ตรัง ร้องผู้ตรวจการฯ เร่งสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบิน หลังงานค้างแค่ 2% แต่ล่าช้านาน

 

จ.ตรัง ประชุมพิจารณาติดตามการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องร้องเรียนความล่าช้าในการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานตรัง ทั้งที่เหลืองานอีกแค่ 2% เท่านั้น

วันที่ 28 พ.ค.68 ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมพิจารณาติดตามการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องร้องเรียนความล่าข้าในการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานตรัง โดยมี นางขนิษฐนันท์ อภิหรรษากร รองเลขาธิการสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ผอ.ท่าอากาศยานตรัง นายอำเภอเมืองตรัง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้แจ้งเรื่องเพื่อทราบในประเด็นเรื่องร้องเรียนกรณีร้องเรียนว่า กรมท่าอากาศยาน และท่าอากาศยานตรัง ไม่ติดตามเร่งรัดให้เอกชนที่เป็นคู่สัญญาดำเนินการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานตรัง ให้แล้วเสร็จตามระยเวลาที่กำหนด ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงได้มีคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะให้กรมท่าอากาศยาน เร่งรัดดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ (Acton Plan)
ส่วนในการจัดหาผู้รับจ้างต้องพิจารณาถึงศักยภาพความเชี่ยวชาญในงาน และปัจจัยเสี่ยงต่อการทิ้งงานของผู้รับจ้างเป็นพิเศษ รวมทั้งให้กำกับดูแลในการปฏิบัติตามสัญญาอย่างใกล้ชิด และในระหว่างที่ยังไม่มีผู้รับจ้างรายใหม่ หรือการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ต้องจัดให้มีการดูแลความปลอดภัยของทรัพย์สิน หรือมีมาตรการป้องกันความเสียหายจากวัสดุถูกทำลาย สูญหาย และบุคคลภายนอกบุกรุกเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างจนอาจสร้างความเสียหายที่เพิ่มขึ้น
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และคณะรองเลขาธิการสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงพื้นที่อาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานตรัง เพื่อสำรวจความเสียหายและการก่อสร้าง โดยมีรองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน และ ผอ.ท่าอากาศยานตรัง ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ให้รับทราบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติตรัง ซึ่งล่าช้ามานานหลายเดือนแล้ว โดยย้ำให้หาผู้รับเหมารายใหม่มาก่อสร้างในส่วนที่เหลืออีกแค่ 2% ให้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2568 ด้วยงบประมาณ 34 ล้านบาท แต่จนกระทั่งบัดนี้การดำเนินการก็ยังล่าช้า จนมีการร้องเรียนไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าว

\"\" \"\" \"\" \"\"