ขึ้นเขาปู่ด่าง วนอุทยานห้วยน้ำซับ ชมดอกปอคาวร้อยปี บานสะพรั่ง
( วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568) วนอุทยานห้วยน้ำซับ ร่วมกับชุมชนบ้านสายเพชร ตำบลทองมงคล อำเภอบางสะพาน ชวนนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรม ‘ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม “ชมความงามดอกปอคาว หรือดอกกาสะลอง’ 2568 ณ วนอุทยานห้วยน้ำซับ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กิจกรรมนี้เริ่มต้นจากวิถีชีวิตพื้นบ้าน และได้รับการสืบทอดจนกลายเป็นประเพณีที่มุ่งหวังอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในชุมชน
โดยวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา นางสาววราภรณ์ ไชยสมุทร หัวหน้าวนอุทยานห้วยน้ำซับ และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่ต้องการเดินขึ้นไปชม ‘ดอกปอคาว’ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ‘ดอกกาสะลอง’ บนเขาปู่ด่าง เส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งมีระยะทาง 450 เมตร ซึ่งต้องใช้เวลาเดินขึ้นไปราว 40-1 ชั่วโมงแล้วแต่สภาพร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางลาดชัน เป็นเขาหินปูน ตลอดเส้นทางต้องใช้เชือกผูกติดไว้กับต้นไม้เป็นระยะเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เกาะขึ้นไป ตลอดระยะทางจัดเจ้าหน้าที่ไว้ทุก 100 เมตรคอยดูแลให้คำแนะนำ ซึ่งตั้งแต่เวลา 05.30 น.ผู้ที่ร่วมทริปเดินขึ้นเขาทยอยมาลงทะเบียนจำนวนมาก จึงต้องแบ่งเป็น 4 รอบๆละ 20 คน ทยอยขึ้นตั้งแต่ 06.30 น. 07.30 น. 08.30 น. และ 09.30 น. ซึ่งบางส่วนต้องการขึ้นไปชมบรรยากาศยามเช้า เนื่องจากอากาศดี ไม่ร้อน จนเกินไป โดยผู้ที่เดินขึ้นไปหลังเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันแล้วก็ทยอยลงมากว่าจะหมดจนถึงช่วงบ่ายโมงกว่าๆ สำหรับในช่วงบ่ายไปแล้วนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปควรลงมาถึงด้านล่างราว 6 โมงเย็น
ทั้งนี้มีนายสุทิน ประเสริฐศักดิ์ นายอำเภอบางสะพาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ และนายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา หน.อช.อ่าวสยาม(เตรียมการ) ตลอดจนเจ้าหน้าที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้
หน.วนอุทยานห้วยน้ำซับ กล่าวว่า ดอกปอคาว หรือที่ชาวบ้านบางสะพานเรียกกันว่า ดอกกาสะลอง เป็นพืชไม้โขดโบราณอายุนับร้อยปี ออกดอกบานสะพรั่งบริเวณยอดเขาปู่ด่างในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี โดยขณะนี้เริ่มบานประมาณ 40-50% และจะบานเต็มที่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม ก่อนที่ดอกจะเปลี่ยนเป็นฝักสีแดงเข้มในปลายเดือนมีนาคม ซึ่งก็จะสวยงามเช่นกัน
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ ที่จะเดินทางมาชมต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม สิ่งสำคัญควรสวมถุงมือ และสวมรองเท้าผ้าใบที่มีความแข็งแรงเนื่องจากด้านบนพื้นผิวหินปูนจะแหลมคม มีต้นมะยมทองที่มีหนามอีกด้วย จึงต้องเดินอย่างระมัดระวัง เนื่องจากพื้นผิวหินปูนบนยอดเขาค่อนข้างแหลมคม และยังมีต้นมะยมทองที่มีหนามแหลมอีกด้วย
กิจกรรม ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม เริ่มครั้งแรกเมื่อปี 2548 ก่อนมีการจัดตั้งวนอุทยานห้วยน้ำซับ โดยชาวบ้านมีการปลูกต้นไม้ บวชป่า และเดินขึ้นเขาไปชม”ดอกกาสะลอง” พร้อมนำอุปกรณ์ไปเผาข้าวหลามเป็นอาหารบนยอดเขา ต่อมาเมื่อมีการประกาศจัดตั้งวนอุทยานห้วยน้ำซับในปี 2549 เพื่อรักษาสภาพป่า กิจกรรมเผาข้าวหลามจึงถูกปรับเปลี่ยนให้จัดขึ้นที่บริเวณลานดินหน้าสำนักงานวนอุทยานฯ แทน ซึ่งยังคงรักษาวิถีชุมชนดั้งเดิม เพราะถือเป็นการสร้างความสามัคคีในชุมชน และในปีนี้ทางชุมชนจัดเผาข้ามหลามในชุมชมในช่วงเย็นของวันที่ 7 แทนและเช้าถึงนำมาอุ่นให้นักท่องเที่ยวได้เห็นและรับประทานกันในวันที่ 8 ก.พ. เพียงวันเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เวทีเสวนา หัวข้อ “สืบสานประเพณี วิถีชุมชน คนรักษ์ธรรมชาติ”, นิทรรศการ, ดนตรีโฟล์คซอง และตลาดชุมชน จำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น อีกทั้งทางวนอุทยานห้วยน้ำซับยังมีลานกางเต้นท์ สำหรับผู้สนใจมีทั้งเต้นท์วนอุทยานฯหรือสามารถนำเต้นท์มากางเองได้ ซึ่งช่วงนี้กลางคืนอากาศเย็นสบาย
โดยประชาชน และ นักท่องเที่ยวที่มาจากนอกพื้นที่ทั้งที่มาเป็นครั้งแรก และบางรายเคยมาแล้วก็ตาม ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชื่นชอบกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก ถึงแม้การเดินขึ้นจะเหนื่อยและใช้เวลาก็ตาม แต่เมื่อขึ้นไปด้านบนได้เห็นดอกปอคาว หรือดอกกาสะลอง บานสะพรั่งสีส้มซึ่งสวยงามมาก เพียงแต่ต้องเดินอย่างระทัดระวังและต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอิน และหากมีโอกาส หากทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สามารถพัฒนาเส้นทางโดยเฉพาะด้านบนที่เป็นแผ่นหินแหลมคม หากสามารถยกระดับทำเป็นทางเดินได้เชื่อว่าจะส่งผลดี และเกิดความปลอดภัย
นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเดินทางมายัง วนอุทยานห้วยน้ำซับ ม.9 บ้านสายเพชร ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้เส้นทางจากถนนเพชรเกษม กม.ที่ 389 ฝั่งขาล่องใต้ เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 087-4030757 หรือเยี่ยมชมเพจ วนอุทยานห้วยน้ำซับ