เทศบาลเมืองเขลางค์นครลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU) โครงการซื้อขายไฟฟ้าระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน ท้องถิ่นแรกของลำปาง

วันนี้ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU) โครงการซื้อขายไฟฟ้าระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา กับนายอนุรักษ์ พิณรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปภพ โซลาร์ จำกัด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ตามโครงการซื้อขายไฟฟ้าระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ระหว่าง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร กับ บริษัท ปภพ โซลาร์ จำกัด ณ ห้องประชุมเขลางค์นคร ชั้น 3 สำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการร่วมเป็นสักขีพยาน

โดยนายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร ได้กล่าวถึงโครงการดังกล่าว ว่าสืบเนื่องจากเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ตั้งแต่ 26 สิงหาคม 2562 ได้ย้ายมาที่ทำการใหม่ มีอาคารหลังใหญ่ อาคารศูนย์ผู้สูงวัย สถานธนานุบาล มีภาระค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้า เฉลี่ยเดือนละ 110,000 กว่าบาท แม้จะมีมาตรการลดการใช้ไฟฟ้า มีการควบคุมการใช้เครื่องปรับอากาศ กำหนดช่วงเวลาใช้งาน แต่ค่ากระแสไฟฟ้ายังมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ล่าสุดปี 2567 ทั้งปี มีค่าใช้ไฟฟ้า เป็นจำนวนกว่า 3,354,500 กว่าบาท

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองเขลางค์นครมุ่งส่งเสริมและพัฒนา การนำเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมาใช้ในการทำงาน ตามนโยบายของรัฐบาล และได้พยายามลดการใช้ไฟฟ้าตามมติคณะรัฐมนตรี 22 มีนาคม 2565 ที่ให้ทุกส่วนราชการลดการใช้ไฟฟ้าลงให้ได้อย่างน้อย 20% โดยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนพัฒนาเมืองแห่งการลดใช้พลังงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ที่ผ่านมา

ในส่วนของงานบริการสาธารณะในชุมชน ได้มีการจัดทำสูบน้ำประปาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนโคมไฟฟ้าถนนเป็นโคมโซลาเซลล์ ในการใช้ไฟฟ้าทดแทนและการจัดการพลังงานไฟฟ้า โดยจะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน
และในส่วนของอาคารสำนักงาน ได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท ปภพ โซล่า จำกัดในวันนี้ ในโครงการซื้อขายไฟฟ้าระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน หรือพลังงานทางเลือก หรือพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ภายในสำนักงาน ซึ่งจะช่วยทำให้ประหยัดการใช้ไฟฟ้าในอาคารอย่างน้อย 10-15% นับเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งแรก ที่จะเป็นต้นแบบความร่วมมือในการบริหารจัดการพลังงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ (BCG Economy Model) ในด้านเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ที่คำนึงถึงการดำเนินกิจกรรมขององค์กรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ ลดภาวะโลกร้อน และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
cr.เพจเทศบาลเมืองเขลางค์นคร