เขียววงษ์ หรือ นาย สุรเดช สมไทย   แต่หากผู้ใจบุญจะนำสิ่งของมาบริจาคสามารถนำไปให้ไว้ได้ที่ว่าการอำเภอสวนผึ้ง  โดยแจ้งว่าจะนำสิ่งของมาให้น้องกิตติ  เนื่องจากเส้นทางเข้าบ้านของน้องนั้นไกลและค่อนข้างลำบาก หรือติดต่อไปได้ที่นายอดุลย์  ถาวรกุล  นายอำเภอสวนผึ้ง 085-1795321

\"\"\"\"