แพทย์แนะ “เด็กแรกเกิด-8เดือน” ควรรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ลดความเสี่ยงโรคทางเดินหายใจ
กรุงเทพฯ – (6 มี.ค. 2568) โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลายองค์กร รณรงค์ป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวีในเด็กทารก โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย (PIDST) ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย และราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (RCPedT) เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจสู่สาธารณชนไทยและนานาชาติ เพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสอาร์เอสวี ในการนี้ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธีฯ คร้ังนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณการว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ทั่วโลก ติดเชื้ออาร์เอสวี 33.8 ล้านราย/ปี และเสียชีวิต 160,000 ราย และ 2 ใน 3 ของเด็กทารกและเด็กเล็กทั่วโลก มีระบบทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี แม้ว่าโรคติดเชื้ออาร์เอสวีเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย โดยเฉพาะทารกทุกคนที่อายุต่ำกว่าหนึ่งปี ไม่ว่าจะเกิดก่อนกำหนด หรือเกิดมาแข็งแรงครบกำหนด ล้วนมีความเสี่ยงสูงสุดต่อการติดเชื้ออาร์เอสวีอย่างรุนแรง และมักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
จากสถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหาการติดเชื้ออาร์เอสวี ได้ก่อให้เกิดภาระโรคที่สำคัญโดยเฉพาะในทารก ด้วยความเป็น โรคติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ ที่พบได้บ่อย จึงมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา โดยมีอาการต่างๆ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูกไหล และเจ็บคอ โรคติดเชื้ออาร์เอสวี ต่างจากไข้หวัดธรรมดาตรงที่สามารถลุกลามอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นการติดเชื้อในปอดที่รุนแรง และก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หลอดลมฝอยอักเสบหรือปอดอักเสบ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยร้อยละ 90 ของทารกและเด็กเล็กจะติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีภายใน 2 ขวบ
แพทย์หญิงสุรางคณา เตชะไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับเด็ก มีความมุ่งมั่นที่อยากให้เด็กทุกคนเติบโตอย่างแข็งแรง และมีสุขภาพดีตั้งแต่เกิด ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย Smart Hospital กับความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ พร้อมการดูแลสุขภาพเด็กอย่างครบวงจรสู่มาตรฐานสากล
ในโอกาสเปิดอาคารโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ร่วมกับซาโนฟี่ เปิดโครงการรณรงค์ ‘Together Against RSV’ และ ศูนย์การวินิจฉัย รักษาและป้องกันการติดเชื้ออาร์เอสวีครบวงจร เป็นสถานพยาบาลแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะได้มีภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ป้องกันการติดเชื้ออาร์เอสวีในทารก เป็นก้าวสำคัญในวงการแพทย์เด็ก
สำหรับ ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Nirsevimab -เนอร์ซีวิแมบ) นี้ จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ ลดความเสี่ยงของโรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี รวมถึงป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัส อาร์เอสวี เช่น ปอดอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น จะช่วยทำให้เด็กไทยมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง อยากเห็นเด็กโตไปสุขภาพดีและโตไปไม่ป่วย
การสร้างความตระหนักรู้ หรือ Together against RSV ในประเทศไทย ถือว่าเป็นก้าวสําคัญสําหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้ร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สมาคมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เพื่อป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวีในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการจัดการกับความท้าทายด้านสุขภาพที่สําคัญที่เกิดจากโรคติดเชื้ออาร์เอสวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อทารกอย่างเป็นรูปธรรมในการปกป้องทารกไทยทุกคนจากโรคติดเชื้ออาร์เอสวี ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คน
ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวถึงบทบาทสําคัญของการให้ความรู้และการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยรุนแรง ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี จนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ว่า โรคติดเชื้ออาร์เอสวี เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง และการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในประเทศไทยในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ภาระโรคนั้นรุนแรงมาก ทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจร้ายแรงถึงแก่ชีวิต หรือก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจตามมา เราจะสามารถลดผลกระทบของอาร์เอสวีต่อทารกและครอบครัวได้อย่างมีนัยสําคัญ ผ่านการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรค และให้ความรู้ในด้านการป้องกัน
ล่าสุดมี วิวัฒนาการเทคโนโลยีในการป้องกัน 2 วิธีคือ การให้วัคซีนในคุณแม่ขณะตั้งครรภ์เพื่อส่งต่อภูมิคุ้มกันมายังทารกทันทีหลังคลอด และการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปฉีดแก่ทารกเลย ซึ่งเด็กเล็กทุกคนควรได้รับการป้องกัน เพราะโรครุนแรงเกิดได้แม้ในเด็กที่แข็งแรงดี ที่จริงแล้วเด็กที่นอนโรงพยาบาลจากอาร์เอสวีรุนแรงส่วนใหญ่เป็นเด็กที่แข็งแรงดีมาก่อน
นอกจากการเผยแพร่และให้ความรู้เกี่ยวกับโรคแล้ว ยังรณรงค์ให้พิจารณาเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กทารกแรกเกิดปลอดภัยจากโรคติดเชื้อ RSV ตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Nirsevimab) เพื่อป้องกันโรครุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีจัดทำโดย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (RCPedT) ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงฤดูกาลในการระบาดของโรคติดเชื้ออาร์เอสวี มักเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ดังนั้นทารกทุกคนควรได้รับการป้องกันก่อนฤดูกาลการระบาดจะเริ่มขึ้น
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (RCPedT) สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย สมาคมโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤตในเด็กแห่งประเทศไทย และสมาคมโรคหัวใจเด็กประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดทำ แนวทางการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab ขึ้นมา เพื่อป้องกันโรคจากการติดเชื้ออาร์เอสวี โดยทารกที่เกิดในช่วงฤดูกาลการระบาด สามารถรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปนี้ได้ พร้อมกับวัคซีนพื้นฐานชนิดอื่นๆได้
ทั้งนี้ มีงานวิจัยระบุว่า ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab (เนอร์ซีวิแมบ) ลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างได้ถึง 83.2% , ลดความเสี่ยงของการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคอาร์เอสวี ที่มีอาการรุนแรงและต้องการออกซิเจนเสริมลงได้ 75.7% , ลดระยะเวลาการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดโอกาสในการเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยหนักในเด็ก และลดความรุนแรงของโรคได้ และ สามารถรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปพร้อมกับวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กได้
อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันนี้ มีความสำคัญในการช่วยลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของการติดเชื้ออาร์เอสวี เพื่อปกป้องสุขภาพของทารกแรกเกิด ซึ่งเป็นประชากรที่อ่อนแอและเปราะบางที่สุด ผู้ที่สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาจากกุมารแพทย์ เกี่ยวกับทางเลือกในการป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวี ได้ที่สถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนตั้งแต่วันนี้ เพื่อปกป้องเด็กทารกทุกคนให้ปลอดภัยจากโรคติดเชื้ออาร์เอสวี ในขวบปีแรกของชีวิต